อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1208 พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1208 พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน
เจ้าบ้านซ่างกวนรู้ว่าปกตินางก็เป็นคนใจกล้าหน้าด้าน เพียงแต่เขาคิดไม่ถึงว่า มู่หน่วนคิดจะฆ่าราชินี
ราชินีเป็นผู้ปกครองแคว้นน้ำแข็ง ใช่ว่าจะสามารถฆ่าได้ง่ายๆ
เขาพูดขึ้นมาอย่างโกรธเคืองว่า “ตระกูลซ่างกวนของเราจงรักภักดีต่อราชินี ไม่เคยคิดทรยศ ด้วยคำพูดของเจ้าเมื่อกี้ ข้าก็สามารถฆ่าเจ้าได้”
กู้ชูหน่วนหัวเราะเย้ย
เวลาไหนแล้ว ยังจะมาแสร้งทำเป็นดัดจริต
“พูดกันตรงๆเลยดีกว่า เจ้าบ้านซ่างกวนคงรู้แล้วว่าตระกูลหนิงถูกฆ่าล้างตระกูลแล้ว และก็รู้ว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของราชินี”
“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไร”
“เจ้ารู้แน่นอนอยู่แล้ว ในใต้หล้านี้ นอกจากราชินีแล้ว ยังจะมีใครสามารถฆ่าล้างตระกูลหนิงหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ได้ภายในคืนเดียวบ้าง?”
“ราชินีอยากฆ่าล้างตระกูลหนิงก็ฆ่าเลย รอวันไหนเขาอารมณ์ไม่ดี ก็สามารถฆ่าล้างตระกูลซ่างกวนได้ทุกเมื่อ”
เจ้าบ้านซ่างกวนไม่พอใจ พูดขึ้นมาอย่างโกรธโมโหว่า “เจ้าก็ฆ่าล้างตระกูลไป๋หลี่ไปแล้ว”
“ข้าฆ่าล้างตระกูลไป๋หลี่ แต่เจ้าก็น่าจะรู้ ข้าฆ่าล้างตระกูลไป๋หลี่นั้นได้วางแผนมานานมากแล้ว ซึ่งในนี้ ยังต้องยกความดีให้กับพวกเจ้าทั้งสามตระกูลใหญ่กับราชินี”
“สามตระกูลใหญ่ล้วนคาดหวังให้ตระกูลไป๋หลี่ถูกทำลาย ดังนั้นพวกเจ้าจึงช่วยยั่วยุ ส่วนราชินี นางรู้ทั้งรู้ว่าข้าต้องการทำลายล้างตระกูลไป๋หลี่ ก็ไม่ได้ห้าม กระทั่งยังช่วยกีดขวางไม่ให้สำนักอื่นมาช่วยเหลือตระกูลไป๋หลี่ เจ้าเป็นเจ้าบ้านคนหนึ่ง ต่อให้ราชินีกระทำอย่างลึกลับแค่ไหน ยังไงก็ต้องสืบรู้ร่องรอยอยู่บ้างมั้ง”
“ตระกูลไป๋หลี่กระทำเรื่องชั่วร้ายมากมาย คนที่อยากทำลายล้างพวกเขามีเยอะแยะ ใครจะไปรู้ว่ามีคนแอบอ้างชื่อของราชินีกระทำเรื่องชั่วหรือเปล่า”
“หลายปีมานี้ยอดฝีมือทั่วทั้งทวีปปิงหลิงหายตัวไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น ส่วนราชินีเรียกพบกลุ่มวัยรุ่นที่มีวิทยายุทธยอดเยี่ยมอยู่บ่อยครั้ง”
“เจ้าอยากพูดว่าอะไร?”
กู้ชูหน่วนดื่มชาอีกหนึ่งคำ ชุ่มคอแล้ว ก็พูดต่อไปอีกว่า “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์บอกข้าว่า ตอนที่ต่อสู้กับตระกูลไป๋หลี่ ผู้อาวุโสมากมายเพียงบาดเจ็บสาหัสแล้วหลบหนีไป ไม่ได้ตาย เพราะมียอดฝีมือปิดหน้ามาช่วยพวกเขาไป”
“ข้าเคยกลับไปที่ตระกูลไป๋หลี่ พบศพผู้อาวุโสที่หนีไปพวกนั้นแล้ว พวกเขาถูกดูดวิทยายุทธจนตาย”
“ชายหนุ่มที่เข้าวังไปปรนนิบัติรับใช้ราชินี ก็ถูกดูดเลือดกับวิทยายุทธจนหมด สุดท้ายโครงกระดูกกลายเป็นสองท่อน รวมทั้ง….พวกหลินซือหย่วน…..”
