อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 22 กล้าเดิมพันกับข้าไหม
นางไม่ได้เป็นห่วงตัวเองเลย แต่นางเป็นห่วงคุณหนูถึงได้แอบออกมาจากจวน อยากมาหาคุณหนู และรายงานเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในจวน “ปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ ทหารมาใช้ขุนพลต้านรับ น้ำมาก็ใช้ดินต้านสิ” กู้ชูหน่วนพูดไม่ใส่ใจ แต่สายตากลับประกายด้วยแรงพิฆาต
ตามที่นางคาดเดา เซี่ยหยู่อย่างน้อยก็ต้องตายในวันนี้ตอนเที่ยง จะตายเมื่อคืนได้ยังไง คงเป็นคนอื่นในจวนที่อยากกำจัดมือซ้ายขวาของอนุภรรยาห้า
ยังดีที่ชิวเอ๋อร์เป็นห่วงนาง แอบออกมารายงานก่อน ไม่งั้นนางไม่อยากจะคิดผลที่ตามมาจริงๆ
ใกล้ถึงเวลาเรียนแล้ว พวกนักเรียนเดินเข้าราชวิทยาลัยกันใหญ่ กู้ชูหน่วนพูดเสียงเรียบว่า “วันนี้เจ้าอยู่ที่ราชวิทยาลัยก่อน อย่าเพิ่งไปไหน”
ชิวเอ๋อร์ทำหน้าอยากร้องไห้
ตอนเช้าพวกนางหลบในราชวิทยาลัยได้ แต่ตอนกลางคืนล่ะ?
ชิวเอ๋อร์ยังอยากถามอะไรอีก แต่กู้ชูหน่วนเดินเข้าไปในราชวิทยาลัยก่อนเสียแล้ว
ราชวิทยาลัยแบ่งเป็นในและนอก พวกนางเป็นข้ารับใช้ จึงต้องรออยู่ด้านนอก
กู้ชูหน่วนเดินมาตลอดทาง โดยมีสายตาแปลกๆของทุกคนมองมาที่นาง
หลิวเยว่และคนอื่นๆเห็นนางมา ก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที
“พี่ใหญ่ ทำไมถึงใส่เสื้อผ้าราคาถูกแบบนี้มา? จวนเฉิงเซี่ยงรันทดขนาดนั้นเชียวเหรอ?”
กู้ชูหน่วนอดไม่ได้กุมขมับ
อย่าว่าเสื้อของนางที่เอาไปคลุมให้ท่านอ๋องหานเทพสงครามเป็นผ้าห่ม ถึงแม้จะไม่คลุมให้เขา นางยังจะกล้าใส่เสื้อตัวนั้นอีกเหรอ ถ้าเขาจำได้ขึ้นมาจะทำยังไง?
“เปลี่ยนรสบ้างเป็นบางครั้ง”
“แต่เนื้อผ้าของเสื้อตัวนี้แย่มากเลยนะ ใส่แล้วไม่คันตัวเลยหรือ?”
“ถ้าเจ้าเป็นห่วงข้าจริง ก็ให้เงินข้าเถอะ ข้าจะได้ซื้อเสื้อตัวใหม่มาใส่”
หลิวเยว่หัวเราะแหะๆ “จวนเฉิงเซี่ยงจะขาดเงินแค่นี้เหรอ? ใช่แล้ว เจ้ารู้ไหม? ทุกคนกำลังเดิมพันว่าใครจะเข้ารอบสุดท้าย ทุกคนเดิมพันว่าเจ้าแพ้หมดเลย คนพวกนั้นมีตาหามีแววไม่”
อวี่ฮุยที่เดินมาด้วยกันก็อดไม่ได้พูดต่อว่า “พี่รอง ท่านก็เดิมพันว่าพี่ใหญ่จะแพ้เหมือนกันนี่?”
หลิวเยว่จิ้มไปที่หน้าผากของเขาทีหนึ่ง และพูดว่า “เจ้าจะเข้าใจอะไร ข้าแค่เห็นพวกเขาน่าสงสาร เลยจ่ายยอมเสียเศษเงินให้พวกเขาเล็กน้อย”
กู้ชูหน่วนมองดูสีหน้าของพวกเขา นางเบะปากและยื่นมือออกไปพูดว่า “เงินที่ให้พวกเจ้าเตรียมไว้เมื่อวานล่ะ”
“อยู่นี่หมดแล้ว”
พวกเขาควักเงินออกมา แต่รวมแล้วกลับมีแค่ไม่กี่ร้อยตำลึง
กู้ชูหน่วนทำหน้าบึ้งตึง “แค่นี้เองเหรอ?”
