อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 189 โดนควักลูกตา
สงครามเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และในตอนนี้เอง ไม่ไกลมากก็มีแรงกดดันอันแข็งแกร่งพุ่งเข้ามา ทุกคนต่างก็แหงนหน้าขึ้นไปมอง
กลับเห็นชายชราเดินเข้ามา
เขามีผมสีขาวทั้งหัว ไว้เครายาว ดวงตาแหลมคม ร่างกายแผ่ซ่านไปด้วยความเยือกเย็นที่น่าสะพรึงกลัว แค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็ไม่มีใครกล้าล่วงเกินเขาเลย
“พี่ใหญ่”
สวีซานเหนียงกับสวีเจิ้นเรียกพร้อมกัน
“ทำไมพวกเจ้ายังอยู่ที่นี่อีก?” ชายชราผมขาวหยินต้ากุ่ยถามด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“พี่ใหญ่ ผู้หญิงคนนี้ฆ่าเหล่าเจี่ยน ถ้าไม่ได้ฆ่านาง ก็ยากที่จะคลายความแค้นในใจลงได้”
สวีเจิ้นจับผมหยิกในมือของตัวเอง แล้วแสยะยิ้มเย็นชา “สองคนนี้ไม่มีกังฟูเลย ใช้เวลาไม่มากก็ฆ่าพวกเขาได้แล้ว ไม่เป็นไรหรอก”
หัวหน้าของเจ็ดผีแห่งภูเขาหยินหยินต้ากุ่ยมองไปทางกู้ชูหน่วนกับจอมมาร
ในตอนที่เห็นกู้ชูหน่วน เขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าท่าทีอะไรมากนัก
แต่ทว่าในตอนที่เห็นจอมมารซบอยู่ในอกของกู้ชูหน่วน นัยน์ตาของเขาก็ประกายไปด้วยความสงสัย เหมือนกำลังครุ่นคิด ทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาหายใจถี่มากขึ้น นัยน์ตาประกายไปด้วยความหวาดกลัว
“ไป รีบไปจากที่นี่กัน” หยินต้ากุ่ยออกคำสั่งเด็ดขาด
สวีซานเหนียงกับสวีเจิ้นไม่คาดคิดเลย พี่ใหญ่ที่มีแค้นต้องชำระ เข้าข้างพวกเดียวกัน กลับ……กลับให้พวกเขารีบไป
ทั้งสองต่างก็คิดว่าตัวเองหูฝาดไปแล้วหรือเปล่า จึงเอ่ยถามใหม่ว่า “พี่ใหญ่ ผู้หญิงคนนี้ฆ่าเหล่าเจี่ยนนะ”
“ข้าบอกให้พวกเจ้ารีบไปไงล่ะ ได้ยินหรือไม่”
น้ำเสียงของเขาร้อนรน เหมือนกำลังกลัวอะไรอยู่ แล้วอยากออกจากที่นี่โดยเร็ว
เห็นสถานการณ์แบบนี้ สวีซานเหนียงกับสวีเจิ้นก็ยิ่งสับสน
บนโลกใบนี้ นอกจากยอดฝีมือเก่งกาจจนฝืนกฎธรรมชาติไม่กี่คน ก็ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของพี่ใหญ่ได้อีก แต่พี่ใหญ่กลับกลัวเจ้าเด็กขี้แยกับยัยขี้เหร่สองคนนี้เหรอ
ลูกไก่อยู่ในกำมือให้ปล่อยไปง่ายๆแบบนี้ พวกเขาจะพอใจได้ยังไง
“พี่ใหญ่ คนใหญ่คนโตนั่นยังมาไม่ถึง พวกเราจัดการไอ้สองตัวนี้ก่อนค่อยไปเถอะ ใช้เวลาไม่มากหรอก” สวีเจิ้นพูดขึ้นอีกครั้ง
หยินต้ากุ่ยอยากจะตบปากเขาเหลือเกิน
ผู้ชายคนนี้ก็คือจอมมารผู้อำมหิตโหดเหี้ยมเกินใคร
เขากล้าเรียกจอมมารว่าไอ้ได้ยังไง
ถ้าทำให้เขาไม่พอใจ พวกเขาสามคนร่วมมือกัน ก็ฆ่าคนอื่นไม่ได้หรอก
เขาแอบเงยหน้าขึ้น เห็นจอมมารยังคงซบอยู่ในอกของกู้ชูหน่วน มือที่ไร้น้ำหนักโอบอยู่ตรงเอวของนาง แทบอยากจะหลอมตัวเข้ากับร่างกายของยัยหนูคนนั้น ดูไม่ได้โกรธอะไรเลย
หยินต้ากุ่ยก็แอบโล่งอก รีบดึงพวกเขาสองคนออกไปโดยเร็ว
สวีเจิ้นยังอยากจะพูดอะไร สวีซานเหนียงก็ห้ามเขาไว้ก่อน
“ฟังพี่ใหญ่เถอะ ถอยก่อน ต่อไปยังมีโอกาสจัดการสองคนนี้อีกเยอะ”
พวกเขาพี่น้องเจ็ดคนอยู่ด้วยกันมานาน น้อยครั้งที่จะเห็นพี่ใหญ่เสียอาการขนาดนี้ นางไม่ได้โง่ และรู้ว่าเรื่องราวไม่ธรรมดาเหมือนที่ตัวเองคิดแน่นอน
“โอ๊ย……”
ทันใดนั้นสวีเจิ้นก็ปิดปากที่อาบเลือดของตัวเองไว้แน่น แล้วคุกเข่าลงอย่างเจ็บปวด
“ตาของข้า……ข้าเจ็บตาเหลือเกิน”
สีหน้าของสวีซานเหนียงเปลี่ยนไปทันที
ลูกตาของสวีเจิ้นกระเด็นออกมาเอง?
ใครมันมือเร็วขนาดนี้กัน?
“ใคร? ใครทำ? ใช่เจ้าไหม?” สวีซานเหนียงชี้หน้ากู้ชูหน่วนอย่างโมโห
กู้ชูหน่วนถูกปรักปรำก็รีบแก้ตัวว่า “ข้าอยากจะลงมืออยู่หรอก แต่ข้าไม่มีความสามารถนั้นเนี่ยสิ เขาอาจจะโดนฟ้าสวรรค์ลงโทษก็ได้ ขนาดสวรรค์ยังทนดูไม่ได้เลย ข้าขอเตือนเจ้าหน่อยนะ ต่อไปอย่าจ้องสาวสวยให้มากนักล่ะ ครั้งนี้แค่ตาบอด บางทีวันหนึ่งอาจจะตายไปเลยก็ได้นะ ใครจะไปรู้ล่ะ”
“ยังมีเจ้าอีก อายุอานามก็มากแล้ว อย่าเอาแต่มองหนุ่มหล่อ หัดหักห้ามใจเสียบ้าง ไม่งั้นวันไหนฟ้าสวรรค์มีตา ยืดใบหน้าของเจ้าไป เจ้าว่าใช่ไหมล่ะ?”
ทุกครั้งที่กู้ชูหน่วนพูด สีหน้าของสวีซานเหนียงก็แย่ลงไปมากขึ้นเรื่อยๆ