อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1255 ไม้ตาย
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1255 ไม้ตาย
รองหัวหน้าเผ่าหันไปมองดูเวินเส้าหยี บ่งบอกด้วยสายตาว่าราชินีตัวปลอมเป็นใคร
เวินเส้าหยีเข้าสู่ภวังค์ครุ่นคิด
เผ่าเทียนเฟิ่นกับเผ่าหยกมีความแค้นต่อกัน
เผ่าเทียนเฟิ่นจะรับคนเผ่าหยกมาอยู่ด้วยได้อย่างไร?
ทันใดนั้น เหมือนเวินเส้าหยีคิดอะไรได้ขึ้นมา
“หัวหน้าเผ่า เจ้ารู้ว่านางเป็นใคร?”
“ไม่แน่ใจ ไม่เคยได้ยินว่าในเผ่ามีคนเผ่าหยก แต่….”
“แต่ว่าอะไร”
“แต่มีคนกวาดพื้นคนหนึ่งค่อนข้างพิเศษ คนชั้นสูงภายในเผ่ารังเกียจนางอย่างมาก กระทั่งเกลียดชังนาง ข้าเคยถามพวกผู้อาวุโสว่านางเป็นใคร พวกผู้อาวุโสไม่บอก เพียงแค่ไม่ให้ข้าไปหานาง เข้าใกล้นาง”
หากนางคือคนกวาดพื้นในเผ่าเทียนเฟิ่นคนนั้นจริงๆ งั้นทุกอย่างก็สมเหตุสมผล
คลั่กๆ….
ฮัวอิ่งกำหมัดแน่นจนเสียงกระดูกหักดังคลั่ก
“ขั้นสูงสุดระดับห้าคนหนึ่ง ขั้นต้นระดับหกคนหนึ่ง ขั้นสูงสุดระดับหกคนหนึ่ง เพ้ยๆ คิดแล้วก็น่าอร่อยมาก”
เห็นว่าคนที่มาร่วมพิธีบวงสรวงเทวดาฟ้าดินจากไปกันพอประมาณแล้ว กู้ชูหน่วนจึงส่งสายตา ให้พวกสัตว์อสูรรีบถอยหนีไป
สัตว์อสูรต่างพากันวิ่งหนี แล้วก็ชนถูกพวกทหารขุนนางที่เพิ่งถอยหนีไปเมื่อกี้อย่างจัง
“ปัง….”
“เฮ้ย นี่พวกมนุษย์เป็นอะไรกัน หนีไปแล้วยังจะกลับมาอีกทำไม?”
ทหารคนหนึ่ง พูดตอบอย่างหวาดกลัวว่า “มี… มีผี”
“กลางวันแสกๆ จะมีผีมาจากไหน? ข้าว่าเจ้าตาฝาดไปหรือเปล่า”
“มีผีจริงๆ ฆ่ายังไงพวกเขาก็ไม่ตาย น่ากลัวมาก มีคนตายเพราะพวกเขาอย่างมากมายแล้ว”
เพิ่งพูดเสร็จ อ๋องเสวี่ยฉิน พวกหลินเฟยที่เพิ่งปกป้องผู้คนหนีไป พากันถอยกลับมาอีกครั้ง
ข้างหน้ามีกลุ่มคนชั่วร้ายพุ่งกระโจนมาด้วยผมกระเซิง
ร่างกายคนพวกนั้นอาบไปด้วยเลือด สายตาแน่นิ่ง เห็นใครก็กัด
พวกทหารองครักษ์ฟาดฟันบนตัวของพวกเขา ก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ ยังคงพุ่งกระโจนใส่คน เหมือนอย่างผีดิบ
พวกผู้คนแน่นขนัด มากมายนับไม่ถ้วน ตรงที่พวกเขาผ่าน ล้วนเต็มไปด้วยศพ
สถานที่ทำพิธีบวงสรวงเทวดาฟ้าดินที่กว้างใหญ่ กลายเป็นเหมือนนรก
หลินเฟยตะโกนพูดขึ้นมาว่า “กองทัพหลวง โจมตีทางขวา แหวกทางออกมา ปกป้องพวกอ๋องเสวี่ยฉินหนีไป”
“ขอรับ”
กองทัพหลวงแต่ละคนกล้าหาญดุร้าย เคลื่อนไหวรวดเร็ว ถึงจะไม่สามารถฆ่าประชาชนพวกนั้นได้ แต่ก็สามารถผลักพวกเขาแยกออกเป็นสองข้าง ต่อสู้อย่างนองเลือดเพื่อเป็นเส้นทางเดิน พร้อมส่งพวกอ๋องเสวี่ยฉินจากไป
เพียงแต่…..
ไม่ง่ายกว่าจะได้ถนนนองเลือดมา ก็มีประชาชนถูกครอบงำชุดใหม่ พุ่งกระโจนมาฆ่าอย่างดุร้าย ถนนตรงหน้าถูกปิดกั้นอีกครั้ง
เสียงตะโกนร้องไห้ เสียงร้องขอความช่วยเหลือ เสียงเข่นฆ่าดังสนั่น
คนที่ขี้ขลาดหวาดกลัวล้มกองลงบนพื้น ขาทั้งคู่อ่อนแรงจนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ เหล่าขุนนางมากมายก็ฉี่ราดใส่กางเกง
พวกสัตว์อสูรต่อสู้ไปด้วย ก่นด่าไปด้วยว่า “เซี้ย คนพวกนี้เดิมก็เป็นคนตายอยู่แล้วหรือเปล่า ทำไมฆ่ายังไงก็ไม่ตาย”
“เดิมพวกเขาก็เป็นคนตายอยู่แล้ว เจ้าดูสิ พวกเขาล้วนไม่หายใจ และก็ไม่รู้สึกเจ็บปวด”
ในที่สุดกู้ชูหน่วนกับพวกเวินเส้าหยีก็เข้าใจ
ทำไมราชินีตัวปลอม จึงไม่รีบลงมือทำอะไรพวกเขา
ทำไมถึงได้สงบนิ่งได้ถึงขนาดนี้
ที่แท้ นางยังมีไม้ตาย
คิดถึงเมื่อกี้ได้ยินพวกเขาพูดว่า นางฆ่าล้างคนทั้งเมือง เพียงเพื่อวางค่ายกลอย่างหนึ่ง
ซึ่งค่ายกลนั้นก็คือ ทำให้คนเป็นกลายเป็นคนเป็นที่ตายแล้ว เพื่อให้นางได้สั่งฆ่าตามอำเภอใจ
“เป็นยังไง ฝีมือเราไม่เลวใช่ไหม”
ฮัวอิ่งมองดูสถานการณ์ที่วุ่นวาย สภาพศพที่เกลื่อนกลาด แล้วก็หัวเราะขึ้นมา
กู้ชูหน่วนกัดฟัน พูดขึ้นมาอย่างเกลียดชังว่า “หากเจ้าไม่ตาย ยากที่สวรรค์จะให้อภัย”
“หงส์สีรุ้ง เกาะกลุ่มพาพวกเขาบินออกไปจากสถานที่บวงสรวงเทวดาฟ้าดิน”
“รับทราบ”
“เวินเส้าหยี เราสามคนร่วมมือกัน จัดการนางเสียก่อน แก้แค้นให้กับประชาชนบริสุทธิ์”