เจ้าบ้านซ่างกวนฟังคำพูดของกู้ชูหน่วน ในใจถูกกระตุ้นเหมือนคลื่นมหึมา
เขาไม่อยากยอมรับว่า คนพวกนั้นถูกราชินีทำร้ายจนตาย
แต่ข้อสงสัยมีเยอะขนาดนั้น บวกกับราชินีโหดเหี้ยมอำมหิต ฆ่าคนบริสุทธิ์ เป็นสิ่งที่นางกระทำอย่างไม่น่าแปลก
แต่ว่า…..
ดูดเลือดกับวิทยายุทธของคนอื่นจนหมด สุดท้ายแม้แต่กระดูกก็กลายเป็นสองท่อน….
วิทยายุทธแบบนี้ อำมหิตชั่วร้ายเกินไปไหม
ราชินีเป็นประมุขของประเทศ ทั่วทั้งใต้หล้าล้วนเป็นของนาง นางจะฝึกวิทยายุทธแบบไหนจะไม่ได้?
เจ้าบ้านซ่างกวนพูดขึ้นด้วยเสียงเข้มว่า “วิทยายุทธชั่วร้ายแบบนี้ เจ้าก็เป็นไม่ใช่หรือ?”
กู้ชูหน่วนอึ้ง
เรื่องดูดวิทยายุทธของคนอื่นจนหมดนี้ นางเคยทำจริงๆ
แต่จนถึงตอนนี้นางยังไม่รู้เลยว่าดูดวิทยายุทธของคนอื่นยังไง
ตอนนั้นนางก็รู้สึกแปลกประหลาด
ด้วยเหตุนี้ ทุกสำนักในใต้หล้าต่างเห็นว่านางเป็นนางมารร้าย อยากที่จะกำจัดเพื่อไม่เป็นภัยในภายหลัง
“เจ้าบ้านซ่างกวนยกย่องข้าเกินไป ข้าเป็นเพียงผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งเท่านั้นเอง จะมีความสามารถดูดเอาเลือดกับวิทยายุทธของคนในใต้หล้าได้อย่างไร หากข้ามีความสามารถนั้นจริง ก็คงไม่ถูกพวกเจ้าไล่ตามฆ่าอยู่ทุกวัน”
เจ้าบ้านซ่างกวนหลับตา สัมผัสได้ถึงพลังวิทยายุทธของนาง ทันใดนั้น เขามองดูกู้ชูหน่วนอย่างไม่อยากเชื่อ
“ระดับห้า…เจ้าฟันฝ่าไปถึงระดับ?”
นี่เป็นการบำเพ็ญตนยังไงกัน? ต่อให้เป็นอัจฉริยะหนึ่งในพันปี ก็ไม่สามารถที่จะไปถึงระดับห้าได้ภายในเวลาสั้นขนาดนี้มั้ง?
เมื่อหลายเดือนก่อน นางเป็นคนไม่มีความสามารถคนหนึ่ง เป็นคนที่แม้แต่ระดับหนึ่งก็ไม่สามารถฟันฝ่าไปได้ นี่เพิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่เอง?
พวกเขาที่เป็นเจ้าบ้านตระกูลใหญ่ ก็แค่ขั้นสูงสุดระดับห้าเท่านั้นเอง
เป็นแบบนี้ต่อไป ผ่านไปอีกสักช่วงหนึ่ง นางก็จะล้ำหน้าพวกเขาแล้ว?
เจ้าบ้านซ่างกวนรู้สึกเสียใจขึ้นมา
เขาไม่น่ายกเลิกการหมั้นระหว่างนางกับหมิงหลาง
หากตระกูลซ่างกวนมีคนอัจฉริยะแบบนี้สักคน กังวลไปทำไมว่าบารมีจะยืนยาวไปเป็นร้อยปีไม่ได้?
“เป็นไปไม่ได้ที่ใครก็ตามจะไปถึงระดับห้าได้ภายในช่วงเวลาสั้นๆ ช่วงที่ผ่านมานี้เจ้าฟันฝ่าได้อย่างไร? หรืออาศัยการดูดเอาวิทยายุทธของคนอื่น?”
ความเจ็บปวดในสายตากู้ชูหน่วน ถูกนางปกปิดอย่างรวดเร็ว แล้วพูดขึ้นว่า “เดิมข้าเป็นเพียงขั้นกลางระดับสี่ ราชินีอยากจะดูดเอาวิทยายุทธของผู้เฒ่าหนิง ข้าทำลายแผนการของนาง….ก่อนที่ผู้เฒ่าหนิงจะสิ้นใจ ได้ถ่ายทอดพลังทั้งหมดกับข้า”
“หัวหน้าตระกูลหนิงตายแล้ว?”
