อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 1275 ขาดแคลนเงินจริงๆ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 1275 ขาดแคลนเงินจริงๆ
“วังหลังไม่ได้มีเพียงเวินเส้าหยีกับเย่จิ่งหานอาโม่หรือ พวกเขาทั้งสามต้องใช้จ่ายเยอะเช่นนี้เลยหรือ”
“ไม่ได้มีเพียงเท่านนั้นพ่ะย่ะค่ะ มีคุณชายนับพันอยู่ในวังหลัง”
กู้ชูหน่วนแทบทรุด
นับพัน?
กู้ชูหน่วนส่งแววตาพิฆาตไปทางอ๋องเสวี่ยฉิน
ให้เขาอธิบายให้ชัดเจน มิฉะนั้นอ๋องเสวี่ยฉินเขาก็ไม่ต้องเป็นแล้ว
“ทูลฝ่าบาท คุณชายเหล่านั้นล้วนแต่… ล้วนแต่หลงเหลือหลังจากกำจัดกลุ่มกบฏ พวกเขาไปค้นหาบุรุษรูปงามจากทั่วแคว้นทุกที่ ถูกบังคับจับเข้ามาในวังหลัง ส่วนใหญ่ล้วนถูกทำให้แปดเปื้อนโดยพวกกบฏแล้ว”
“เพราะเรื่องนี้พัวพันกับชื่อเสียงของราชวงศ์ กระหม่อมจึงไม่กล้าปล่อยพวกเขาออกไป แต่ก็ไม่กล้าประหารพวกเขา ดังนั้นจึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น”
“ปล่อยพวกเขาออกจากวังเถอะ ถึงแม้พวกเขาจะไม่พูด แต่คนทั้งเมืองต่างก็รู้เรื่องนี้แล้ว จะไปสนใจชื่อเสียงแค่นี้ทำไม”
“ฝ่าบาท พวกกบฏฝึกฝนพลังชั่วร้ายร้ายกาจมาก หลังจากบรรดาคุณชายเหล่านั้นถูกข่มขืนแล้ว ส่วนใหญ่จะร่างกายพิการ เดินทางไม่สะดวก อีกทั้งด้านนอกภัยธรรมชาติยังร้ายแรง ถ้าส่งพวกเขาออกไป พวกเขาจะไม่มีอาหารและที่พัก กระหม่อม เกรงว่าพวกเขาจะไม่ยอมจากไป และยังมีคุณชายชั้นสูงบางคน พวกเขาหยิ่งทระนงมาก พอถูกพวกกบฏทำเช่นนี้… พวกเขาไม่กล้าสู้หน้าใคร ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ยอมจากไปเช่นกัน”
“เจ้ารู้ได้อย่างไร?”
“คือ…ท้องพระคลังขาดแคลนเงินไม่ใช่หรือหรือพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจึงส่งคนไปตรวจสอบ พบว่าส่วนใหญ่จะไม่ยอมออกไป”
“จะให้พวกเขาอยู่ต่อก็ไม่เหมาะ เอาเช่นนี้ ส่วนที่ไม่ยอมออกไป ก็ให้พวกเขาอยู่ต่อ”
“ฝ่าบาท พวกเขามีเกือบหมื่น ถ้าให้เงินคนละสิบตำลึง เช่นนั้น… เราไม่มีเงินเหลือให้พวกเขาแล้ว”
กู้ชูหน่วนนิ่งครุ่นคิด
เป็นเรื่องจริงที่เงินในท้องพระคลังหมดแล้ว
พวกเครื่องประดับตกแต่ง ภาพวาดส่วนใหญ่ ก็ถูกนางเอาไปจำนำหมดแล้ว
แต่ที่พวกเขาถูกจับมาแล้วถูกทำให้พิการก็น่าสงสารจริงๆ
ถ้าอยู่ในวัง ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ล้วนแต่เป็นเงินทอง
“เอาเช่นนี้ เงินที่จะให้พวกเขาข้าจะใช้สมบัติส่วนตัวให้เอง”
“กระหม่อมขอขอบพระทัยสำหรับความเมตตาของฝ่าบาทแทนคุณชายเหล่านั้นด้วยพ่ะย่ะค่ะ”
“ไปจัดการเถอะ”
อ๋องเสวี่ยฉินยืนนิ่ง ท่าทีอ้ำอึ้งลังเลที่จะพูด
“มีอะไรก็พูดมา”
“ฝ่าบาท พระองค์ก็เห็นว่าในเวลานี้เกิดภัยธรรมชาติขึ้นทุกแห่ง และในท้องพระคลังก็ขาดแคลนเงิน ถ้า… ถ้าพระองค์ยังมีเงินส่วนตัวเหลืออยู่ ขอ…”
กู้ชูหน่วนตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ไม่ได้”
เงินทั้งหมดของนางถูกบริจาคไปหมดแล้ว นางจะไปเอาเงินมาจากไหน?
เงินที่จะให้คุณชายน่าสงสารเหล่านั้น นางเองก็กำลังคิดอยู่ว่าจะหาวิธีหลอกเงินมาจากเจ้าเสือน้อยได้อย่างไร
ช่วงนี้นางมักจะเอาเงินจากเจ้าเสือน้อย จนเจ้าเสือน้อยเอาแต่หลบหน้านาง ไม่ว่านางจะเรียกกี่ครั้ง มันก็ไม่ยอมออกมา
ไม่เพียงแต่เจ้าเสือน้อยเท่านั้น แต่พวกสัตว์อสูรเห็นนางเหมือนเห็นโรคระบาด
อ๋องเสวี่ยฉินยังกล้าให้นางควักเงินของตัวเองออกมาอีก
อย่าแม้แต่จะคิด
อ๋องเสวี่ยฉินยิ้มประจบและพูดว่า “เอ่อ… ในอนาคตจะคืนให้ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ถ้ากระหม่อมมีเงิน กระหม่อมจะคืนให้ฝ่าบาทสองเท่าเลย ได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ?”
“ถ้าเช่นนั้น ฝ่าบาทขายสูตรยาอีก เมื่อก่อนฝ่าบาทขายสูตรยา มีพรรคใหญ่ แม้แต่บรรดาต่างแคว้นต่างก็แย่งชิงกันได้เงินมาจำนวนไม่น้อย?”
“อ๋องเสวี่ยฉิน นี่ท่านพุ่งเป้าหมายมาที่ข้าหรือ”
“กระหม่อมมิกล้า”
“ข้าคิดว่าเจ้ากล้าหาญมาก”
นางขายสูตรยาไปกี่สูตรแล้ว?
อย่างน้อยก็หลายร้อยสูตรแล้วไหม?
สูตรที่นางจำได้ทั้งหมด นางขายไปหมดแล้ว จะให้นางทำอย่างไรอีก
“ฝ่าบาท ที่จริงแล้วกระหม่อมยังมีวิธีที่จะได้ข้าวสารเครื่องใช้จำนวนมาก เพียงพอต่อความต้องการของแคว้นน้ำแข็งในเวลานี้พ่ะย่ะค่ะ”
กู้ชูหน่วนเริ่มรู้สึกสนใจ
“วิธีไหน?”
“อภิเษกสมรสเชื่อมสัมพันธ์กับแคว้นอี้”
“อภิเษกสมรส หยางโม่หรือหยางม่าน?”
“ทูลฝ่าบาท เป็นพระองค์เองพ่ะย่ะค่ะ”