อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1260 ถูกหลอกแล้ว
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1260 ถูกหลอกแล้ว
เวินเส้าหยีตกอยู่ในอันตรายอย่างมาก เย่จิ่งหานกลับไม่มีวี่แววจะช่วยเลย
คิดถึงความดีที่ผ่านมาของเวินเส้าหยี ตลอดจนเขาช่วยชีวิตนาง กู้ชูหน่วนตาแดงขึ้นมา ร่างกายเต็มไปด้วยพลังอันเต็มล้น
“ปัง….”
ชนกระแทกอย่างแรงอีกครั้ง กู้ชูหน่วนชนกระแทกม่านขั้วฟ้าเปิดได้แล้ว
รองหัวหน้าเผ่าตกตะลึง
พลังที่แข็งแกร่งมาก
เวลานี้ พลังของนางอย่างน้อยก็น่าจะมากกว่าขั้นกลางระดับหกแล้วมั้ง
แม้แต่ม่านขั้วฟ้าก็สามารถพังทลายลงได้ หากไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง รองหัวหน้าเผ่าไม่เชื่อเด็ดขาด
ในขณะที่กู้ชูหน่วนพังทลายม่านขั้วฟ้าได้แล้ว เย่จิ่งหานก็ลงมือ รวบรวมกำลังฟาดไปหาฮัวอิ่ง
สีหน้าฮัวอิ่งเปลี่ยนไปทันที หันฝ่ามือมารับไว้ คิดไม่ถึงว่าเย่จิ่งหานจะฟาดฝ่ามือมาอีกครั้ง พลังแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่า
ฮัวอิ่งถูกทำร้ายอย่างไม่ทันตั้งตัว มีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก มือที่บีบคอเวินเส้าหยีไว้ก็คลายออก
เวินเส้าหยีให้ความร่วมมือ ฝ่ามือปรากฏพิณหิมะ
เสียงพิณหิมะดังขึ้นมา
สายพิณกลายเป็นสาร แต่ละเส้นพุ่งไปฆ่าฮัวอิ่ง
ฮัวอิ่งไม่ทันได้ตกตะลึง หันกลับมาโจมตีเวินเส้าหยี
เย่จิ่งหานเข้าร่วมการต่อสู้ โจมตีฮัวอิ่งทั้งข้างหน้าข้างหลัง
เย่จิ่งหานกับเวินเส้าหยีเป็นคู่อริกัน ที่ผ่านมาเคยต่อสู้กันมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่เคยร่วมมือกันเลย
และไม่รู้ว่าเป็นเพราะพวกเขาเคยต่อสู้กันมานับครั้งไม่ถ้วนหรือเปล่า จึงคุ้นเคยกันแล้ว ครั้งนี้ร่วมมือกันได้อย่างไม่มีที่ติ
ของจริงของปลอม ยากที่จะคาดเดา
ทุกครั้งที่ฮัวอิ่งคิดว่าพวกเขาจะโจมตีที่นี่ พวกเขากลับเปลี่ยนไปโจมตีในส่วนอันตรายที่นางคิดไม่ถึง
เมื่อคิดว่าพวกเขาไม่โจมตีตรงนี้ พวกเขากลับไล่บี้ตรงจุดเส้นตายของนางอย่างรุนแรง
กู้ชูหน่วนพอเข้าใจแล้วว่า ทำไมเมื่อกี้เย่จิ่งหานไม่ได้ลงมือช่วยทำลายม่านขั้วฟ้า เพราะเพื่อหาโอกาสทำร้ายฮัวอิ่งให้สาหัส
นางกระตุกมุมปากยิ้มขึ้นมาอย่างมั่นใจ ยกมือทั้งคู่ เห็นไม่ชัดว่านางเคลื่อนไหวยังไง อาวุธลับอันหนึ่งก็ถูกยิงออกไปแล้ว
อาวุธลับดูไม่สะดุดตา และก็รวดเร็วมาก ฮัวอิ่งไม่ได้ใส่ใจ ทุ่มเทกับการรับมือการจู่โจมร่วมกันของเย่จิ่งหานกับเวินเส้าหยี
เมื่ออาวุธลับเข้ามาใกล้ ก็กลายเป็นรวดเร็วขึ้นมา นอกจากนี้ยังกลายเป็นวัตถุเหล็กแหลมที่มีรูปร่างเหมือนดอกบัวหิมะที่กำลังบานสะพรั่ง
ฮัวอิ่งอยากชักมือมาทำลายอาวุธลับพวกนี้ แต่เย่จิ่งหานกับเวินเส้าหยีโจมตีไม่หยุด ไม่ให้นางได้มีโอกาสลงมือ
“ซี๊ด…..”
ฮัวอิ่งถูกอาวุธลับดอกบัวเหล็กทำร้ายบาดเจ็บอย่างไม่ทันระวัง บนแขนมีเลือดสีแดงไหลออกมา
นางโกรธโมโหจัด
“มู่หน่วน เจ้าตายแน่”
“โย้ เลือดไหลแล้ว ข้านึกว่าคนมีพลังระดับเจ็ดจะไม่มีเลือดเสียอีก ยังไงก็ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก คิดไม่ถึงว่าก็แค่นั้นเอง”
“โถ่…หากข้าเป็นเจ้า ข้าจะไม่ขยับ อาวุธลับนี้มีพิษ และยังมีพิษไว้รับมือพวกผู้แข็งแกร่งโดยเฉพาะ เจ้ายิ่งขยับ พิษก็จะยิ่งแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว”
“เจ้าคิดว่าข้าเติบโตมากับการถูกข่มขู่หรือ?”
เลือดบนแขนกระตุ้นฮัวอิ่ง
นางเห็นใครก็ฆ่า
กระบวนท่าที่ใช้ล้วนโหดเหี้ยม
เมื่อกี้เวินเส้าหยีกับเย่จิ่งหานยังพอได้เปรียบอยู่บ้าง
ตอนนี้รวมกู้ชูหน่วนแล้วมีสามคน ก็ยังไม่ได้เปรียบ
“ระวัง มีอาวุธลับ” กู้ชูหน่วนใช้ดาบสร้างเป็นดอกไม้ไปด้วย พร้อมพูดเตือนไปด้วย
ฮัวอิ่งระวังตัว กลับไม่มีอาวุธลับ
“ระวัง ข้าจะปล่อยอาวุธลับอีก”
ฮัวอิ่งยังคงระวัง แล้วก็ไม่มีอาวุธลับอีก
เป็นแบบนี้หลายรอบ กู้ชูหน่วนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเย้ย
“บอกว่าเจ้าโง่ เจ้ายังจะโง่จริงๆ ข้าหลอกเจ้า เจ้าก็เชื่อ ฮ่าๆ….”
ฮัวอิ่งหรี่ตาลงอย่างอันตราย เหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง
“ระวัง อาวุธลับของข้ามาแล้ว”
ครั้งนี้ ฮัวอิ่งไม่ได้เชื่อนาง อาวุธลับกลับตรงมาหา
หากเป็นอาวุธลับจริงๆก็ช่างเถอะ แต่อาวุธลับแตกกระจายเอง ปล่อยกลิ่นเหม็นราดใส่ตัวฮัวอิ่ง
กลิ่นเหม็นอบอวล
ฮัวอิ่งเบิกตาโต มองดูชุดคลุมมังกรของตนที่ปนเปื้อนอย่างไม่อยากเชื่อ
นี่….
นี่คืออุจจาระ
นังผู้หญิงสมควรตาย