อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1251 มู่หน่วนคือราชินี
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1251 มู่หน่วนคือราชินี
“หลงทางอยู่ในวังใต้ดินนานมาก ไม่มีอาหารน้ำดื่ม ตอนที่ออกมาเหลือเพียงลมหายใจสุดท้าย หลังจากบอกข่าวนี้แก่ข้า เขาก็จากโลกนี้ไปแล้ว”
“งั้นก็ไม่มีพยานบุคคล”
“หลักฐานจะมาถึงในไม่ช้า หัวหน้าหลิน เจ้าให้พวกพี่น้องหยุดมือก่อน รอตราราชลัญจกรหยกกับพระราชโองการมาแล้ว หากข้าพูดความเท็จค่อยต่อสู้อีกก็ไม่สาย”
“ข้าจะเชื่อมั่นได้อย่างไรว่า ไม่ใช่แผนถ่วงเวลาของเจ้า”
อ๋องเสวี่ยฉินโกรธโมโหจนกระทืบเท้า
เขาร้อนใจจะแย่อยู่แล้ว
หากปล่อยแบบนี้ต่อไป ทหารของแคว้นน้ำแข็งไม่รู้ว่าจะต้องล้มตายอีกเท่าไหร่
“ทำไมเจ้าโง่ขนาดนี้ เสียแรงที่เจ้าเป็นถึงผู้นำกองทัพหลวง แม้แต่จักรพรรดินีเปลี่ยนไปมากมายขนาดนี้ก็ดูไม่ออกหรือ? ทหาร รีบไปดูว่าเย่จิ่งหานหาพระราชโองการกับตราราชลัญจกรหยกได้หรือยัง?”
“รายงาน….พระราชโองการกับตราราชลัญจกรหยกหาเจอแล้ว”
ทหารได้รับบาดเจ็บกันเป็นระนาว ร่างกายเต็มไปด้วยเลือด วิ่งมาอย่างโซซัดโซเซ เอาตราราชลัญจกรหยกกับพระราชโองการ วางปรากฏตรงหน้าทุกคน
ตราราชลัญจกรหยกของแคว้นน้ำแข็งไม่เหมือนทั่วไป ทำจากวัสดุพิเศษ เมื่อนำออกมา เหล่าขุนนางล้วนรู้ว่านั่นคือตราราชลัญจกรหยกของจริง ต่างก็คุกเข่าลงน้อมถวายบังคม
“เป็นตราราชลัญจกรหยก เป็นตราราชลัญจกรหยกของจริง มีเพียงตราราชลัญจกรหยกที่สามารถปรากฏแสงสีรุ้ง”
“เอาพระราชโองการมาให้ข้า”
อ๋องเสวี่ยฉินรับพระราชโองการมาด้วยตนเอง พร้อมอ่านอย่างเสียงดังฟังชัด
“ด้วยโองการแห่งฟ้า ฮ่องเต้จึงทรงมีพระบัญชา ข้ามีพระราชธิดาคนหนึ่ง อาศัยอยู่ในตระกูลมู่ ชื่อว่ามู่หน่วน มีคุณธรรมเป็นเลิศ ทำให้ข้าพึงพอใจ ขอยกบัลลังก์ให้กับมู่หน่วน เหล่าขุนนางต้องให้การสนับสนุนช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ห้ามขัดต่อพระราชโองการ”
พระราชโองการมอบบัลลังก์ง่ายดายมาก ไม่มีคำจาอะไรมากมาย แต่ก็ระบุชัดเจนว่ายกบัลลังก์ให้กับมู่หน่วนลูกสาวตระกูลมู่
อ๋องเสวี่ยฉินเอาพระราชโองการ…..ให้เหล่าขุนนางตรวจดู
พวกเหล่าขุนนางเบิกตาโต ต่างพูดกันขึ้นมาว่า “เป็นลายพระหัตถ์ของจักรพรรดินี เป็นลายพระหัตถ์ของจักรพรรดินีไม่ผิดแน่นอน ยังมีตราราชลัญจกรหยกก็เป็นของจริง”
“หรือว่านางเป็นบุตรสาวของจักรพรรดินีจริงๆ เป็นผู้สืบทอดบัลลังก์ของแคว้นน้ำแข็ง?”
“หรือจักรพรรดินีในตอนนี้ เป็นตัวปลอมจริงๆ”
ทุกคนต่างหันไปมองราชินี
ราชินีเห็นแบบนี้ ก็หัวเราะออกมา พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเจ้าช่างโง่เขลา จนถึงตอนนี้เพิ่งรู้ว่าข้าคือตัวปลอม ฮ่าๆ….”
อะไรนะ…..
นางเป็นตัวปลอมจริงๆ?
งั้นพวกเขาจงรักภักดีผิดคนแล้ว?
สีหน้าหลินเฟยเปลี่ยนไปอย่างมาก รีบสั่งให้กองทัพหลวงหยุด แล้วก็สั่งให้พวกทหารล้อมรอบฮัวอิ่งราชินีตัวปลอมไว้
“กบฏเฮิมเกริม กล้าปลอบตัวเป็นจักรพรรดินี ควรรับโทษสถานใด”
“ปลอมก็ปลอมตัวไปแล้ว ตำแหน่งราชินีนี้ข้าก็เบื่อแล้ว พวกเจ้าอยากได้ก็ยกให้พวกเจ้า แต่ว่าเวินเส้าหยี ยังไงข้าก็ต้องแต่งงานด้วย”
ผู้อาวุโสฉีพรวดลุกขึ้นมาอย่างโกรธโมโห พร้อมพูดขึ้นว่า “เพ้อฝันไปเถอะ อย่างเจ้าหรือจะคู่ควรแต่งงานกับหัวหน้าเผ่าของเรา”
“เมื่อก่อนข้าอาจจะกลัวเผ่าเทียนเฟิ่นของพวกเจ้า แต่ตอนนี้หน่วยหลักเผ่าเทียนเฟิ่นถูกฆ่าล้างแล้ว ส่วนหน่วยย่อย ก็ไม่มีระดับเจ็ดสักคน ข้าจะกลัวพวกเจ้าไปทำไม?”
“รองหัวหน้าเผ่า ผู้หญิงคนนี้ทำเกินไปแล้ว เราจะปล่อยนางไปแบบนี้ไม่ได้”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเผ่าเทียนเฟิ่น ในเมื่อนางไม่ใช่ราชินีตัวจริง เราไม่แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับนางก็พอแล้ว”
“งั้นพวกเราไม่ช่วยพวกเขาหรือ?” หากไม่ช่วย อาศัยเพียงคนพวกนี้ ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของราชินีตัวปลอมนั่น
รองหัวหน้าเผ่าส่ายหัว
บรรพบุรุษมีคำสั่ง ห้ามเข้าไปยุ่งเรื่องราชวงศ์
ผู้หญิงคนนี้มีวิทยายุทธ์สูงส่ง พวกเขาก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง
หัวใจอันเงียบสงบของเวินเส้าหยี ถูกกระแทกด้วยก้อนหินก้อนโต
ราชินีตายแล้ว นางเป็นบุตรสาวของราชินี ผู้สืบทอดบัลลังก์….
งั้น….
คนที่เขาต้องแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ก็คือมู่หน่วน?
ไม่ว่าเวินเส้าหยีจะคิดยังไงก็คิดไม่ถึงว่า คนที่เขาต้องแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ จะเป็นมู่หน่วนที่เขาทั้งรักทั้งเกลียด