อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 250 งานแต่งงาน ฉวยโอกาสรับทรัพย์
บทที่ 250 งานแต่งงาน ฉวยโอกาสรับทรัพย์
กู้ชูหน่วนสั่งการเสียงเย็น “จับตาดูเขาเอาไว้ ก่อนที่เลือดจะไหลหมดตัว อย่าให้เขาตายเด็ดขาด”
“พ่ะย่ะค่ะ”
มือและเท้าถูกตัดขาด แล้วยังถูกตัดเอวอีก เจียงซวี่นับว่าพ่ายแพ้ต่อกู้ชูหน่วนอย่างแท้จริงแล้ว แม้จะยังเหลือลมหายใจอีกหนึ่งเฮือก แต่ก็แค่ยืดลมหายใจได้ชั่วคราวเท่านั้น เพื่อให้รับรู้ความเจ็บปวดทั้งหมด
ท่านยายเย่ถูกเย่เฟิงฝังร่างไว้ที่หมู่บ้านสายธาร ฝังร่วมกับชาวบ้านของหมู่บ้านสายธารอีกมากมาย
กู้ชูหน่วนจุดธูปสามดอก เอ่ยปลอบใจว่า”คนตายได้จากไปแล้ว ขอแสดงความเสียใจด้วย”
“ข้าไม่เป็นไร วันนี้เป็นวันมงคลสมรสของเจ้า เจ้ารีบกลับไปเถอะ อย่าให้อ๋องหานต้องรอนาน และอย่าให้แขกเหรื่อรอนานเกินไป”เย่เฟิงเหลือบตาขึ้น พยายามเค้นรอยยิ้มออกมา ไม่อยากจะให้กู้ชูหน่วนต้องเป็นกังวลเพราะเรื่องของเขา
ท่าทีของเขาเช่นนี้ กลับทำให้กู้ชูหน่วนยิ่งรู้สึกเป็นห่วง
องครักษ์ลับเร่งเร้าครั้งแล้วครั้งเล่า “พระชายา ใกล้ถึงฤกษ์งามยามดีแล้ว ท่านนายให้ข้ารีบเร่งท่านให้กลับไป”
“รู้แล้ว”
มือเรียวยาวของเย่เฟิงลูบที่ป้ายหน้าหลุมศพอย่างอาลัยอาวรณ์ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความบอบช้ำกวาดมองไปยังความยุ่งเหยิงทั่วพื้นที่ หมู่บ้านสายธารที่ไร้เงาผู้คน หัวใจกระตุกจนเจ็บหลายครั้ง
ไม่นานมานี้ ที่นี่เคยเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยหัวเราะ เสียงเด็กวิ่งเล่นไปทั่ว คนแก่สานตะกร้าดอกไม้ขายเพื่อแลกเงิน แม่บ้านต่างก็รวมกลุ่มกันซักผ้าอยู่ข้างลำธาร พวกผู้ชายทำไร่ทำนา แต่ตอนนี้……ที่นี่กลับไม่มีชีวิตชีวาเลยแม้แต่น้อย
หลายร้อยชีวิตในหมู่บ้านสายธาร เป็นเพราะเขา จึงต้องถูกสังหารทั้งหมดในคืนเดียว
ท่านยายเองก็ต้องตายอย่างอนาถเพราะเขา
เย่เฟิงพยายามเก็บอารมณ์ แอบเช็ดน้ำตาที่รื้นออกมา
วันนี้เป็นวันมงคลสมรสของกู้ชูหน่วน ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่อาจเพิ่มความไม่สบายใจให้กับนางอีก ถ้าหากเขายังคงอยู่ที่นี่ต่อ นางเองก็คงไม่วางใจ เพราะว่าไม่รู้หัวหน้ากองธงกล้วยไม้หายไปไหน อาจกลับมาหาเรื่องเขาได้ตลอดเวลา
เย่เฟิงพูดว่า “ตอนนี้ข้าจะตามฝูกวงไปที่สำนักอสุรา เจ้ารีบกลับไปไหว้ฟ้าดินเถอะ”
กู้ชูหน่วนมองดูท้องฟ้า นางเสียเวลาที่นี่มานานมากแล้ว ด้วยนิสัยของเทพสงคราม สามารถอดทนได้ถึงตอนนี้ นับว่าถึงขีดสุดแล้ว ถ้ายังเสียเวลาต่อไปอีก เกรงว่าเขาคงจะโกรธขึ้นมาอีก
“ก็ได้ รอวันหน้ามีโอกาส ข้าจะไปเยี่ยมเจ้าที่สำนักอสุรา”
“ดี ขออวยพรให้เจ้ากับอ๋องหานอยู่ด้วยกันจนไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร ”
