อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 310 เด็กดี ข้าแค่ฝังเข็มให้เจ้าเฉยๆ
บทที่310 เด็กดี ข้าแค่ฝังเข็มให้เจ้าเฉยๆ
เย่จิ่งหานตกตะลึงที่กำลังภายในของตัวเองหายไป ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่ากังฟูของเขาคงได้ไร้ประโยชน์แล้ว
ในตอนที่เขาคิดว่าจะทำยังไงดี ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็หยุดดูดกำลังภายในของเขาสักที ใบหน้าขมวดยู่ยี่นั้นก็ผ่อนคลายลงมา
เย่จิ่งหานเลือดพลุ่งพล่านขึ้นมา เลือดพิษพุ่งออกมาจากปาก
ถึงแม้จะมีการรักษาจากกู้ชูหน่วน พิษของเขาก็หายขึ้นเยอะมาก แต่ก็ยังต้องใช้กำลังภายในกดทับไว้
แต่ตอนนี้เสียกำลังภายในไปกะทันหัน พิษของเขาเป็นเหมือนน้ำเดือด ที่พร้อมจะพุ่งออกมาเสมอ
เย่จิ่งหานหมุนเวียนลมปราณ พยายามควบคุมพิษในร่างกายตัวเอง
กู้ชูหน่วนตื่นขึ้นมาช้าๆ พึมพำอย่างสบายตัว ลืมตาขึ้นก็เห็นเย่จิ่งหานนั่งอยู่ข้างเตียงของนาง
นางตกใจจนลุกขึ้นนั่ง ซ่อนผลึกเกล็ดหิมะหมื่นปีของตัวเองไว้
“ถึงแม้พวกเราจะเป็นสามีภรรยา แต่ก็ต้องแบ่งกันให้ชัดเจน ผลึกเกล็ดหิมะพวกนี้ข้าลำบากมากกว่าจะหาเจอ เจ้าจะแย่งไปไม่ได้นะ”
เย่จิ่งหานอยากกลอกตาขึ้นบนจริงๆ
ถ้าเขาคิดจะแย่งจริงๆ เมื่อกี้ก็แย่งไปแล้วล่ะ ยังต้องรอถึงตอนนี้ไหม
กู้ชูหน่วนก็ถึงเห็นว่า สีหน้าของเย่จิ่งหานซีดเซียว ลมปราณไม่พอ ร่างกายอ่อนแออย่างมาก
นางจับข้อมือของเขา อยากวัดชีพจรให้เขา แต่กลับถูกเย่จิ่งหานสะบัดออกไปเสียก่อน
กู้ชูหน่วนจับมือเขาไว้แน่น แล้ววัดชีพจรต่อไป
เพิ่งวัดชีพจรได้ไม่นาน สีหน้ากู้ชูหน่วนก็แย่ลงทันที
“พิษในร่างกายเจ้ากำเริบแล้ว และกำลังภายในของเจ้าลดลงไปครึ่งหนึ่ง เจอศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าเหรอ?”
เย่จิ่งหานชักมือตัวเองกลับมา นี่ก็แค่ชักมือตัวเองกลับมา ตอนนี้กลับเหนื่อยมากสำหรับเขา
ศัตรูแบบไหนกันนะ ที่ดูดกำลังภายในของเขาไปได้มากขนาดนี้?
