อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1213 เขามาแล้ว
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1213 เขามาแล้ว
เจ้าบ้านซ่างกวนกะพริบตา พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่ได้มีชื่อเสียง พวกเขาลึกลับมาก น้อยครั้งมากที่จะออกมาปรากฏ ข้าก็แค่ได้ยินสุดยอดผู้อาวุโสพูดขึ้นมาเป็นบางครั้ง ส่วนเจ้า มีไฟส่งสัญญาณของเผ่าเทียนเฟิ่นได้อย่างไร? เจ้าสนิทกับพวกเขา?”
“ข้าเคยเห็นร่างกายหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่น ถือว่าสนิทกันไหม?”
เจ้าบ้านซ่างกวนหันไปมองกู้ชูหน่วนทันที สายตาฉายแววไม่คาดคิด
กู้ชูหน่วนกลับหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “นั่น เขามาแล้ว”
ลมเย็นพัดผ่าน ร่างสีขาวราวกับเทพที่ถูกเนรเทศมาสู่โลก ล่องลอยมาอยู่ตรงหน้าพวกเขา
ร่างกายชายผู้นั้นเหมือนดั่งหยก อ่อนโยนสง่างาม ลมปราณอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของหนังสือที่ไม่เปื้อนโลก
เขาแบกพิณหิมะไว้ด้านหลัง สวมหน้ากากรูปผีเสื้อ มองไม่เห็นถึงใบหน้า แต่สามารถดูได้จากลักษณะรูปร่างของเขา คนคนนี้รูปร่างหน้าตาไม่ธรรมดาแน่
เห็นเวินเส้าหยีมาถึง กู้ชูหน่วนรีบพูดแนะนำขึ้นว่า “ข้าแนะนำให้รู้จักก่อน คนนี้คือเจ้าบ้านซ่างกวน คนนี้คือหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่น แต่ก็เป็นเจ้าบ้านคนปัจจุบันของตระกูลเวิน เวินเส้าหยี”
เจ้าบ้านซ่างกวนขมวดคิ้วเล็กน้อย พิจารณามองดูเวินเส้าหยี ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ร่างกายของเวินเส้าหยีอบอวลไปด้วยความเยือกเย็น แม้แต่ดวงตาคู่นั้นก็เผยให้เห็นถึงความเย็นยะเยือก
แต่กู้ชูหน่วน ไม่หวาดกลัวความข่มขู่ของเขาเลย พูดขึ้นมาอย่างหน้าตาเฉยว่า “ไม่ต้องใช้สายตาแบบนี้ถลึงใส่ข้า ข้าทำไปก็เพราะหวังดีต่อเจ้า ราชินีฆ่าล้างตระกูลหนิงแล้ว ดูดเอาวิทยายุทธของยอดฝีมือตระกูลหนิงกับตระกูลไป๋หลี่ไปจนหมด ข้าเกรงว่าต่อไปนางคงจะลงมือกับตระกูลซ่างกวนและตระกูลเวิน จึงหวังดีแนะนำให้พวกเจ้าได้รู้จักกันอีกครั้ง เพื่อร่วมกันโค่นฆ่าราชินี”
เวินเส้าหยีหัวเราะเย้ย
เขาคือหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่น เรื่องนี้มีน้อยคนมากที่รู้
นางกลับตั้งใจพูดสถานะของเขาออกมาต่อหน้าเจ้าบ้านซ่างกวน เป็นการบีบบังคับให้เขาทำความร่วมมือกับเจ้าบ้านซ่างกวน หรือ….บีบบังคับให้เขาข้าเจ้าบ้านซ่างกวน
ส่วนเผ่าเทียนเฟิ่นพวกเขา….
ไม่สนใจที่จะทำความร่วมมือกับใคร
นางต้องการจะทำอะไรกันแน่?