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างอายๆ “คำอวยพรก็แล้วไปเถอะ ฝูกวง เจ้าต้องส่งเขากลับไปที่สำนักอสุราอย่างปลอดภัย”
“นายหญิงกู้ ท่านวางใจได้ เทพสงครามยังส่งคนอีกตั้งมากมายคุ้มกันไปด้วย แม้จะมีแค่ข้าน้อยคนเดียว ก็สามารถพาเขากลับไปได้อย่างปลอดภัยอยู่แล้ว”
“อืม”
แม้ว่าจะรู้สึกอาลัยอาวรณ์ แต่ทั้งสองคนต่างก็มีทางเดินของตนเอง
ตอนที่กู้ชูหน่วนกลับไปถึงมหานคร มหานครที่ยิ่งใหญ่นั้นประดับไปด้วยสีแดงนับสิบลี้ ประดับประดาด้วยผ้าและโคมไฟสวยงาม ตลอดทั้งทางมีการประดับตัวอักษรยินดีและโคมไฟ บรรยากาศเต็มไปด้วยความยินดี
แม้แต่เสื้อผ้าที่ประชาชนสวมใส่ ส่วนใหญ่ก็เป็นสีแดงสด ไม่เห็นสีขาวเลยแม้แต่น้อย
กู้ชูหน่วนมึนงง “นี่เป็นงานอภิเษกสมรสของฮ่องเต้หรือ”
องครักษ์ลับตอบว่า “เรียนพระชายา ฮ่องเต้ไม่ได้อภิเษกสมรส เป็นงานแต่งของท่านนายกับพระชายา”
“จัดงานได้ยิ่งใหญ่เกินไปแล้วกระมัง”
จะจัดงานยิ่งใหญ่เอิกเกริกทำไม
คุยกันแล้วมิใช่หรือ การแต่งงานครั้งนี้เป็นแค่ในนามเท่านั้นไม่ใช่เรื่องจริง ทำให้คนนอกดูหรือ
ขุนนางจากทั่วทุกแห่งของแคว้นเย่ รวมไปถึงราชทูตจากทั้งสามแคว้นต่างก็นำของขวัญล้ำค่าเดินทางมาอวยพร จวนอ๋องหานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ แขกเหรื่อมาเยือนไม่ขาดสาย
ถนนสายหลักทุกสายในมหานคร ล้วนสามารถมองเห็นบุคคลสำคัญต่างๆที่มาอวยพรเป็นกลุ่มเป็นก้อน
กู้ชูหน่วนดวงตาสว่างวาบ
อ๋องหานเจ้าแผนการจริงๆ
จัดงานแต่งงานขึ้นมา แค่ของขวัญอย่างเดียว ก็ได้รับไม่น้อยแล้ว
เขาถามเสียงต่ำว่า “ของขวัญที่คนเหล่านี้มอบให้ ให้ข้ากับท่านอ๋องสองคนใช่หรือไม่ ”
องครักษ์ลับรู้สึกภูมิใจอยู่บ้าง
ท่านนายของเจ้ามีฐานะอะไร แค่เขากระทืบเท้า แคว้นเย่ก็ต้องสะเทือนไปหลายครั้ง ใต้หล้านี้ใครไม่อยากจะประจบท่านนายบ้าง
เมื่อก่อนพวกเขาไม่มีโอกาสประจบ ตอนนี้ท่านนายแต่งงาน ต้องพยายามเชื่อมความสัมพันธ์อย่างสุดความสามารถ
“ใช่แน่นอน นี่เป็นของขวัญแต่งงานที่พวกเขามอบให้กับท่านนายและพระชายา”
“เพราะฉะนั้น ของขวัญเหล่านี้ ที่จริงครึ่งหนึ่งเป็นของข้า”
“เอ่อ……”
องครักษ์ลับมึนงง ไม่เข้าใจว่าพระชายาอยากจะสื่อถึงอะไร
กู้ชูหน่วนกวักนิ้ว ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ “เอาอย่างนี้ เจ้าไปบอกกับผู้ดูแลที่รับของขวัญเหล่านี้ ให้จดบันทึกแยกคนที่มามอบของขวัญ อันไหนมอบให้ท่านอ๋อง อันไหนมอบให้พระชายา จะลำเอียงไม่ได้ ไม่เช่นนั้นพระชายาจะโกรธเอาได้”
“เอ่อ……”
องครักษ์ลับรู้สึกงงงวย
แต่ไหนแต่ไรมา คนที่นำของขวัญมาอวยพรวันแต่งงาน ไม่ใช่รวมกันมอบให้ทีเดียวหรอกหรือ นี่ ……นี่มันช่าง……
องครักษ์ลับลองพูดขอร้องว่า”พระชายา ทำเช่นนี้ไม่ค่อยเหมาะสมกระมัง คนที่ไม่รู้คงคิดว่าท่านฉวยโอกาสรับทรัพย์ ”
