อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1210 เสียใจ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1210 เสียใจ
กู้ชูหน่วนหันเดินไปผลักประตูเปิดออก พร้อมพูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจว่า “ไม่รู้”
เดินไปได้หลายก้าว นางก็ย้อนกลับมา
“ใช่ ช่วงหลายวันก่อนราชินีคิดอยากบำเรอซ่างกวนหมิงหลาง หลังจากนั้นก็จะดูดวิทยายุทธของเขา ข้าเข้าไปเสือก ช่วยชีวิตเขาไว้ แต่ซ่างกวนหมิงหลางมีพลังระดับสาม ราชินีไม่มีทางปล่อยเขาแน่ หากข้าเดาไม่ผิด สามวัน มากที่สุดแค่สามวัน หากซ่างกวนหมิงหลางยังไม่ได้ออกมาจากในวัง แม้แต่กระดูกของเขาพวกเจ้าก็จะหาไม่เจอ”
สีหน้าเจ้าบ้านซ่างกวนย่ำแย่ขึ้นมาทันที
กู้ชูหน่วนไปแล้ว
นางระมัดระวังตัวรอบๆตลอดว่ามีคนสะกดรอยตามมาไหม
คนของตระกูลซ่างกวนก็คอยปกป้องกู้ชูหน่วนอยู่อย่างลับๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครรู้ว่าตระกูลซ่างกวนติดต่อกับกู้ชูหน่วน
หลังจากกู้ชูหน่วนไปแล้ว ผู้อาวุโสซ่างกวนชิงลุกขึ้นมา
เขาพูดขึ้นด้วยท่าทีหนักใจว่า “เจ้าบ้าน มู่หน่วนพูดความจริงหรือ?”
เจ้าบ้านซ่างกวนเหม่อลอย สั่งคนมารินน้ำชา
หากพิจารณาดูดีๆแล้ว ก็จะสามารถเห็นว่า มือของเขาที่ถือถ้วยน้ำชานั้นค่อนข้างสั่นเทา เพียงแต่เขาควบคุมไว้ได้ดีเท่านั้น
เขาพูดตอบอย่างไม่มีชีวิตชีวาว่า “เจ้าคิดว่าอย่างไร?”
“มู่หน่วนมีข้อน่าสงสัยมากมาย นางสามารถตายแล้วฟื้น และหลังจากตายแล้วฟื้นวิทยายุทธก็พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว หากไม่ใช่เพราะดูดเอาวิทยายุทธของคนอื่น นางจะไปถึงระดับห้าได้ภายในเวลาอันสั้นได้อย่างไร?”
เขาบำเพ็ญอย่างยากลำบากมาครึ่งค่อนชีวิต ก็ได้เพียงระดับห้าเท่านั้น
แต่นางล่ะ?
นางเป็นเพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้นเอง
“ข้าสัมผัสดูลมปราณของนาง พลังของนางล้วนบำเพ็ญมาด้วยตนเอง พลังที่ดูดมาจากคนอื่นนั้นมีน้อยมาก”
ซ่างกวนชิงพ่นลมหายใจเย็นออกมา พร้อมพูดขึ้นว่า “นางบำเพ็ญด้วยตนเองจริงหรือ?”
“ข้าก็ไม่อยากเชื่อ ดังนั้นข้าจึงสัมผัสดูซ้ำหลายครั้ง ผลออกมาเป็นแบบนี้จริง”
นี่เป็นเคล็ดวิชาของตระกูลซ่างกวน และเป็นความภาคภูมิใจของพวกเขา มากว่าพันปีที่ผ่านมานี้ไม่เคยผิดพลาด
ครั้งนี้…..ก็ไม่มีทางผิดพลาด
“ผู้หญิงคนนี้….เป็นอัจฉริยะจริงๆ อย่าว่าแต่แคว้นน้ำแข็ง ทั่วทั้งทวีปปิงหลิงก็ไม่มีใครอัจฉริยะได้เป็นเหมือนนางแล้ว”
ด้วยคุณสมบัติของนาง หากได้เข้ามาอยู่ในตระกูลซ่างกวนจะดีที่สุด
แต่….
คิดถึงปัญหาขัดแย้งต่างๆระหว่างตนกับนางที่ผ่านมา โดยเฉพาะนางจับตนเองแก้ผ้า แล้วแย่งเอาสิ่งของล้ำค่าไป
ซ่างกวนชิงก็โกรธโมโหขึ้นมา
คนที่มากับซ่างกวนชิง ยังมีผู้อาวุโสคนอื่นอีกหลายท่าน
พวกต่างพูดขึ้นมาว่า “ด้วยความเร็วในการบำเพ็ญของนางตอนนี้ อาจจะสามารถไปถึงระดับเจ็ดได้ หากตระกูลซ่างกวนของเรามีระดับเจ็ดคนหนึ่ง ในใต้หล้ายังจะมีใครกล้าดูถูกพวกเรา? เจ้าบ้าน นางกับหมิงหลางหมั้นหมายกันมาตั้งแต่เด็ก ถึงต่อมาจะถอนหมั้นแล้ว แต่….เรื่องการถอนหมั้นแล้วกลับมาหมั้นกันอีก ใช่ว่าจะไม่เคยมี หรือว่าเรา….”
ซ่างกวนชิงพูดขึ้นว่า “คิดอะไรอยู่ ตระกูลซ่างกวนเป็นตระกูลมีหน้ามีตา ตอนนั้นเราเป็นฝ่ายยกเลิกการหมั้น หากเป็นเพราะนางมีความสามารถ เรากลับเปลี่ยนใจ ต่อไปตระกูลซ่างกวนจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?”
“ตอนนั้นข้าพูดว่ายังไง ไม่ต้องยกเลิกการหมั้น ไม่ต้องยกเลิกการหมั้น พวกเจ้าไม่ฟัง ตอนนั้นหากไม่ยกเลิก จะเกิดเรื่องมากมายแบบนี้ไหม? มู่หน่วนก็ได้เป็นสะใภ้ของตระกูลซ่างกวนแต่แรกแล้ว หมิงหลางก็อาจไม่ถูกบีบบังคับเข้าวัง”
“ความหมายของเจ้าคือ ล้วนเป็นความผิดของข้า? อย่าลืมว่า ตอนนั้นคนที่พูดว่ายกเลิกการหมั้น คือเจ้า”
“ข้าเป็นคนพูด แต่ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง ใครจะไปคิดว่าพวกเจ้าทั้งหมดจะเอาจริงเอาจัง”
พวกผู้อาวุโสหลายคนยิ่งทะเลาะยิ่งรุนแรง
เจ้าบ้านซ่างกวนพูดขึ้นอย่างรำคาญว่า “เอาล่ะ ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว เอาเรื่องพวกนี้ทิ้งไป มู่หน่วนเป็นนักโทษที่ราชินีกำลังประกาศตามจับ อย่าว่าแต่ให้มู่หน่วนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลซ่างกวน แค่ไปมาหาสู่นาง ก็ถือเป็นการประกาศเป็นศัตรูของราชินีแล้ว”