“คือว่า……รอบก่อนใช้เยอะไปหน่อย ที่บ้านเลยไม่ให้แล้วน่ะ มีแค่นี้ก็ไม่เลวแล้ว”
พวกเขาไม่กล้าบอกนางว่า พวกเขามาถึงราชวิทยาลัยแต่เช้า และเดิมพันว่านางจะแพ้โดยวางเดิมพันหนักๆเหมือนคนอื่นๆ
เหลือเงินพวกนี้ เพราะเห็นแก่เซียวหยู่เซวียนหรอกนะ
ด้านหน้าไม่ไกลมาก พวกคุณชายตระกูลใหญ่จัดการเดิมพันนี้ขึ้นมา ตะโกนเสียงดังว่าถ้าใครที่วางเดิมพันให้คุณหนูสามกู้ชนะ ก็จะได้เงินสองร้อยเท่า แต่ทว่ากลับไม่มีใครเดิมพันว่านางจะชนะเลยสักคน ทุกคนต่างก็เดิมพันว่านางแพ้กันหมด
กู้ชูหน่วนคาบหญ้าหางหมาจิ้งจอกไว้ที่ปาก เดินไปด้วยท่าทีโอหัง เสียงดังปัง นางเอาเงินทั้งหมดในมือเดิมพันให้ตัวเองชนะ
“หนึ่งพันสองร้อยตำลึง เดิมพันให้ตัวข้าชนะ”
ทุกคนที่นั่นต่างอึ้งกันไปหมด
กู้ชูหน่วนเดิมพันให้ตัวเองชนะงั้นหรือ?
นางกลัวว่าจะแพ้จนเสียหน้าเกินไปหรือไง?
เมื่อวานนางทำเรื่องน่าอับอายขนาดนั้น คนทั้งราชวิทยาลัยมีใครบ้างที่ไม่เห็น?
หลิวเยว่และคนอื่นๆต่างก็ร้อนรนกันใหญ่ “พี่ใหญ่ วิธีการหาเงินที่บอกกับพวกเราเมื่อวาน คงไม่ใช่วิธีนี้หรอกนะ?”
“ฮ่าๆ……หาเงิน? ข้าไม่ได้หูฝาดไปใช่ไหม หรือว่ากู้ชูหน่วนคิดว่าตัวเองจะเข้ารอบสุดท้ายได้จริงเหรอ?”
“ถ้านางเข้ารอบสุดท้ายได้จริง ข้าคงเรียกนางว่าแม่ทูลหัวเลยก็ได้”
ถึงเวลาเรียนแล้ว ในราชวิทยาลัยมีคนเข้ามาล้อมวงไม่น้อย ต่างก็หัวเราะเยาะกันใหญ่ และใช้สายตาดูถูกมองนาง
องค์หญิงตังตังเดินเข้ามาอย่างสง่างาม ด้านหลังมีกู้ชูหลันและกู้ชูหยุนตามมาด้วย
นางพูดประชดว่า “คนบางคนไม่รู้จักประมาณตัวเอง คิดว่าตัวเองจะชนะได้ ไม่รู้จักเจียมตัวเสียบ้าง”
“หึ นี่ไม่ใช่หลานสาวของข้าหรอกรึ? สวัสดีตอนเช้า เจ้ามาเดิมพันให้อาสะใภ้ของเจ้าชนะเหรอ?”
“อาสะใภ้อะไรกัน อย่างเจ้าน่ะเหรอจะเป็นอาสะใภ้ของข้าได้”
“แปลกจัง หรือว่าท่านเทพสงครามไม่ใช่เสด็จอาของเจ้าหรอกเหรอ? งั้นได้ ในเมื่อท่านเทพสงครามไม่คู่ควรกับการเป็นอาของเจ้า งั้นถือเสียว่าข้าไม่ได้พูดอะไรก็แล้วกัน”
องค์หญิงตังตังโกรธจัด “ข้าว่าเจ้าอยู่นะ เกี่ยวอะไรกับเสด็จอาด้วย?”
“ข้าเป็นว่าที่ภรรยาของเขา ก็ต้องเป็นร่างเดียวกับเขาอยู่แล้ว ถ้าข้าไม่คู่ควร เขาจะคู่ควรได้อย่างไร? เจ้าวางใจได้ ข้าจะบอกความจริงทุกอย่างกับเขา บอกว่าองค์หญิงตังตังพูดในที่สาธารณะว่าเขาไม่คู่ควรกับการเป็นเสด็จอาของเจ้า”
องค์หญิงตังตังแทบกระอักเลือด ทำไมถึงไม่มีใครบอกนางเลยว่ากู้ชูหน่วนปากดีเช่นนี้?
