อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 123 เกี่ยวอะไรกับสำนักอสุรา
ในจวนอ๋องหาน
เย่จิ่งหานนั่งอยู่บนรถเข็น มองดูพระจันทร์เสี้ยวอันกระจ่างใส ในมือหมุนแหวนหยกไปมาอย่างเกียจคร้าน
เจี่ยงเสวียที่อยู่ข้างๆรายงานทีละเรื่อง
“ท่านนาย คุณหนูสามถูกคนไล่สังหาร หนึ่งในนั้นรวมถึงฮ่องเต้ ไทเฮา รวมไปถึงคนในเผ่าปีศาจ คนที่ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือคุณหนูสามเอาไว้คือคนของสำนักอสุรา”
ลมพัดเย็นอ่อนๆ เย่จิ่งหานก็รู้สึกคาดไม่ถึงอยู่บ้าง
“สำนักอสุรา”
“ใช่ อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเจ็ดเจ้าสำนักของสำนักอสุรา เจ้าสำนักชิงเป็นผู้ยื่นมือเข้ามาช่วยด้วยตนเอง ท่าทีของพวกเขาดูจะให้ความเคารพกับคุณหนูสามเป็นอย่างยิ่ง ไม่เหมือนคนที่เจอกันครั้งแรก แต่เหมือนรู้จักกันมานานหลายปีแล้ว อีกอย่างเจ้าสำนักชิงยังมอบฝูกวงที่เป็นผู้ช่วยที่มีความสามารถมอบให้กับคุณหนูสามอีกด้วย ”
ใบหน้าอันหล่อเหลาของเย่จิ่งหานมีแววสนใจผุดขึ้นมา
ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่อง ใบหน้าที่มีเค้าโครงหล่อเหลาชัดเจนราวกับถูกแกะสลักออกมีแววอ่อนโยนกว่าแต่ก่อนมากอย่างเห็นได้ชัด
เย่จิ่งหานหัวเราะเบาๆ
น่าสนใจ
สำนักอสุราแต่ไหนแต่ไรก็อยู่อย่างเงียบๆ หลายปีมานี้ไม่เคยออกสู่ยุทธภพ คิดไม่ถึงว่าเมื่อออกสู่ยุทธภพอีกครั้ง กลับเป็นเพราะกู้ชูหน่วน
ถ้าหากเขาจำไม่ผิดล่ะก็ ฝูกวงเป็นถึงองครักษ์ประจำกายของเจ้าสำนักอสุรา
ตำแหน่งของเจ้าสำนักชิงจะสูงส่งแค่ไหน ก็ไม่มีอำนาจในการโยกย้ายองครักษ์ประจำกายของเจ้าสำนักได้
นอกเสียจากเจ้าสำนักอสุราจะเป็นผู้ออกคำสั่งเอง
นางกับสำนักอสุราเกี่ยวข้องกันอย่างไร
“ท่านนาย ข้าน้อยไร้ความสามารถ ตอนนี้ยังไม่สามารถสืบทราบได้ว่าคุณหนูสามกับสำนักอสุราเกี่ยวข้องอย่างไรกันแน่เฉิ จากการตรวจสอบ ก่อนหน้านี้คุณหนูสามไม่ได้มีการติดต่อกับสำนักอสุราโดยตรง และไม่รู้จักเจ้าสำนักชิงด้วย”
“ส่วนอี้เฉินเฟย ตอนที่ข้าน้อยตรวจสอบเขา ได้เจอกับอุปสรรคมากมาย มีคนจงใจจะปกปิดเบื้องหลังของอี้เฉินเฟย ทุกครั้งที่ข้าน้อยสืบจนพบเบาะแสที่สามารถนำไปหาต้นตอได้ เบาะแสก็ถูกตัดขาดทุกที”