ผู้หญิงคนนี้ เอาเปรียบเขาเสร็จแล้ว ยังไม่ทำหน้าใสซื่ออีก
“นอนลง ข้าจะช่วยเจ้าฝังเข็มควบคุมพิษในร่างกายเจ้า”
“ไม่จำเป็น” เย่จิ่งหานดันรถเข็น อยากออกไปจากที่นี่ แต่ทันใดนั้นกู้ชูหน่วนกลับเข้ามาจับตัวเขาไว้แล้วกดนอนลงบนเตียง
นี่เป็นท่าทีค่อนข้างใกล้ชิดกันมาก
เย่จิ่งหานอยู่ข้างล่าง กู้ชูหน่วนบนอยู่ข้างบน
มองจากภายนอกแล้ว ก็คือกู้ชูหน่วนคร่อมตัวเย่จิ่งหานอยู่
ภาพเหตุการณ์ที่เจอกันครั้งแรกลอยขึ้นมาในสมองของเย่จิ่งหาน เขาโมโหอยากตบกู้ชูหน่วนออกไป แต่กลับว่าจะทำร้ายเด็กในท้องของนาง
ดันกู้ชูหน่วนออกไป แต่กลับดันไม่ออก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกำลังภายในที่หายไปในทีเดียว หรือเพราะอาการพิษที่กำเริบขึ้น หรือเป็นเพราะกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งขึ้น จึงต้องกัดฟันกรอดพูดว่า “กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้า ออกไปเดี๋ยวนี้ เลยนะไม่งั้นข้าจะทำให้เจ้าตายทรมาน”
กู้ชูหน่วนแสยะยิ้ม นิ้วมือเรียวยาวลูบไล้จมูกของเย่จิ่งหาน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เด็กดี ถ้าแค่อยากฝังเข็มให้เจ้าเฉยๆ ไม่ทำอะไรเจ้าหรอก”
ท่าทางสนิทใกล้ชิด พร้อมกับคำพูดของนาง ทำเอาเย่จิ่งหานอึดอัดมาก แต่เขากลับไม่อยากผลักกู้ชูหน่วนออกไป แค่เบือนหน้าหนีออกไป ปากแข็งพูดว่า “เจ้าคิดว่าเจ้าจะทำอะไรข้าได้”
“ไม่ได้อยู่แล้ว ท่านอ๋องของเราเป็นถึงเทพสงครามแห่งแคว้นเย่ ไม่เคยแพ้ ชนะทุกครั้งที่สู้รบ พลิกฝ่ามือควบคุมเมฆ หมุนฝ่ามือบังคับฝน แถมยังมีวิชาการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง หล่อเหลามาดเท่ ใครจะทำอะไรเจ้าได้ ข้าก็แค่เป็นห่วงร่างกายเจ้าเฉยๆ”
ได้ยินคำพูดนี้แล้ว จิตใจของเย่จิ่งหานก็ว้าวุ่นมาก
ใบหน้ามืดมนของเขาหายไปในทันที ที่เข้ามาแทนที่คือความดีใจที่เห็นได้ยาก
“จะฝังเข็มยังไง?”
“ถอดเสือออก หมอย่อมมีวิธีการอยู่แล้ว และขาดรับรองได้ว่าครั้งนี้ต้องจัดการพิษอย่างหนึ่งในร่างกายของเจ้าได้แน่นอน”
เย่จิ่งหานไม่อยากทำมากๆ
เขาไม่ชอบถอดเสื้อผ้าต่อหน้าผู้อื่น โดยเฉพาะต่อหน้ากู้ชูหน่วน เลยนะนี่ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกเหยียดหยาม
นอกเสียว่ากู้ชูหน่วนจะถอดด้วย หรือว่าเขาได้อยู่เหนือกว่า
“งูเล็กนั้นดูอยู่นะ” เย่จิ่งหานอยากหาข้ออ้าง โยนความผิดให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แลบลิ้น ทำเสียงฟ่อๆ
รังแกงูหรือไง?
มันชอบผู้หญิง ไม่ได้ชอบผู้ชาย
กู้ชูหน่วนกลอกตามองบน “มันก็แค่งูตัวเดียวเอง จะเข้าใจอะไร ขนาดงูเจ้ายังป้องกัน หรือกลัวมันจะกัด ‘ลูกชาย’ ของเจ้า”
ไม่พูดลูกชายยังดี พอพูดแล้วสีหน้าของเย่จิ่งหานแย่กว่าเดิมอีก
เขายังไม่ลืมที่ตอนนั้นกู้ชูหน่วนรักษาให้เขา ให้ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียจับงูมาปล่อยในถังยาของเขา ลูกชายของเขาไม่รู้ว่าถูกกัดไปกี่ครั้ง
ผู้หญิงคนนี้ นางตั้งใจเหยียดหยามเขาเหรอ?
กู้ชูหน่วนอยากตบหน้าตัวเองแรงๆสักที
ปากของนางนี่จริงๆเล้ย พูดในสิ่งที่ไม่พูดอีกแล้ว
“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ เจ้าออกไปเที่ยวข้างนอกก่อน ห้ามเข้ามา”
“ฟ่อๆ……”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไม่พอใจ วัวสองตัว หมูยี่สิบตัวของมันยังไม่มาเลย ถ้าไปแล้ว มันจะกินอะไรล่ะ?
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ที่เชื่อฟังตลอด ครั้งนี้กลับดื้อดึงอยู่บนโต๊ะ ดื้อไม่ยอมไปไหน
กู้ชูหน่วนอยากจะเลิกแขนเสื้อขึ้นโยนมันออกไปจริงๆ
คนโตไม่เชื่อฟัง คนเล็กก็ยังไม่เชื่อฟังอีก แต่ละคนตั้งใจต่อกรกับนางใช่ไหม?