เจ้าบ้านซ่างกวนพยายามยับยั้งความตื่นตระหนกในใจ พร้อมพูดขึ้นมาว่า “คิดไม่ถึงว่าเจ้าบ้านเวินจะอายุอย่างน้อย ยังเป็นถึงหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่น ล่วงเกินแล้ว”
“เผ่าเทียนเฟิ่นอยู่อย่างสันโดษมานาน เจ้าบ้านซ่างกวนก็รู้?”
“ไม่ค่อยรู้ รู้เพียงว่าเป็นเผ่าสันโดษที่ทรงพลัง เจ้าบ้านเวินคือหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่น งั้นก็ดีที่สุด เราต่อสู้กับราชินีก็จะได้เปรียบมากขึ้น ไม่รู้ว่าเจ้าบ้านเวิน….”
กู้ชูหน่วนได้สติกลับมา รีบพูดขึ้นมาว่า “ราชินีฝึกวิชาชั่วร้าย ดูดเอาวิทยายุทธกับเลือดคนเพื่อเพิ่มพลังบำเพ็ญของตน ยอดฝีมือตระกูลหนิงกับตระกูลไป๋หลี่ล้วนถูกนางดูดพลังไปจนหมด หากไม่เตรียมการรับมือล่วงหน้า ก้าวต่อไปนางลงมือทำร้ายพวกเจ้าแน่ ข้าคิดว่าพวกเจ้าสามารถทำความร่วมมือกัน เจ้าเองก็ไม่อยากที่จะอภิเษกกับราชินี โค่นล้มนางเสีย การหมั้นหมายก็ถูกยกเลิกแล้วไง”
เวินเส้าหยีอมยิ้ม แต่ภายในรอยยิ้มไม่มีความอยากยิ้ม กลับทำให้รู้สึกยิ่งเย็นชา พร้อมพูดขึ้นว่า “ที่เจ้าตามข้าออกมา ก็เพื่อสิ่งนี้หรือ?”
“ก็ใช่น่ะสิ พลังของราชินีไปถึงระดับเจ็ดแล้ว ไม่หาคนมาทำความร่วมมือ จะสามารถรับมือง่ายๆได้อย่างไร”
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ ระดับเจ็ด?”
“ใช่ ระดับเจ็ด นางดูดเอาวิทยายุทธของคนอยู่ตลอด หากไม่หยุดนาง คงจะฟันฝ่าไปถึงระดับคนแล้ว”
นี่ถือเป็นข่าวที่ทำให้เวินเส้าหยีตกตะลึง
เขารู้ว่าราชินีไม่ธรรมดา แต่ยังไงเขาก็คิดไม่ถึงว่า จะสูงถึงระดับเจ็ด
เขาหยุดอยู่ที่ขั้นสูงสุดระดับหกมานานมากแล้ว ไปไม่ถึงระดับเจ็ดสักที
ตอนนี้….
ระดับเจ็ดสามารถควบคุมทุกอย่าง ซึ่ง….รับมือไม่ง่ายจริงๆ
“ต่อให้นางเป็นระดับเจ็ดแล้วยังไง กฎของเผ่าเทียนเฟิ่นคือห้ามฆ่าทำร้ายเชื้อพระวงศ์”
“หากนางเป็นตัวปลอมละ?”
“ตัวปลอม? งั้นราชินีตัวจริงล่ะ?”
“ตายแล้ว”
เวินเส้าหยีขมวดคิ้วดกดำเล็กน้อย
“นางคือราชินีตัวปลอม ขอเพียงเจ้าโค่นล้มนาง ก็ไม่ต้องแต่งงานกับนางแล้ว”
ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า เวินเส้าหยีหวั่นไหวขึ้นมาเล็กน้อย
ไม่นาน เขาก็ดับแสงไฟนั้น
“กฎของเผ่าเทียนเฟิ่นคือการอภิเษกกับราชินี ไม่ได้ระบุว่าราชินีคนไหน ขอเพียงมีคนขึ้นครองตำแหน่งราชินี ข้าก็ยังต้องอภิเษก สิ่งที่ข้าต้องการคือ ทำให้พวกเขาเสียใจ ยกเลิกการหมั้นหมายนี้”