อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1218 ปะทะกัน
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1218 ปะทะกัน
คนโง่ยังรู้เลยว่า กู้ชูหน่วนพูดความเท็จ
หากอีกด้านมีดวงจิตอีกดวง บนหน้าผากของนางก็สัมผัสได้ตั้งแต่แรกแล้ว
เวินเส้าหยีก็ไม่พูดว่าอะไรนาง เพียงแค่จ้องมองดูนาง
กู้ชูหน่วนเปลี่ยนเรื่องพูดขึ้นมาอย่างหน้าตาเฉยว่า “ดูเหมือนข้าจะรู้สึกผิดไป ไปเถอะ เราไปหาดวงจิตดวงที่ห้ากันก่อน”
หลังจากเดินไปข้างหน้าได้สักพักหนึ่งแล้ว ในที่สุดก็มองเห็นห้องหินที่กว้างใหญ่
ตรงกลางห้องเห็นมีดอกบัวหนึ่งดอก บนดอกบัวมีขวดหนึ่งวางอยู่
ซึ่งขวดไม่รู้ว่าทำมาจากวัสดุอะไร รอบๆเป็นสีดำ มีกลิ่นหอมจางๆ โชยออกมา
เมื่อกู้ชูหน่วนมาถึง ขวดนั้นเปล่งประกายแสงสีขาวออกมา สัมผัสกับดวงจิตบนหน้าผากของนาง
ใบหน้าเวินเส้าหยีเผยให้เห็นถึงรอยยิ้ม อาจเป็นเพราะคิดถึงภาพต่างๆที่ผ่านมาของกู้ชูหน่วน ไม่นานรอยยิ้มของเขานั้นก็จางหายไป
กู้ชูหน่วนก็คิดไม่ถึงว่าจะตามหาดวงจิตดวงที่หาได้ง่ายขนาดนั้น นางยิ้มหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “นั่น ข้าไม่ได้โกหกเจ้าใช่ไหม ความจริงใจนี้เพียงพอหรือเปล่า”
เวินเส้าหยีเดินไปข้างหน้าหลายก้าว จากนั้นก็จะหยิบเอาขวดลงมา
กู้ชูหน่วนห้ามเขาไว้ พร้อมพูดขึ้นว่า “ระวังมีค่ายกล”
เวินเส้าหยีสะบัดแขนเสื้อ งั้นก็มีลมเย็นพัดผ่าน ค่ายกลทั้งหมดบนกำแพงหินถูกทำลาย
“เห็นทีข้าคงคิดมากไปแล้ว เจ้าหยิบมาเถอะ เอาดวงจิตออกมาได้แล้วพวกเราจะได้รีบไป”
“ซี๊ด…..”
ไม่รู้ว่าเวินเส้าหยีลงมือตั้งแต่เมื่อไหร่ น้ำแข็งหลายก้อนถูกจัดเรียงไว้รอบๆ แจกัน มีแท่งน้ำแข็งแท่งหนึ่งกระแทกแจกันโดยตรง จากนั้นแจกันไม่เป็นอะไรเลย ดูแล้วไม่เหมือนมีกักดัดค่ายกล
หลังจากมั่นใจแล้วว่าไม่มีอันตราย เวินเส้าหยีค่อยลงมือหยิบเอาขวดแจกันมาไว้ในมือ
แต่มันก็สายไปแล้ว ในขณะที่เวินเส้าหยีกำลังจะลงมือ ก็มีเสียงกระหึ่มดังขึ้น ประตูหินแห่งหนึ่งถูกเปิดออก ผู้หญิงสวมชุดคลุมมังกร เดินออกมาด้วยสายตาชั่วร้าย
ถึงนางจะอายุมากแล้ว แต่ดูแลตนเองได้เป็นอย่างดี จึงดูไม่ออกว่ามีอายุมากแล้ว
รูปลักษณ์ของนางก็พอใช้ได้ แต่ความอำมหิตที่เผยออกมารอบตัวนางตลอดจนดวงตาดุร้ายคู่นั้น ทำให้เห็นแล้วรู้สึกเยือกเย็น
“ราชินี…..” เวินเส้าหยีพูดออกมาอย่างเชื่องช้า เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้อยู่ตลอดเวลา
กู้ชูหน่วนไม่รอบคอบเหมือนอย่างเวินเส้าหยี ราชินีในสายตาของนาง ไม่มีความหวาดกลัวเลย มีเพียงความขยะแขยง ความเกลียดชัง
สภาพการตายของผู้เฒ่าหนิง ยังตราตรึงอยู่ในใจของนางตลอด
ภาพที่เลว่อิ่งถูกนางทรมานก็ยังตราตรึงอยู่ในใจนางตลอด
นางจะไม่เกลียดชังนางได้อย่างไร
กู้ชูหน่วนรวบเก็บความเกลียดชังภายในใจไว้ แล้วก็ยิ้มหัวเราะพูดขึ้นมาว่า “ทำไมเจ้าเพิ่งออกมาตอนนี้ ข้ายังคิดว่าเจ้าจะยกดวงจิตดวงนี้ให้กับพวกเราแล้ว แต่ไม่ว่าเจ้าจะให้หรือไม่ หนุ่มหล่อข้างกายข้าคนนี้ จะต้องเอาดวงจิตมาให้ได้อย่างแน่นอน”
ราชินีจัดแขนเสื้อชุดคลุมมังกรของตนเองอยู่อย่างเชื่องช้า จ้องมองเวินเส้าหยีที่สวมหน้ากากผีเสื้อ หล่อเหลาดั่งเทพเซียน แล้วก็ยิ้มหัวเราะพูดขึ้นว่า “ถือว่าเจ้ารู้ตัวดี รู้จักมาหาถึงที่เองอย่างว่าง่าย ยังพาหนุ่มหล่อคนนี้มาด้วย”
“เจ้าช่วยเขารวบรวมดวงจิตครบทั้งหมดแล้ว บางทีเขาอาจจะยอมมอบกายให้กับเจ้า แต่ลองถามเขาดู”
เวินเส้าหยีเกลียดชังราชินีอย่างมาก เขาร้อนใจที่จะเอาดวงจิตดวงนั้นมาให้ได้ มุมปากของเขากระตุกยิ้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่รู้ว่าราชินีจะยอมแบ่งรัก มอบดวงจิตดวงนั้นให้ข้าได้ไหม”
“ได้ หากเจ้าอยู่ปรนนิบัติข้า”
กู้ชูหน่วนแย่งพูดขึ้นมาก่อนว่า “เขาปรนนิบัติเจ้าก็เป็นสิ่งที่สมควร เจ้าอยากที่จะแต่งงานกับเวินเส้าหยีมาตลอดไม่ใช่หรือ? นี่ไง เขามาหาแล้วไง แต่ดูเหมือนคนอื่นจะไม่ได้ชอบพอเจ้า กลับยังวางแผนว่าจะโค่นเจ้ายังไง”
เวินเส้าหยีขมวดคิ้ว
ผู้หญิงคนนี้….
ตกลงนางยืนอยู่ข้างใครกันแน่?