อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 226 ข้าท้องแล้ว
กู้ชูหน่วนนั่งไขว่ห้างเท้ากระดกอยู่ที่เก้าอี้อย่างขี้เกียจ สองมือหยิบขนมสองสามชิ้นยัดเขาปาก ดูเรื่องสนุก
ปากชิงเฟิง เจี่ยงเสวียและชิวเอ๋อร์ล้วนอ้าเป็นรูป0
แค่ครั้งนั้นนางก็ตั้งท้องลูกของท่านอ๋องแล้ว นี่จะรุนแรงไปหน่อยกระมัง?
คุณหนูตั้งครรภ์โดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน ตายแน่ๆ ต่อไปจะทำอย่างไรดี?
เย่จิ่งหานไต่ถามเสียงเย็น “ท้องแล้วจริงหรือ? ตรวจละเอียดหรือยังว่านางใช้ยาทำปลอมขึ้นหรือเปล่า?”
ทักษะการแพทย์ของนางคนนั้นก็ดีเยี่ยม ยากจะเชื่อว่านางไม่ได้กุเรื่องขึ้นมาเอง
เหงื่อกาฬหมอหลวงไหลพรากๆ
พวกเขาก็อยากให้เป็นการใช้ยาแต่งเรื่องเหมือนกัน เช่นนั้นท่านอ๋องอาจยังไม่ถึงกับพิโรธหนัก
แต่…
“ท่านอ๋อง คุณหนูสามกู้ตั้งครรภ์แล้วจริงๆ ชีพจรนางไม่มีร่องรอยการใช้ยาทำปลอมขึ้นมาสักนิดพ่ะย่ะค่ะ”
“หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป พวกเจ้าคงรู้ผลลัพธ์นะ”
“พ่ะย่ะค่ะๆๆ”
“ไสหัวไปได้!”
“พ่ะย่ะค่ะๆๆ”
หมอหลวงทั้งห้าไสหัวออกไปอย่างหกคะเมนตีลังกา กลัวว่าหากช้าอีกนิด เทพสงครามจะชักดาบกับพวกเขา
สีหน้าเย่จิ่งหานแปลกประหลาด ตกใจ ดีใจ กังวล กระวนกระวายผสมปนเป ทันใดนั้นก็ไม่รู้ว่าตนควรมีความรู้สึกอย่างไรดี
เขา…
จะเป็นพ่อคนแล้ว?
ถ้าเป็นหญิงอื่นตั้งท้อง เขาก็จะให้ทำแท้งอย่างไม่ลังเล
แต่ที่กู้ชูหน่วนอุ้มท้องอยู่…
ไม่รู้เพราะอะไร เย่จิ่งหานกลับดีใจเล็กๆ
“ท่านอ๋อง ท่านทำท้องข้าโต ว่ามาเถอะ เรื่องนี้จะทำอย่างไร?”
“…”
มุมปากเย่จิ่งหานกระตุก
คำพูดนี้ ทำอย่างกับเขาเป็นชายเลวตั้งแต่ต้นจนจบ
ใครทำท้องใครโต?
มิใช่นางทำเองหรือ?
“ในเมื่อตั้งครรภ์แล้ว ก็ควรอยู่แต่ในห้องดีๆ เด็กๆ เพิ่มองครักษ์ให้พระชายายี่สิบคน หากนางกล้าปีนกำแพงออกไป ก็หักขานางทิ้งเสีย!”
เย่จิ่งหานชะงัก แล้วเอ่ยต่อ “ชิงเฟิง ต่อไปเจ้ารับผิดชอบคุ้มครองพระชายา หากนางเกิดเรื่อง เจ้าก็หิ้วหัวมาแล้วกัน”
ฝีเท้าชิงเฟิงเซ ทำหน้าอยากร้องไห้ “ท่านอ๋อง เปลี่ยนงานให้ข้าน้อยได้ไหมพ่ะย่ะค่ะ?”
คุณหนูสามกู้…ถุย! ตอนนี้ควรเรียกว่าพระชายาแล้ว
พระชายามีแผนการมากมาย ยโสโอหัง ใจกล้าเทียมฟ้า เรื่องอะไรก็ทำออกมาได้หมด
ให้เขาคุ้มครองนาง เกรงแต่เขาจะถูกพระชายาแกล้งตายในเสี้ยววินาที
“เป็นเมื่อไรที่แม้แต่เจ้าก็กล้าขัดคำสั่งข้า?”