“ถ้าเจ้าไม่ออกไป อย่าหวังว่าจะได้กินเนื้ออีก”
คำพูดนี้โหดร้ายมากเกินไป เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์แลบลิ้น ทำเสียงฟ่อๆอย่างไม่พอใจ บิดร่างกายอวบอ้วนของมัน เลื้อยออกไปอย่างเชื่องช้า
มันเลื้อยช้ามาก นานมากกว่าจะขยับแต่ละก้าว ทำเอากู้ชูหน่วนโมโหจนจับตัวมันโยนออกไป
เย่จิ่งหานสีหน้ามืดมน
งูตัวนี้ตั้งใจอยากดูร่างกายของเขาแน่นอน
มีเจ้านายแบบไหน ก็ต้องมีสัตว์เลี้ยงแบบนั้น
พวกเขาคนและงู นิสัยลามกเหมือนกัน
“ผลึกเกล็ดหิมะของเจ้า มันช่วยเจ้าหาได้หรอ?”
“เย่จิ่งหาน เจ้าของไม่อยากแย่งผลึกเกล็ดหิมะไปหรอกนะ ข้าจะบอกเจ้าไว้นะ ช่วยเจ้าฝังเข็มข้าเสียแรงเยอะเช่นกัน เจ้าอย่าตอบแทนบุญคุณด้วยการชำระแค้นล่ะ”
“ผลึกเกล็ดหิมะหมื่นปีจะกินเข้าไปทันทีไม่ได้ นอกจากความสามารถจะถึงขั้นสูงสุดระดับห้าแล้วถึงจะกัดได้หนึ่งคำ ไม่งั้นใครที่กินเข้าไปอาจจะระเบิดตายได้ทันที”
เย่จิ่งหานว่าแล้ว ก็เหลือบมองดูผลึกเกล็ดหิมะอีกครึ่งหนึ่งที่นางซ่อนไว้
ที่บอกว่าครึ่งหนึ่ง เพราะอีกครึ่งหนึ่งถูกกู้ชูหน่วนกินเข้าไปแล้ว
กู้ชูหน่วนตะลึง
ขั้นสูงสุดระดับห้าถึงจะกัดได้หนึ่งคำ?
งั้นนางเพิ่งจะเปิดชีพจรยุทธ์ขั้นสามได้ก็กัดหนึ่งคำแล้ว? นางยังไม่ถึงระดับหนึ่งด้วยซ้ำเลยนะ
ถึงว่า……
ถึงว่าร่างกายของนางร้อนผ่าว ภายในร่างกายเหมือนกำลังจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
“ใครให้เจ้ากินผลึกเกล็ดหิมะ?” เย่จิ่งหานถาม
กู้ชูหน่วนชี้ไปยังเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ช้าๆ แล้วพูดตามตรงว่า “เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ให้ข้ากิน มันบอกว่าจะช่วยให้กำลังเพิ่มขึ้น”
กู้ชูหน่วนแปลกใจ
เมื่อกี้น่าจะเป็นเย่จิ่งหานช่วยนางไว้นะ
ถ้าเย่จิ่งหานไม่มา นางคงต้องตายเพราะเจ้างูตัวนั้นแล้ว
นางพึ่งพาพลังของผลึกเกล็ดหิมะเก้าชิ้นถึงจะทะลุชีพจรยุทธ์ขั้นสามได้
นึกถึงพวกเซียวอวี่เซวียนที่กินยาเข้าไปก็สามารถทะลุได้แล้ว นางก็เลยทดลองอยากทะลุขั้นที่สี่เร็วๆ
แต่นางไม่กล้ากินเข้าไป กลัวว่าผลึกเกล็ดหิมะจะแรงเกินไป ร่างกายนางอ่อนแอเกินไปจนกินไม่ไหว
แต่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์โน้มน้าวให้นางกินเข้าไป บอกกับนางว่าไม่เป็นไรแน่นอน
นางไม่รู้ว่าคิดบ้าอะไรอยู่ กลับเชื่องูตัวเดียว
ได้ยินแล้ว เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็ยิ่งน้อยใจเข้าไปอีก
ก็มันไม่เป็นไรจริงๆนี่ เมื่อกี้เจ้านายกินผลึกเกล็ดหิมะเหมือนของกินเล่นเลย ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่นา
ใครจะรู้ว่าตอนนี้นางกัดเข้าไปหนึ่งคำ ก็เกือบเอาชีวิตนางเสียแล้ว
เจ้านายกลายเป็นคนอ่อนแอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน