อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 148 ความอบอุ่นของชาวบ้าน
ถ้าเทียบกับความยินดีของเหล่าชาวบ้านแล้ว สีหน้าเย่เฟิงก็เฉยเมย ราวกับเรื่องที่พวกเขาพูดไม่เกี่ยวข้องกับเขาสักนิด
สายตาที่ชาวบ้านมองเย่เฟิงล้วนเจือความเลื่อมใส จับกลุ่มคุยอะไรกันอยู่
ยังเป็นหลานของผู้ใหญ่บ้านเสียอีกที่มาขัดความยินดีของพวกเขา
“พี่เย่เฟิง ทำไมพวกเขาถึงบอกว่าท่านฆ่าคนล่ะ?”
รอยยิ้มผู้ใหญ่บ้านชะงัก ดวงตาอันขุ่นมัวกังวลเล็กน้อย “นั่นสิ ทำไมพวกเขาว่าเจ้าฆ่าคนล่ะ? คนพวกนั้นเห็นเจ้ารังแกง่าย ก็เลยจะโยนความผิดมาให้เจ้าหรือ?”
“เย่เฟิง เรื่องนี้มีวิธีอธิบายให้ชัดเจนได้หรือไม่ ถ้าอธิบายให้ชัดเจนไม่ได้ เจ้าก็รีบหนีไปเถอะ อีกาทั้งแผ่นดินก็ดำเหมือนกันหมด คนของทางการพวกนั้นส่วนมากก็ไม่ใช่พวกดีอะไร ชอบรังแกแต่ประชาชนอย่างเรา”
“วิทยาลัยตรวจสอบชัดเจนแล้ว ข้าไม่ใช่ฆาตกร เชื่อว่าจะส่งข่าวกับทางการในไม่ช้า”
“จริงหรือ? ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดีจริงๆ เย่เฟิง เจ้ารู้ไหม ราชวิทยาลัยเป็นสถานที่ที่ผู้มีความสามารถล้วนปรารถนา ขอเพียงจบจากที่นั่น ต่อไปต้องได้เป็นขุนนางใหญ่แน่ อนาคตของเจ้าสดใส เราก็ไม่ต้องเป็นห่วงพวกเจ้าแล้ว”
กู้ชูหน่วนกับเซียวหยู่เซวียนยืนเคียงไหล่กัน อิจฉาเย่เฟิงนิดๆ อย่างไม่มีเหตุผล
บรรดาชาวบ้านในหมู่บ้านสายธารเชื่อเย่เฟิงสนิทใจ โลกนี้จะมีสักกี่คนที่ทำได้อย่างเย่เฟิงกัน?
แม้ชาวบ้านจะยากจน แต่กลับมีน้ำใจ รู้ว่าพวกเขาเป็นเพื่อนของเย่เฟิง ทั้งยังเคยช่วยเขา แต่ละบ้านจึงนำข้าวสาร ผักออกมา ทำกับข้าวมื้อใหญ่ให้พวกเขากิน
อาหารมิได้รสดีอย่างของจวนอ๋องหาน แต่กลับเป็นมื้อที่ดีที่สุดตั้งแต่กู้ชูหน่วนข้ามมิติมาแคว้นเย่
เสร็จอาหารมื้อเย็น ครั้นเย่เฟิงดูแลให้ยายเย่พักผ่อนแล้ว ก็นำกระดิ่งทลายวิญญาณไปเผ่าปีศาจเพียงลำพัง
กู้ชูหน่วนกับเซียวหยู่เซวียนรอเขาอยู่ที่ป่าละเมาะ ทั้งเป็นห่วงและขู่ “ข้ายังคำพูดเดิม หนึ่งวัน ข้าให้เวลาเจ้าหนึ่งวัน หลังจากนั้นถ้าเจ้าไม่กลับมา ข้าก็บุกเข้าเผ่าปีศาจเอง”
เซียวหยู่เซวียนส่ายพัด หัวเราะเอ่ย “ยังมีข้าอีก ข้าจะบุกเข้าเผ่าปีศาจกับยัยขี้เหร่ เราสามคนเป็นหนึ่งเดียวกัน ขอเพียงมีใครสักคนประสบเคราะห์ อีกสองคนที่เหลือจะไม่ยืนดูอยู่เฉยๆ เด็ดขาด”
เย่เฟิงตันจมูกขึ้นมาทันที สลักพวกเขาไว้ในใจลึกๆ อมยิ้มพยักหน้า ย่าวเท้าไปยังสถานที่ที่ไม่อยากไปที่สุด
กู้ชูหน่วนมองแผ่นหลังที่สงบเงียบอ้างว้าง รู้สึกกังวลขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ มักรู้สึกว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
“ยัยขี้เหร่ เจ้าว่าหัวหน้ากองธงกล้วยไม้จะให้เย่เฟิงเป็นอิสระจริงหรือ?”
“รอดูก่อนแล้วกัน”
เวลาล่วงเลยไปทุกนาที พริบตาเดียวก็ใกล้จะหมดวันแล้ว ปากทางหมู่บ้านยังไม่เห็นเงาโดดเดี่ยวนั้น
เซียวหยู่เซวียนเดินกลับไปกลับมาด้วยความร้อนรน ร้อนใจเอ่ย “ยัยขี้เหร่ ข้ายิ่งคิดก็ยังแปลก เย่เฟิงเป็นคนมีเมตตาเช่นนั้น จะเอาชนะพวกเสือสิงห์กระทิงแรดเหล่านั้นได้อย่างไร? มิเช่นนั้น…เราก็ไปดูที่เผ่าปีศาจหน่อยเถอะ”
“ได้ ไปกันเถอะ”
เซียวหยู่เซวียนหุบพัด แล้วเสียบเข้าไว้ข้างหลัง ขณะที่กำลังจำนำทางไปเผ่าปีศาจ ลำคอที่ไม่ทันระวังถูกเข็มเงินแทงเข้ามา
ดวงตามืดไปแบบฉับพลัน ร่างเอนและล้มลงกับพื้น
ระหว่างที่กำลังสะลึมสะลือ เขาก็เหมือนเห็นมีคนประคองร่างที่ล้มลงของเขา เอ่ยเรียบว่า “เจ้านอนก่อน ไว้ตื่นมาทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว”
เชี่ย…!
นางคิดจะทำอะไร?
จะบุกเผ่าปีศาจคนเดียวหรือ?
เซียวหยู่เซวียนอยากบอกนาง เผ่าปีศาจไม่ได้บุกง่ายขนาดนั้น หากไม่มีคนนำทาง เกรงแต่นางจะหาไม่เจอแม้แต่ประตู
แต่น่าเสียดาย เขาสลบไปแล้ว ไม่มีโอกาสแม้แต่จะพูดสักคำ
กู้ชูหน่วนถอดเสื้อคลุมแล้วคลุมอยู่บนตัวเซียวหยู่เซวียน ส่วนตัวเองก็ออกจากหมู่บ้านสายธารเพียงลำพัง