“ข้าน้อยมิบังอาจ ข้าน้อยมิกล้า แต่เจี่ยงเสวียละเอียดมากกว่าข้าน้อย เขา…”
เจี่ยงเสวียคุกเข่าลงไป กำมือคารวะรีบเอ่ย “ท่านอ๋อง ชิงเฟิงวรยุทธ์สูงส่งแข็งแกร่งกว่าข้าน้อย ให้เขาคุ้มครองพระชายา ดียิ่งแล้วพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยขอเสนอ ต่อไปชิงเฟิงก็ย้ายมาคุ้มครองข้างกายพระชายาเสียเลยพ่ะย่ะค่ะ พระชายาจะได้ไม่เกิดเหตุร้ายอะไร”
ชิงเฟิงตาค้าง
เจี่ยงเสวียที่แต่ไหนมาก็เงียบขรึมคำพูดน้อย ไยเอ่ยมาก็ราวกับพวงระเบิดปุปังดังเป็นขบวนอย่างนั้นเล่า?!
วรยุทธ์เขาดีกว่าเจี่ยงเสวียที่ไหนกัน?
เป็นเจี่ยงเสวียที่เยี่ยมยอดกว่าเขาต่างหาก!
ชิงเฟิงยังอยากอุทร แต่เย่จิ่งหานกลับเคาะตัดสิน
“ได้ ต่อไปความปลอดภัยของพระชายาก็ให้เจ้ารับผิดชอบก็แล้วกัน”
“หา…!”
ชิงเฟิงอยากตาย!
ทำไมเรื่องซวยๆ ต้องมาตกอยู่กับเขาด้วย?!
เมื่อก่อนเขายังพอขบเขี้ยว ตอนนี้…นางไม่ใช่แค่พระชายาของท่านอ๋อง ในท้องยังมีอ๋องน้อยอยู่อีก เขาหรือจะกล้าล่วงเกิน…
กู้ชูหน่วนหันไปกะพริบตาปริบกับชิงเฟิง หัวเราะเอ่ย “เสี่ยวชิงเฟิงต่อไปความปลอดภัยของข้าก็มอบให้เจ้าแล้วนะ เจ้าต้องปกป้องเราสองแม่ลูกให้ดีล่ะ”
ใบหน้าชิงเฟิงราวกับคนอมทุกข์ หน้าละห้อยคอตกยืนอยู่ด้านข้าง
กู้ชูหน่วนยื่นมือบิดขี้เกียจ ในมือกลิ้งกลอกเข็มเงิน ทั้งเป็นการข่มขู่และเตือน
“ท่านอ๋อง เรื่องที่ส่งทหารไปหน่วยย่อยกองธงกล้วยไม้ล่ะ คิดไปถึงไหนแล้ว? ข้ากับลูกยังรอท่านตัดสินใจอยู่นะ”
ความหมายในคำพูดนางก็คือ หากเขาปฏิเสธ นางก็จะพาลูกไปพบยมบาล
ถึงจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนข่มขู่เขา แต่ก็ยากจะรับรองว่านางจะไม่ทำเรื่องที่ทำร้ายลูก
จนถึงตอนนี้ เย่จิ่งหานถึงค้นพบ
ตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้จักนาง เขาก็ถูกนางกุมอยู่ในมือแล้ว
“เจี่ยงเสวีย เคลื่อนกำลังพล ไปเขาสูบวิญญาณทันที ข้าต้องการหัวของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้กับยายของเย่เฟิง”
พ่ะย่ะค่ะ!
เย่จิ่งหาน กวาดตามองกู้ชูหน่วน ทำเป็นเย็นชา “ข้าไม่อยากให้เด็กยังไม่ทันเกิดก็ต้องแบกรับชีวิตคน มิใช่ส่งทหารไปเขาสูบวิญญาณเพราะเจ้าหรอกนะ”
“ใช่ๆๆ ท่านสั่งสมกุศลให้ลูก ข้าต้องขอบคุณแทนลูกด้วย”
กู้ชูหน่วนโล่งใจเล็กน้อย
ดีที่ทักษะการแพทย์ของนางดี ทำชีพจรตั้งครรภ์ปลอมๆ ขึ้นมาได้
นางเดิมพันถูก
เย่จิ่งหานยังมีความเป็นคนอยู่บ้าง ไม่ถึงกับไม่รับลูกแท้ๆ ของตัวเอง
ได้การช่วยเหลือของเย่จิ่งหาน เย่เฟิงกับยายเย่น่าจะไม่เป็นไรกระมัง?
“ท่านอ๋อง ท่านแน่ใจว่าจะช่วยยายเย่ออกมาได้ใช่ไหม?”
“เจ้าคิดว่าข้าเป็นเสือกระดาษหรือ?”