เมื่อวานถูกนางตบหน้ากลางที่สาธารณะ ก็ทำให้นางอับอายมากพอแล้ว ตอนนี้ยังมาพูดจาว่าร้ายอีก นางจะยอมทนได้ยังไง นางเป็นองค์หญิงตังตังเชียวนะ
กำลังจะโมโห แต่กลับเห็นกู้ชูหน่วนพูดด้วยรอยยิ้ม
“องค์หญิง พวกเรามาเดิมพันกันไหม ถ้าข้าแพ้ ข้าจะปล่อยให้เจ้าจัดการกับข้ายังไงก็ได้”
องค์หญิงตังตังกลอกตาขึ้นลง แล้วถามอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เดิมพันอะไร?”
“นี่ไง เดิมพันว่าข้าจะเข้ารอบสุดท้ายไหม”
“เจ้าต้องเดิมพันว่าเจ้าแพ้?”
“ต้องชนะอยู่แล้ว”
“ได้ ข้าจะเดิมพัน ถ้าเจ้าแพ้ ข้าจะให้เจ้าเป็นข้ารับใช้ของข้าตลอดไป คอยรับใช้ข้า โดยไม่มีคำโต้แย้งใดๆ” องค์หญิงตังตังยิ้มอย่างได้ใจ
เสด็จพี่ช่วยนาง เสด็จแม่ก็ยังช่วยนางอีก แถมยังคอยเตือนนางตลอดว่าอย่าหาเรื่องกู้ชูหน่วน นางกำลังคิดหาวิธีจัดการกู้ชูหน่วนพอดี ตอนนี้นางมาส่งถึงที่เอง ไม่ว่ายังไง นางไม่มีทางปล่อยโอกาสนี้ให้หลุดรอดไปได้แน่
กู้ชูหน่วนถุยหญ้าหางหมาจิ้งจอกในปากทิ้ง แล้วตอบโดยไม่คิดอะไรเลยว่า “ได้ งั้นถ้าเจ้าแพ้ เจ้าให้เงินข้าหนึ่งล้านตำลึง”
จิ๊……
หนึ่งล้านตำลึง……
นางกล้าพูดออกมาได้อย่างไร ทำไมไม่มาขโมยเลยล่ะ?
สีหน้าขององค์หญิงตังตังเสียไปทันที กู้ชูหน่วนคิดขโมยซึ่งๆหน้า
หลิวเยว่กับคนอื่นๆต่างก็ชักแขนเสื้อของนาง แล้วพูดเสียงเบาว่า “พี่ใหญ่ พวกเราหยุดเล่นเถอะ? องค์หญิงตังตังยโสโอหังแค่ไหนก็รู้ๆกันดี ถ้าเจ้าตกอยู่ในมือนางเข้า คงได้ตายทั้งเป็นแน่”
“นั่นสิ แม้หนึ่งล้านตำลึงจะดึงดูดใจมาก แต่พวกเราก็ใช้เงินเยอะขนาดนั้นไม่หมดหรอกนะ”
องค์หญิงตังตังทำหน้าบึ้งตึง แล้วพูดอย่างโมโหว่า “นี่ เจ้าว่าใครยโสโอหังกัน? ดูแล้วข้าคงต้องสั่งสอนเจ้าสักหน่อยแล้วล่ะ”
กู้ชูหน่วนยืนอยู่หน้าหลิวเยว่ พูดประเด็นนี้ขึ้นมาใหม่ด้วยรอยยิ้ม “ทำไม……องค์หญิงไม่กล้าเดิมพันงั้นเหรอ?”
“ข้าจะไม่กล้าได้ยังไง เจ้ารนหาที่ตายเอง งั้นข้าก็จะทำให้เจ้าสมใจอยากเอง ข้าจะเดิมพันกับเจ้า”
“ได้ ปากพูดไม่มีหลักฐาน เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรดีกว่า”
กู้ชูหลันโมโหจัด โกรธกู้ชูหน่วนจนกัดฟันกรอด
ตอนนี้มีโอกาสจัดการนาง ก็รีบไปเอาพู่กันกับหมึกดำก่อนใครทันที
กู้ชูหยุนขมวดคิ้วเป็นปม พูดเตือนว่า “องค์หญิง คิดให้ดีนะเจ้าคะ เงินหนึ่งล้านตำลึงเยอะมากเกินไป ถ้าเกิด……”
นางยังพูดไม่ทันจบ กู้ชูหลันก็ตอบกลับไป
“พี่รองผิดแล้วล่ะ หรือพี่รองคิดว่ากู้ชูหน่วนนั่นจะเข้ารอบสุดท้ายได้? ถ้าอยากเข้ารอบสุดท้าย ก็ต้องชนะหนุ่มสาวจ้วงจื่อผู้มากความสามารถจากทั่วอาณาจักรถึงจะเข้ารอบได้”