ชิงเฟิงร้องออกมาอย่างตกใจ “ถึงกับมีคนกล้าขัดขวางพวกเราเชียวหรือ หรือว่าจะเป็นคนของหอหนึ่งในหล้า”
เจี่ยงเสวียพยักหน้า
นอกจากพวกเขา ยังมีใครที่มีความสามารถทำได้อีก
“ท่านนาย จะให้จับตัวฝูกวงกลับมาสอบสวนหรือไม่”
“ไม่จำเป็นแล้ว ในเมื่อเขาสามารถเป็นถึงองครักษ์ประจำกายของเจ้าสำนักอสุรา ไหนเลยจะเป็นคนที่ยอมสยบต่อการทรมานได้”
“แต่เขาอยู่ข้างกายคุณหนูสาม……”
เจี่ยงเสวียก็หุบปากลงอย่างรู้ตัว รอฟังคำสั่งของเย่จิ่งหานอย่างเงียบๆ
ริมฝีปากแดงของเย่จิ่งหานขยับเบาๆ หัวเราะขำและพูดว่า” เจ้าสำนักชิงยื่นมือออกมาช่วยกู้ชูหน่วนด้วยตนเอง เขานั้นอยากจะบอกให้ทุกคนรู้ว่า กู้ชูหน่วนนั้นเป็นคนที่สำนักอสุราให้ความคุ้มครองอยู่ อยากจะแตะกู้ชูหน่วน ต้องชั่งใจในสถานะของตัวเองเสียก่อน”
“ท่านนาย แล้วความสัมพันธ์ของพวกเขาคือ……”
“สืบต่อไป ไม่ว่าจะยากแค่ไหน ก็ต้องสืบให้ข้ารู้”
“พ่ะย่ะค่ะ”
ท้องฟ้าใกล้จะสว่างแล้ว ทางด้านทิศตะวันออกได้มีแสงสีขาวสายหนึ่งปรากฏขึ้น เย่จิ่งหานมองไปที่ประตูใหญ่หลายครั้ง ประตูที่ปิดสนิทที่สุดก็ไม่ได้ถูกเปิดออก
เจี่ยงเสวียเข้าใจทันที รายงานกลับไปว่า”ท่านนาย อาจารย์ใหญ่ของราชวิทยาลัยเพิ่งจะถูกฆ่า ราชวิทยาลัยสงสัยว่าเย่เฟิงเป็นฆาตกร คุณหนูสามพยายามช่วยเย่เฟิง ตอนนี้ยังคงสืบคดีอยู่ที่ราชวิทยาลัย คืนนี้เกรงว่า ……เกรงว่าคงจะไม่กลับมาแล้ว”
ชิงเฟิงเช็ดเหงื่อออก
คุณหนูสามช่างกล้าดีจริงๆ
ท่านนายเคยเตือนแล้ว แต่ก็ยังไม่กลับมา นี่ตั้งใจจะให้ท่านนายหมดความอดทนชัดๆ
ยังมีเรื่องที่อาจารย์ใหญ่ถูกฆ่า
อาจารย์ใหญ่เป็นผู้มีฝีมือสูงส่ง ลำพังแค่เย่เฟิงจะฆ่าเขาได้อย่างไร
“ก่อนตายใบหน้าของอาจารย์ใหญ่แสดงถึงความตกใจ ราวกับพบความลับสำคัญอะไรบางอย่างเข้า ตอนที่ตายบริเวณรอบๆไม่มีร่องรอยการต่อสู้ เป็นการถูกคนเชือดคอ รอยบาดที่ลำคอบางมาก น่าจะเป็นการฆ่าโดยใช้มีดที่บางเฉียบ”
“ส่วนประวัติของเย่เฟิง เขาเป็นนักดีดพิณของกองธงกล้วยไม้แห่งเผ่าปีศาจ ถือเป็นผู้สร้างความบันเทิงที่มีฐานะต่ำต้อยคนหนึ่ง”
“สร้างความบันเทิง”
“พ่ะย่ะค่ะ เขาได้รับคำสั่งให้เข้าร่วมงานชุมนุมแข่งขันบุ๋น แต่ความสนใจอยู่ที่กระดิ่งทลายวิญญาณ เย่เฟิงดูแล้วเหมือนไม่ใช่คนเลวอะไร เมื่อคืนเขาสวมชุดดำปกปิดใบหน้า ออกรับคมดาบแทนคุณหนูสามไปไม่น้อยทีเดียว”