“เออ ไม่ใช่อยู่แล้ว คำพูดของท่านเนี่ย ข้าก็ต้องเชื่อสิ แต่ลูกน้องของท่านทั้งโง่ทั้งเขลา นี่…ช่างน่าเป็นห่วงจริงๆ มิเช่นนั้นท่านก็ไปเขาสูบวิญญาณด้วยตัวเองเป็นอย่างไร?”
ชิงเฟิงหน้าบูดบึ้ง ไม่พอใจถึงที่สุด
ใครทั้งโง่ทั้งเขลา?
แน่มิใช่รวมด่ากระทั่งพวกเขาหรือ?
แถม…
ก็แค่เขาสูบวิญญาณ ทำไมต้องให้ท่านอ๋องไปด้วยตัวเองด้วย?
นอกเสียจากพบกับจอมมาร มิเช่นนั้นหัวหน้ากองธงกล้วยไม้แม้จะมีวรยุทธ์สูงเพียงใด ก็ยากหนีรอดเงื้อมมือของท่านอ๋องไปได้
“เจ้าคิดว่าข้ากินอิ่มไม่มีงานทำเหมือนกับเจ้าหรืออย่างไร?” เสียงของเย่จิ่งหานเย็นชาอีกบางส่วน
กู้ชูหน่วนตอบแบบแน่อย่างแช่แป้ง “เดิมท่านกินอิ่มก็ไม่มีงานทำอยู่แล้ว หรือว่าท่านที่พิการยังจะทำอะไรได้อีก?”
ซี๊ด…
อุณหภูมิกลางอากาศลดฮวบ
ชิงเฟิงประคองหน้าผาก
เอาอีกแล้ว…
นางไม่ทำให้ท่านอ๋องโมโหคลั่งจะไม่หยุดหรืออย่างไร?
ก่อนที่เย่จิ่งหานจะเดือดพลุ กู้ชูหน่วนก็ถอยหลังสองสามก้าว “ลูกยังเล็ก เขาจะตกใจได้ ก่อนที่ท่านจะโมโห ควรต้องคิดถึงลูกบ้างหรือเปล่า?”
“เจ้านี่มัน…ยังยืนบื้อทำอะไร? ยังไม่รีบพานางกลับห้องอีก!”
เย่จิ่งหานกัดฟันกรอด
แต่กลับทำอะไรนางไม่ได้
ชาตินี้ เขาเกลียดคนว่าเขาขาพิการเป็นที่สุด แต่นางผู้นี้กลับท้าทายความอดทนของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า
“โอ๊ยๆๆ…ข้าปวดท้อง…ท่านอ๋อง ชิงเฟิงแรงเยอะเกินไป ข้าปวดท้องจะตายอยู่แล้ว”
ชิงเฟิงตาค้างอีกรอบ มองมือทั้งสองของตัวเองอย่างเงอะงะ
“ท่านอ๋อง ข้าน้อยเปล่านะพ่ะย่ะค่ะ”
เขายังไม่ทันแตะต้องพระชายาเลย แล้วจะทำเด็กในครรภ์นางเจ็บได้อย่างไร?
“เจ้าหมายความว่าอะไร? หมายความว่าข้าแกล้งเจ็บหรือ?”
“ข้า…”
“มาข้งมาข้าอะไร? ข้าเจ็บท้องจะตายอยู่แล้ว! เจ้ายังเป็นคนอยู่ไหม? ยังไม่รีบตามหมอหลวงมาอีก!”
“ไปตามหมองหลวงมา!”
มือทั้งสองของเย่จิ่งหานบีบจนพนักเก้าอี้แตกออกเป็นหลายร่อง
นังคนนี้ เป็นปีศาจงิ้วมาเกิดหรืออย่างไร?
เห็นเขาเป็นคนตาบอดหรือ? แม้แต่ชิงเฟิงแตะนางหรือไม่ก็ดูไม่ออก!
เจี่ยงเสวียแอบดีใจ
ดีนะที่เขาปัดได้ทัน ส่งชิงเฟิงออกไปเสีย
มิเช่นนั้น วันนี้ที่ต้องซวยก็คือเขา
ไม่! ทุกวันหลังจากนี้ที่ต้องซวยก็คือชิงเฟิงคนเดียวเท่านั้น!
“ท่านอ๋อง ลูกบอกข้า ว่าหากท่านไม่ไปเขาสูบวิญญาณ เขาก็จะปวดใจ ปวดใจมากๆๆๆ ปวดจนหายใจไม่ออกแล้ว”
ทุกคนพูดไม่ออกไปตามๆ
เพิ่งจะเดือนเดียว เด็กเป็นรูปเป็นร่างแล้วหรือ?
ยังปวดใจอีกแน่ะ นี่นางฉวยโอกาสอยากให้ท่านอ๋องไปเขาสูบวิญญาณชัดๆ!