“อืม หากเขายังไม่ตาย ราชินีจะฆ่าล้างตระกูลหนิงได้ง่ายๆ ได้อย่างไร”
“หัวหน้าตระกูลหนิงมีวิทยายุทธสูงส่ง ภายในเจ้าบ้านสี่ตระกูลใหญ่ วิทยายุทธของเขาเป็นรองตระกูลเวินเท่านั้น หากข้าเดาไม่ผิด พลังของเขาน่าจะถึงระดับหก คนปกติที่ฆ่าเขาได้อย่างไร?”
“เพราะราชินีคือระดับเจ็ด”
“ปัง….”
เจ้าบ้านซ่างกวนตกใจพรวดลุกขึ้นมา ฝีเท้าสะดุดโซเซ จนเกือบล้มลง
“เจ็ด….ระดับเจ็ด….เป็นไปได้อย่างไร พันปีมานี้ทวีปปิงหลิงไม่เคยมีใครไปถึงระดับเจ็ด ระดับเจ็ดเป็นเพียงตำนาน นางเป็นประมุขของแผ่นดิน งานยุ่งอย่างมาก จะไปถึงระดับเจ็ดได้อย่างไร”
เจ้าบ้านซ่างกวนนึกว่ากู้ชูหน่วนล้อเขาเล่น
แต่สีหน้ากู้ชูหน่วน ไม่เหมือนพูดล้อเล่นเลย
เจ้าบ้านซ่างกวนหัวใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ใช่เพราะประคองโต๊ะไว้ คงไม่สามารถยืนมั่นคงได้
“ระดับเจ็ด….ระดับเจ็ดจริงๆหรือ….เป็นไปได้อย่างไร….นี่เป็นไปได้อย่างไร….”
“ตระกูลไป๋หลี่ถูกข้าฆ่าล้างตระกูลจริง แต่ราชินีเป็นตั๊กแตนไล่จับจักจั่น นกขมิ้นอยู่ข้างหลัง นางดูดเอาเลือดกับวิทยายุทธของยอดฝีมือตระกูลไป๋หลี่นับไม่ถ้วน คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดคือนาง”
“นางยอมให้ตระกูลไป๋หลี่ถูกฆ่าล้างตระกูล นางสามารถฆ่าล้างตระกูลหนิง ดูดเอาวิทยายุทธทั้งหมดของคนตระกูลหนิง ไม่เหลือชีวิตใครสักคน แม้แต่สัตว์ก็ไม่เว้น ไม่นานสักวัน นางก็จะฆ่าล้างทั่วทั้งตระกูลซ่างกวน”
“เหตุผลของการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน ข้าเชื่อว่าเจ้าบ้านซ่างกวนไม่มีทางไม่เข้าใจ”
“เจ้ามีชื่อเสียงฉาวโฉ่ ข้าจะเชื่อคำพูดของเจ้าได้อย่างไร”
“เชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่เจ้า ข้าเพียงแค่บอกความจริงแก่เจ้า พลังความสามารถของราชินีไปถึงระดับเจ็ดแล้ว บนโลกนี้ไม่มีใครสามารถต่อสู้กับนางได้ นอกจากร่วมมือกัน หากเจ้าไม่เตรียมตัวไว้ก่อน เป้าหมายต่อไปของนาง จะต้องเป็นตระกูลซ่างกวนอย่างแน่นอน ยังไงกระดูกของตระกูลซ่างกวนก็หอมหวานสมบูรณ์ที่สุด ยังไม่ใช่เรื่องยากในการลงมือ”
คำพูดประโยคสุดท้าย ทำให้สีหน้าเจ้าบ้านซ่างกวนย่ำแย่อย่างมาก
ความหมายของกู้ชูหน่วนก็คือ ตระกูลเวินยากที่จะลงมือที่สุด
ตระกูลซ่างกวนของพวกเขา หากราชินีต้องการ เพียงแค่ลงมือก็สามารถฆ่าได้อย่างง่ายๆ
“หากเป็นดั่งที่เจ้าพูด ราชินีมีพลังถึงระดับเจ็ดแล้ว ยังเป็นประมุขแคว้นน้ำแข็ง ต่อให้พวกเราร่วมมือกัน จะสามารถต่อสู้กับนางได้หรือ?”
“อาศัยเพียงเราสองคนนั้นสู้นางไม่ได้อยู่แล้ว”
เจ้าบ้านซ่างกวนแลดูค่อนข้างเหนื่อยล้า
เขาโบกมือ พูดขึ้นอย่างสลดใจว่า “ช่างเถอะ ต่อให้นางไม่ใช่ระดับเจ็ด เพราะนางราชินีของแคว้นน้ำแข็ง เราก็สู้นางไม่ได้”