อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 172 ฝูกวงมาช่วย
“ทุกคนข้างหน้านั้นหยุดเดี๋ยวนี้” ฉีโส่วบนหอสัญญาณยกธงใหญ่โบกไปมา และตะโกนออกคำสั่งเสียงดัง
อี้เฉินเฟิงออกตัวก่อน กระเช้ายังไปไม่ถึง เขาใช้กระเช้าในการบินขึ้นไปที่หอสัญญาณที่สาม ไปถึงก็ลงท่าไม้ตายทันที แรงมืออันทรงพลังนั้นตบพวกฉีโส่วจนกระเด็นไปไกล
ในขณะเดียวกัน เข็มเงินในมือกู้ชูหน่วนก็พุ่งออกไปดั่งพายุมาสุม ยิงไปที่มือยิงธนูอย่างรวดเร็วกลางอากาศ ป้องกันอี้เฉินเฟยจากด้านหลัง
“เพี้ยงๆๆ……”
เข็มเงินของนางเด็ดขาดมั่นคง ทุกเข็มที่ยิงออกไปก็ทำให้มือยิงธนูล้มลงไปทีละคน กลายเป็นว่าพวกเขาเริ่มได้เปรียบ
แต่พอล้มลงไปหนึ่งกลุ่ม อีกกลุ่มก็กรู่กันขึ้นมา หนึ่งในนั้นยังมียอดฝีมือระดับสองและสามปะปนอยู่ด้วย
คนพวกนี้เหมือนจะเดาได้ว่าแค่กำจัดอี้เฉินเฟยได้ คนที่เหลือไม่ใช่ปัญหา ดังนั้นพวกเขาจึงรวบรวมกำลังฉีโส่วทั้งหมด โจมตีไปที่อี้เฉินเฟยคนเดียว
อี้เฉินเฟยปกป้องทุกคนในกระเช้าไปด้วย และเผชิญหน้ากับยอดฝีมือไปด้วย อีกด้านยังต้องคิดหาวิธีในการกดปุ่มเปิดประตูรั้ว เขาไม่มีเวลาไปกดปุ่มเปิดประตูรั้วสีแดงนั่นเลย
กู้ชูหน่วนหรี่ตาลง และตัดสินใจเข้าร่วมต่อสู้ด้วย
นางไม่มีกำลังภายใน แต่นางมีวิชาตัวเบา ใช้ไหวพริบปฏิญาณและเทควันโดเฉพาะตัว ล้มคนพวกนั้นได้ไม่น้อยเช่นกัน
ยื้อเวลานานเท่าไหร่ ก็ไม่เป็นผลดีสำหรับพวกเขามากเท่านั้น
ทั้งสองอยากจะรีบสู้ให้จบไหวๆ แต่ข้างๆปุ่มเปิดประตูรั้วนั้นมียอดฝีมือระดับสามคนหนึ่งกำลังจับตาดูอยู่ไม่ห่าง
อี้เฉินเฟยกับกู้ชูหน่วนสบตากัน ไม่รู้ทำไม ทั้งสองกลับใจตรงกัน กู้ชูหน่วนโจมตี ดึงดูดความสนใจของยอดฝีมือระดับสาม อี้เฉินเฟยเคลื่อนที่ไปทางอื่น ฝ่ามืออรหันต์ตบไปที่ทุกคน แรงจากฝ่ามือทำเอาประตูรั้วเปิดออก ต่อมาก็กดปุ่มสีแดงนั้นตามไปด้วย
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ยอดฝีมือระดับสามและพวกฉีโส่วอยากเข้าไปขวาง แต่ก็ขวางไว้ไม่อยู่ ความเร็วของกระเช้าเพิ่มขึ้นหลายเท่า ผ่านหอสัญญาณที่สามไปอย่างรวดเร็ว
ยอดฝีมือระดับสามโกรธ เอาความโกรธไปลงที่กู้ชูหน่วนทั้งหมด ทุกท่านั้นล้วนเป็นท่าไม้ตายทั้งหมด
กู้ชูหน่วนหลบไปด้วยและหัวเราะไปด้วย “ตาแก่ ข้าไม่ได้เปิดประตูรั้วเองเสียหน่อย เจ้ามาใส่อารมณ์กับข้าทำไม”
ยอดฝีมือระดับสามได้ยินที่นางพูดแล้ว แต่ละท่าที่โจมตีก็โหดและหนักขึ้นเรื่อยๆ
อี้เฉินเฟยเข้ามาช่วย มีกลุ่มมือยิงธนูดึงคันธนูแล้วเล็งยิงไปที่กู้ชูหน่วนกับพวกทาสบำเรอ
เขาถูกบีบบังคับจนเหนื่อยใจ จึงต้องบังธนูที่กระหน่ำยิงออกมาเหมือนสายฝนแทนพวกเขา
วิชาตัวเบาของกู้ชูหน่วนดีแค่ไหนก็หลบกันโจมตีรัวๆของยอดฝีมือระดับสามไม่ได้ ในตอนที่กู้ชูหน่วนเป็นอันตรายนั้น แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกจากกลางอากาศก็พุ่งตรงไปที่ยอดฝีมือระดับสาม ช่วยกู้ชูหน่วนที่ตกอยู่ในอันตราย
“เพี้ยงๆๆ……”
กระบี่ร่ายรำไปตามท้องฟ้า ดาบที่ฟันออกไปวาววับและรุนแรง ทุกกระบวนท่ามีพลังการทำลายล้างมหาศาล โจมตียอดฝีมือระดับสามด้วยพลังการกวาดล้างขั้นสูงสุด
“พุ่ง……”
ยอดฝีมือระดับสามกระอักเลือด ร่างกายระส่ำระสาย ยืนไม่นิ่ง
กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นมอง กลับเห็นคนคนนั้นไม่ใช่ใครอื่น นั่นคือองครักษ์ลับส่วนตัวของนางฝูกวง
ฝูกวงในตอนนี้ยังคงมีใบหน้าคล้ายเด็กน้อย แต่ใบหน้าเด็กน้อยนั้นไม่มีความอ่อนวัย ไร้เดียงสาเหมือนแต่ก่อน มีเพียงความเย็นชาและหยิ่งผยอง
เขาเป็นเหมือนรถเกี่ยวข้าว ตลอดทางที่มานั้น พวกฉีโส่วทุกคนก็ถูกฆ่าปาดคอตายกันหมด
เพียงพริบตาเดียว บนพื้นก็มีศพนอนเกลื่อนเต็มไปหมด ทำเอายอดฝีมือระดับสามโกรธจนตัวสั่น
“นายหญิง พวกท่านไปกันก่อนเถอะ ข้าคุ้มกันให้เอง” ฝูกวงยกดาบขึ้นฟัน ก็มีหลายชีวิตล้มลงแนบเท้าเขา
อี้เฉินเฟยจับมือกู้ชูหน่วนไว้ พานางกระโดดไปที่กระเช้าคันสุดท้าย
เงยหน้าขึ้นมอง กลับเห็นฝูกวงกับยอดฝีมือระดับสามสู้กันอย่างดุเดือด
“ฝูกวงเป็นยอดฝีมือระดับไหน?” กู้ชูหน่วนถาม