อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 341 เจ้าอย่าเข้ามั่วซั่ว
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 341 เจ้าอย่าเข้ามั่วซั่ว
อยู่ดีๆ จะโดนยาได้อย่างไร?
กู้ชูหน่วนพยายามนึกย้อน ฉับพลันนั้น นางโกรธจนตบหน้าขา
เชี้ย……
เมื่อครู่ขณะที่เวินเส้าหยีคว้าก้อนหินแล้วโอบนางไว้นั้น บนกำแพงหินมีดอกรัญจวนขึ้นอยู่มากมาย
ดอกรัญจวนเป็นดอกไม้ปลุกอารมณ์ที่รุนแรงมากชนิดหนึ่ง
เวลานี้ดอกรัญจวนเบ่งบานสะพรั่ง บนกำแพงทุกที่ล้วนเป็นกลิ่นหอมของดอกไม้
คนทั่วไปเพียงแค่ได้กลิ่นหอมของดอกไม้นั่น ก็จะตกสู่ทะเลแห่งความปรารถนาอันไร้ขอบเขต
และพวกนาง…….ที่อยู่บนกำแพงหินเมื่อครู่ก็สูดดมดอกรัญจวนเข้าไปในปริมาณมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมือที่เลือดไหลรินของเวินเส้าหยี ยังสัมผัสถูกเกสรของดอกรัญจวนอีก โดนพิษลึกล้ำมากกว่านางซะอีก
กู้ชูหน่วนมีความคิดจะเป็นลมตายแล้ว เพิ่งข้ามเวลามาได้ไม่นาน นางก็โดนยาไปสองครั้งแล้ว และทั้งสองครั้งล้วนเป็นยากระตุ้นอารมณ์รุนแรงเพียงนั้น
“ร้อน…….”
เวินเส้าหยีปากแห้งกระหาย ดึงคอเสื้อด้วยความไม่สบายตัว
กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยความตระหนก “นี่ ข้าจะบอกเจ้า ชายหญิงแตะเนื้อต้องตัวกันไม่ได้ เจ้าอย่าทำอะไรมั่วซั่ว”
นางหาในแหวนมิติรอบหนึ่ง ยาส่วนใหญ่ก็มีหมด ไม่มีเพียงแค่ยาถอนพิษดอกรัญจวนเท่านั้น
ในความเป็นจริง ดอกรัญจวนไม่มียาถอนพิษที่สามารถแก้พิษได้ นอกจากจะพลอดรักกัน
นางเอายาเม็ดเล็กๆออกมาขวดหนึ่ง อึกอึกกินลงไปสองสามเม็ด ยังคงไร้ผลใดๆ
ภายในร่างกายมีไฟกลุ่มหนึ่งเผาไหม้ไม่หยุด ยิ่งเผายิ่งลุกโชน ยิ่งเผายิ่งแรงขึ้น เผาไหม้โชติช่วงเหมือนไฟไหม้ทุ่งเช่นนั้น
กู้ชูหน่วนแทบอยากจะเอาหัวพุ่งลงในน้ำ ทำให้ตัวเองได้สติ น่าเสียดาย ในนี้มีเพียงทะเลโลหิต ไม่มีน้ำทะเล
นางมองไปรอบๆ ในนี้นอกจากแผ่นหินก้อนนี้ที่ยื่นออกมาแล้ว ก็ไม่มีทางให้ออกไปสักทาง
กำแพงหินลื่นทั้งสูงทั้งชัน เป็นไปไม่ได้ที่จะปีนขึ้นไปด้วยมือเปล่า ทันทีที่ตกลงไป ศพและกระดูกล้วนไม่เหลือ
เวินเส้าหยีรู้สึกถึงความผิดปกติได้ช้า เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย “ทำไมถึงโดนยา?”
เขาจำได้ เขาไม่ได้กินอะไร และไม่ได้ติดกับการลอบทำร้ายของคนอื่น
“บนกำแพงหินล้วนเป็นดอกรัญจวน ที่นี่ก็เป็นกลิ่นหอมของดอกรัญจวนทั้งหมด จะไม่โดนพิษได้หรือ?”
“ดอกรัญจวน?” นั่นคือดอกอะไร?
“ดอกไม้ปลุกอารมณ์” กู้ชูหน่วนกัดฟันกรอด พยายามทำให้หลังของตัวเองพิงกับกำแพงหิน เพื่อเปลี่ยนเป็นความเย็นนิดหน่อย พยายามควบคุมตัวเองสุดความสามารถ
เวินเส้าหยีมีความคิดอยากเป็นลมตายแล้ว
โดนยาปลุกอารมณ์ในที่แบบนี้
นั่นไม่ใช่ว่าต้อง…….กับกู้ชูหน่วนหรือไง
“ไม่ใช่ว่าเจ้ารู้วิชาการรักษาอยู่บ้างหรือ? แก้ยังไง?” เวินเส้าหยีแทบไม่กล้าจะเปิดปากพูด เพราะเมื่อเขาเปิดปาก ก็อดไม่ได้ที่จะครางออกมา
“นอกจากพลอดรักแล้วก็ไร้ทางแก้”
คำว่าพลอดรักคำหนึ่ง ทำให้ใบหน้าที่ไม่น่าดูของเวินเส้าหยี เพิ่มความซีดเผือดขึ้นอีกเล็กน้อย
“ไม่แก้……..จะ…….จะเป็นอย่างไร?”
“ถ้าไม่ตาย ก็ตาย…….ตายทั้งเป็น”
นางก็โดนพิษของดอกรัญจวนเป็นครั้งแรก นางจะรู้ได้อย่างไรว่าจะเป็นยังไง
แต่คลื่นความร้อนบนร่างกายลูกหนึ่งต่ออีกลูกหนึ่ง ไม่ได้ดีไปกว่าตอนนั้นที่โดนยาเสน่ห์เชียนรื่อจุ้ยสักนิด กลับรุนแรงยิ่งกว่าซะอีก
นางกล้ารับรอง หากว่าไม่ถอน ก็กลัวเพียงแค่นางอาจจะต้องตายที่นี่จริงๆแล้ว
กู้ชูหน่วนลังเลว่าจะพุ่งไปล้มเวินเส้าหยีหรือไม่
นางเคยพุ่งไปล้มเย่จิ่งหานครั้งหนึ่งแล้ว ทำให้เกิดปัญหายุ่งยากไม่น้อย หากสร้างปัญหาอีกหนึ่งอย่าง จะเหมาะสมจริงหรือ?
เวินเส้าหยีขดทั้งตัวเป็นก้อนก้อนหนึ่ง ฟันกัดจนเป็นเสียงดังกึกกึก เหงื่อเหมือนถั่วเม็ดใหญ่ไหลลงเป็นหยดๆ ร่างกายของเขาสั่นเทาไม่หยุด ราวกับทุกข์ทรมานอย่างมหาศาล
แต่เขาสู้ตายก็ไม่ยอมเปล่งเสียงออกมาแม้แต่น้อย ทรมานถึงที่สุด ก็เพียงแค่กัดมือตัวเองที่เป็นแผลนับไม่ถ้วนในเดิมทีนั่น มือขวาที่เลือดไหลรินทั้งมือ รวมทั้งมือซ้ายที่เรียวยาวขาวผ่อง ถูกเขากัดจนเป็นรอยฟันรอยแล้วรอยเล่า เลือดค่อยๆไหลลงมาตามรอยฟัน