อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1214 ทำความร่วมมือกัน
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1214 ทำความร่วมมือกัน
“เจ้าโง่หรือ ขอเพียงโค่นราชินีตัวปลอมแล้ว แต่งตั้งราชินีคนใหม่ขึ้นมา แล้วก็ให้นางยกเลิกการหมั้นก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ”
“เห้อ เจ้าคิดที่จะใช้วิธีนี้ทำให้ราชินียกเลิกการหมั้นหมาย?”
สายตาเวินเส้าหยีเยือกเย็นมาก กู้ชูหน่วนรู้ว่า หากนางพูดว่าใช่ เวินเส้าหยีจะต้องคิดหาวิธีมากมายมารับมือนางแน่
นางยิ้มหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าเหมือนกับเย่จิ่งหาน มีพลังขั้นสูงสุดระดับหก เย่จิ่งหานตกอยู่ในมือของนางแล้ว เมื่อนางดูดพลังของเย่จิ่งหานเสร็จ แล้วจะยอมปล่อยเจ้าที่หอมหวานไปหรือ อีกอย่าง….เจ้าให้ข้าตามหาดวงจิตไม่ใช่หรือ? ข้าสัมผัสได้ถึงดวงจิตที่เจ้าต้องการนั้นในห้องลับใต้ดินของพระราชวัง”
“ห้องลับใต้ดิน?”
“ใช่ อีกดวงหนึ่งอยู่ในมือของราชินีตัวปลอมคนนั้น”
เวินเส้าหยีหรี่ตาลง กำลังพิจารณาดูกู้ชูหน่วน ราวกับอยากรู้ว่ากู้ชูหน่วนกำลังพูดเท็จหรือเปล่า
กู้ชูหน่วนปล่อยให้เขามองอย่างเต็มที่ พร้อมชูมือขึ้นมาพูดสาบานว่า “ฟ้าสวรรค์เป็นพยาน หากข้าพูดความเท็จ ก็ให้คู่หมั้นคนก่อนของข้าตายอย่างไร้ที่ฝัง”
สีหน้าเจ้าบ้านซ่างกวนมืดมิด
ใช้ความเป็นความตายของลูกชายเขามาสาบานต่อหน้าต่อตาเขา ผู้หญิงคนนี้ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลย
ไม่รอให้เจ้าบ้านซ่างกวนโกรธโมโห กู้ชูหน่วนแลบลิ้น ยิ้มหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ พร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าพูดความจริง ลูกชายของเจ้าไม่ตายหรอก”
“เจ้าผีเสื้อ เป็นอย่างไร ทำความร่วมมือได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“ขวานผานกู่ก็อยู่ในมือราชินีตัวปลอม”
“……” `
“รอหลังจากที่นางดูดพลังของเย่จิ่งหานแล้ว ถึงตอนนั้นยอดฝีมือทั้งหมดของเผ่าเทียนเฟิ่นรวมตัวกัน ก็ยากที่จะสั่นสะเทือนนาง”
“……”
“เจ้าให้ข้าฆ่าราชินี ระดับเจ็ดนะ ยังเป็นประมุขในใต้หล้า เจ้าฆ่าข้าเสียดีกว่า ยังไงหากข้าเชื่อฟังเจ้าลงมือทำร้ายนาง ข้าก็ต้องตายอย่างเดียว”
“……”
เวินเส้าหยีเม้นริมฝีปากเล็กน้อย พร้อมหันเดินจากไป
“ความแค้นที่เผ่าเทียนเฟิ่นถูกฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ เจ้าไม่แก้แค้นแล้วหรือ?”
ฝีเท้าเวินเส้าหยีหยุดชะงัก ความเยือกเย็นวาบผ่านไป
ความแค้นของเผ่าเทียนเฟิ่นต้องแก้แค้นอยู่แล้ว แต่พวกเขาจะทำความร่วมมือกับตระกูลซ่างกวนไม่ได้ หากร่วมมือกัน คุณลักษณะก็จะเปลี่ยนไปแล้ว
พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องทำความร่วมมือกับใคร
“ไม่มีข้า เจ้าหาปากทางเข้าเส้นทางลับไม่ได้” กู้ชูหน่วนตะโกนพูดขึ้น
เจ้าบ้านซ่างกวนเดินหน้าไปหลายก้าว ยืนขวางเวินเส้าหยี พร้อมพูดขึ้นว่า “เราต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน เจ้าบ้านเวิน หวังว่าเจ้าจะไตร่ตรองให้ดีอีกครั้ง”
“ตระกูลเวินจะไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องอำนาจราชวงศ์”
กู้ชูหน่วนพูดขึ้นว่า “งั้นเจ้าเอาดวงจิตกับขวานผานกู่ของเจ้า พวกเราไปโค่นราชินีเอง หากมีความจำเป็นช่วยกันควบคุมราชินีตัวปลอมก็พอ”
“อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ เจ้าต้องการดวงจิต ต้องการขวานผานกู่ ต้องการอยากให้ราชินีตัวปลอมตาย ซึ่งผ่านพวกเราถือเป็นเรื่องง่ายที่สุดแล้ว”
“อีกอย่างราชินีโหดเหี้ยมและหมกมุ่นในกาม ฆ่าคนบริสุทธิ์ ไม่คำนึงถึงความภักดี ประชาชนไม่มีอาหารอิ่มท้อง ถูกเอาเปรียบอย่างไม่สามารถเรียกร้องความยุติธรรม ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ไม่รู้ว่าแต่ละวันมีคนอดตายตั้งเท่าไหร่ ข้าเชื่อว่า เจ้าเองก็ไม่ต้องการเห็นผู้คนตกอยู่ในความทุกข์ยากเช่นนี้ใช่ไหม?”
คำพูดประโยคสุดท้ายนั้น พูดแทงใจเวินเส้าหยีอย่างไม่ต้องสงสัย
เขาอยากฆ่าเย่จิ่งหานกับเซียวหยู่เซวียน ไม่จำเป็นต้องพึ่งนาง
แต่ดวงจิตกับประชาชนในใต้หล้า ต้องยอมรับว่ามีนางถือว่าช่วยได้กว่าครึ่ง
ราชินีคนนั้น เขาเกลียดชังจากใจ แล้วจะอภิเษกกับนางได้อย่างไร?
หากนางไม่ตาย ประชาชนมีแต่จะตกอยู่ในความทุกขเวทนา ไม่อาจอยู่อย่างเป็นสุข บ้านเมืองลุกเป็นไฟ
“เจ้าต้องการให้ข้าทำอะไร”
กู้ชูหน่วนดีใจ
เวินเส้าหยีพูดประโยคนี้ออกมา แสดงว่าเขายอมตกลงทำความร่วมมือแล้ว
“ช่วยข้าพันธนาการราชินีไว้ ช่วยเหลือพวกเราฆ่านางในเวลาจำเป็นก็พอ”
“พันธนาการได้ ให้ข้าฆ่าด้วยมือตนเองไม่ได้ เผ่าเทียนเฟิ่นมีกฎ”
“ได้” ยังไงการทำร้ายจนหายใจรวยรินก็คือพันธนาการ กู้ชูหน่วนจึงไม่ปฏิเสธอีก
เวินเส้าหยีพูดขึ้นมาว่า “ก่อนอื่น เจ้าต้องพาข้าไปยังทางลับก่อน ข้าจะต้องเห็นด้วยตาตนเองว่าดวงจิตดวงนั้นอยู่ในนั้นจริงหรือเปล่า”