“ไม่เหมาะสมตรงไหนกัน ข้าเห็นว่าเหมาะสมมาก ดูคนเหล่านี้แต่ละคนหน้าตาเป็นมนุษย์แต่การกระทำเหมือนสุนัข สวมใส่เครื่องประดับหรูหรา เงินทองอัญมณีเหล่านั้นข้าดูแล้วส่วนใหญ่คงปล้นมาจากหยาดเหงื่อที่ประชาชนที่แลกมากอย่างยากลำบากกระมัง ไปบอกกับผู้ดูแล พวกเขาแต่ละคนมอบของขวัญอะไรกันบ้าง ให้อ่านเสียงดังๆออกมา แล้วทำป้ายติดประกาศ เปิดเผยรายการของขวัญออกมา”
“หา……”
“หาอะไรกัน ยังไม่รีบไปจัดการอีก”
“พระชายา นี่……นี่เกรงว่าจะไม่ดีสักเท่าไหร่กระมัง ”
นี่เป็นการรับทรัพย์โดยเปิดเผย เปิดเผยเพื่อให้พวกเขาเพิ่มของขวัญ
พูดออกไป ชื่อเสียงคงไม่น่าฟังสักเท่าไหร่
“ข้าว่าดีก็คือดี ถ้าหากเจ้าไม่ไป ข้าจะไปบอกกับผู้ดูแลเอง”
ได้แต่งงานอย่างน่าประหลาดใจครั้งหนึ่ง นางจะไม่ฉวยอะไรดีๆไว้บ้าง ก็คงจะรู้สึกผิดต่อตัวเองมาก ในเมื่อคนที่มอบของขวัญให้ล้วนเป็นบุคคลสำคัญ มีเงินมากมาย นางยังอยากจะให้พวกเขามอบของขวัญให้มากอีกหน่อย
“พระชายาโปรดอภัย ให้ข้าน้อยไปรายงานท่านนายก่อนได้หรือไม่”
กู้ชูหน่วนสีหน้าบึ้งตึงทันที รู้สึกไม่พอใจ “ทำไม ข้าเป็นถึงพระชายาเอกของอ๋องหาน แม้แต่อำนาจแค่นี้ก็ไม่มีหรือ”
“ข้าน้อยมิกล้า”
“เจ้าชื่ออะไร”
“หลีโล่ องครักษ์ลับที่เพิ่งได้รับการเลื่อนต่ำแหน่งน่ะหรือ”
หลีโล่ปาดเหงื่อ กำลังคิดจะบอกนาง เขาเป็นหัวหน้าองครักษ์ลับข้างกายท่านนาย เป็นเพราะท่านนายไม่ไว้ใจพระชายา ฉะนั้นจึงให้เขามาปกป้องพระชายาอย่างใกล้ชิด
“ช่างเถอะ เห็นแก่เจ้าที่เป็นคนมาใหม่ ข้าไม่ทำให้เจ้าลำบากใจ ขอเพียงเจ้าทำงานดีๆ ข้าก็จะไม่ฟ้องท่านอ๋อง รีบไปเถอะ”กู้ชูหน่วนพูดยิ้มๆ ยังขยิบตาให้เขาด้วย เป็นสัญญาณให้เขาไปทำโดยเร็ว
หลีโล่ไม่เต็มใจเลยสักนิด
แต่พระชายาสั่งการลงมา เขาไม่อาจจะไม่ทำตามได้ ได้แต่กัดฟันเดินไปอธิบายให้ผู้ดูแลเข้าใจ
ผู้ดูแลตกใจจนพู่กันในมือร่วงหล่น ใบหน้าตื่นตกใจมองไปยังหลีโล่ คิดว่าตัวเองฟังผิดไป
ก็ไม่รู้ว่าหลีโล่พูดอะไรกับเขาบ้าง ผู้ดูแลปากสั่นจนฟันกระทบกัน สั่งให้ลูกน้องทำตาม
กู้ชูหน่วนยิ้มออกมา มองดูแววตาที่ตกตะลึงของแขกเหรื่อทั้งหลาย
และเห็นแขกเหรื่อไม่น้อยหันหน้ากลับไป เพิ่มของขวัญอวยพรอีกครั้ง
“พระชายา จัดการเสร็จแล้ว”หลีโล่ใบหน้าขมขื่น
ตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นเรื่องที่น่าขายหน้าที่สุดที่เขาทำ
หลังจากพรุ่งนี้
หลีโล่ตกใจจนรีบก้มศีรษะลง พูดเสียงขรึมว่า “ขอบพระทัยพระชายาที่ชื่นชม ข้าน้อยพอใจกับตำแหน่งในตอนนี้เป็นอย่างยิ่ง ไม่กล้าหวังสูง”
กู้ชูหน่วนลูบใต้คาง ไม่รู้ว่าคนในมหานครจะพูดถึงท่านนายว่าอย่างไรบ้าง ยิ่งไม่รู้ว่าหลังจากท่านนายรู้เรื่องแล้ว จะลงโทษเขาอย่างหนักหรือไม่
กู้ชูหน่วนตบบ่าของเขา พูดยิ้มๆว่า “ทำได้ดีมาก พยายามต่อไป บางทีหากมีวันไหนที่ทำดีเข้าตา ข้าจะย้ายเจ้ามารับใช้ข้างกายข้า ”
กลุ่มลูกน้องของเย่จิ่งหาน เหมือนกับ……ต่างก็กลัวนางมาก
บทที่ 249 กู้ชูหน่วนโกรธมาก