อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1220 พัฒนาการไว้
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1220 พัฒนาการไว้
ไม่ว่ากู้ชูหน่วนจะตกลงหรือไม่ เย่จิ่งหานคว้าจับข้อมือของนางแล้วก็ลากเดินไป
ตูม…..
แผ่นดินภูเขาสั่นสะเทือน ก้อนหินกลิ้งลงมาอย่างรุนแรง หลายครั้งที่เกือบทับโดนทั้งสองคน
โชคดีที่พวกเขารวดเร็ว ไม่อย่างนั้นคงถูกหินหล่นทับตายไปแล้ว กู้ชูหน่วนไม่มีทางถอยแล้ว เพราะเส้นทางด้านหลังถูกปิดกั้นแล้ว ต้องไปข้างหน้าอย่างเดียว
และนางจะสามารถรักษาชีวิตได้ไหมยังไม่รู้ อย่าว่าจากไปช่วยเซียวหยู่เซวียนเลย
“ระวัง”
เห็นก้อนหินก้อนใหญ่อีกก้อนกลิ้งลงมา แล้วทางซ้ายขวาเขาก็ไม่มีทางถอย กู้ชูหน่วนก็พยายามใช้ฝ่ามือของตนเองทลายหินพวกหลังกระเด็นไป เมื่อความอันตรายมาเยือนเย่จิ่งหานใช้ร่างกายของตนเองปกป้องกู้ชูหน่วนไว้
“ตูม….”
หินก้อนใหญ่กระแทกโดนหลังเย่จิ่งหานอย่างรุนแรง
เย่จิ่งหานร้องเสียงดัง พร้อมกระอักเลือดออกมา
“เย่จิ่งหาน……”
กู้ชูหน่วนตกตะลึง ภายในหัวสมองเหมือนมีภาพอะไรบางอย่างแล่นผ่าน
หัวใจของนางก็เจ็บปวดขึ้นมา จนหัวใจแทบหยุดเต้น
กู้ชูหน่วนยกมือขึ้นมาอย่างสั่นเทา พยายามยกหินก้อนใหญ่ก้อนนั้นเคลื่อนย้ายออกจากร่างกายของเขา
หินก้อนนี้ใหญ่และก็หนักมากจนเกินไป นางไม่กล้าคิดเลยว่าเย่จิ่งหานจะถูกหล่นทับตายหรือเปล่า
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ยังทนไหวไหม?”
ก้อนหินหนักเกินไป รถเข็นของเย่จิ่งหาน ถูกทับจนกลายเป็นเศษ ไม่มีรถเข็น บวกกับอวัยวะภายในภายนอกทั้งหมดบาดเจ็บสาหัส เย่จิ่งหานอ้าปากก็มีเลือดกระอักออกมาอีก ดูแล้วก็ย่ำแย่อย่างมาก
“ไป ข้าแบกเจ้าขึ้นมา”
ทันทีนั้น กู้ชูหน่วนแบกเย่จิ่งหานขึ้นมา หลบหลีกหินก้อนใหญ่ที่กลิ้งลงมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมวิ่งพุ่งไปข้างหน้า
เย่จิ่งหานโกรธจัด
เขาเป็นผู้ชายตัวโตคนหนึ่ง ถูกผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งแบกอยู่บนบ่าแล้ววิ่ง?
แบบนี้หมายความว่าอย่างไร?
โกรธ
โกรธจัดมาก
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาโกรธโมโห
ใต้ดินพระราชวังกว้างใหญ่มาก
หากวิ่งหนีออกไปไม่ได้ ทั้งหมดถล่มลงมา จะไม่สามารถมีโอกาสได้มีชีวิตอีกเลย
โซเซไปมา เย่จิ่งหานถูกเขย่าจนมึนหัว
เขาพยายามยับยั้งความโกรธในใจไว้
พูดขึ้นอย่างอ่อนแรงว่า “เจ้าจับไว้แน่นหน่อยได้ไหม?”
เขาไม่ใช่นางเงือก
ไหนๆก็แบกแล้ว
แบกเขาเขย่าไปมา นี่มันอะไรกัน?
กู้ชูหน่วนพูดขึ้นด้วยเสียงหอบว่า “หินกลิ้งลงมาเยอะเกินไป เจ้าตัวโตขนาดนี้ หากข้าไม่เขย่า แล้วเจ้าถูกทับตายจะทำยังไง?”
“……”
แล้วก็ถูกสะบัดอีกครั้ง
เย่จิ่งหานถูกโยนออกไป แล้วก็ถูกลากกลับคืนมา
เขากัดฟันแน่น
อดทนต่อความเจ็บปวดไว้ อยากที่จะฟาดตบกู้ชูหน่วน
ให้เขาต้องคลานออกไป ก็จะไม่ทนให้ถูกเหยียดหยามแบบนี้
จากนั้น…..
ในขณะที่เขากำลังจะลงมือ บนหัวก็มีก้อนหินหลายก้อนกลิ้งลงมาอย่างรุนแรงอีกครั้ง
สถานที่ตรงนี้ขับแคบมาก มือไม้กู้ชูหน่วนวุ่นวายไปหมด ไม่ทันได้สนใจอะไร
ส่วนเขา….
ต่อให้ส่งเสียงเตือน กู้ชูหน่วนก็วิ่งหนีไม่ทันแล้ว
แทบจะไม่ทันได้คิดอะไรเลย เย่จิ่งหานลงมาจากไหล่ของนาง ใช้แรงทั้งหมดที่มี ผลักนางออกไปอย่างแรง
ตนเองคิดอยากที่จะหลบก้อนหินก้อนใหญ่หลายก้อนนั้น
แต่….
ช้าไปหนึ่งก้าว
ก้อนหินก้อนใหญ่พวกนั้นทับตรงไหนไม่ดี กลับทับโดนบนเขาทั้งสองข้างของเขา
“อ้าก…..”
เย่จิ่งหานร้องออกมาอย่างเจ็บปวด
เดิมขาของเขาใกล้จะหายแล้ว คราวนี้ ทุกหินก้อนใหญ่หล่นทับแบบนี้ เขายังสามารถได้ยินเสียงกระดูกของตนเองหักเลย
เจ็บ
เจ็บปวดมาก
“เย่จิ่งหาน……”
“ไป เจ้ารีบไป”
“จะไปก็ต้องไปด้วยกัน”
เดิมกู้ชูหน่วนสามารถไปได้ แต่นางวิ่งกลับมา ประคองเย่จิ่งหานไว้
เมื่อนางเข้ามา ทางออกด้านนอกถูกหินก้อนใหญ่กลิ้งลงมาปิดทางไว้ทั้งหมดแล้ว
วังใต้ดินขนาดใหญ่นี้ ตอนนี้เหลือเพียงพื้นที่เล็ก ๆ สำหรับพวกเขา
ยังเป็นเพียงรอยแยกของหินเท่านั้น
เย่จิ่งหานพูดขึ้นอย่างตกใจว่า “บอกให้เจ้าไปเจ้าไม่ไป ตอนนี้เป็นไงล่ะ ถูกกักอยู่ในนี้ทั้งหมด”