อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 344 เจ้าสำนักชิงมีชีวิตได้อีกไม่นาน
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 344 เจ้าสำนักชิงมีชีวิตได้อีกไม่นาน
กู้ชูหน่วนตื่นตระหนกทันที
คิดจะหยุดยั้งเจ้าสำนักชิงที่จะมอบกำลังภายในให้นาง ทว่าสายไปก้าวหนึ่ง
กำลังภายในของเจ้าสำนักชิงเป็นเหมือนเวินเส้าหยีเช่นนั้น ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลใด ถูกนางดูดไปอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย
“ข้าไม่อยากดูดกำลังภายในของท่าน ท่านรีบถอนฝ่ามือซะ”
“ไม่เป็นไร หากว่าเจ้าต้องการ ให้เจ้าทั้งหมดแล้วจะอย่างไรล่ะ”
เจ้าสำนักชิงยิ้มทันที ในตาอันอ่อนโยนแฝงไปด้วยความรักความเอ็นดูเต็มเปี่ยม
เขาไม่ได้ถอนฝ่ามือ แต่กลับพยายามสุดความสามารถของตัวเองเพื่อช่วยนางให้หายจากดอกรัญจวน
เมื่อได้เห็นแววตาของความรักความเอ็นดูและรอยยิ้มที่คุ้นเคยนั่น กู้ชูหน่วยก็ยิ่งมั่นใจต่อความคิดในใจขึ้นเรื่อยๆ
เจ้าสำนักชิงก็คืออี้เฉินเฟย
กู้ชูหน่วนทั้งร้อนใจทั้งโกรธทั้งเป็นทุกข์
ร้อนใจคือ นางอยากถอนฝ่ามือแต่ไม่สามารถถอนได้
โกรธคืออี้เฉินเฟยโง่เขลาเกินไปแล้ว จะมีคนยอมมอบกำลังภายในที่ตัวเองฝึกซ้อมมาด้วยความยากลำบากให้คนอื่นด้วยมือของตัวเองที่ไหนกัน เขาไม่รู้ว่าหรือว่าเป็นไปได้มากที่นางจะดูดกำลังภายในของเขาจนหมดและตายได้?
เป็นทุกข์คือ พิษดอกรัญจวนปะทะกันในร่างกายก็ช่างแล้ว กำลังภายในของเจ้าสำนักชิงก็ยังปะทะกันในร่างกายของนางอีก นางเหมือนดั่งถูกม้าห้าตัวดึงแยกร่างกายออกเป็นชิ้นๆเช่นนั้น ฉีกกระชากไม่หยุด
“ข้าไม่ต้องการกำลังภายในของท่าน”
เห็นว่ากำลังภายในของเจ้าสำนักชิงพรั่งพรูถาโถมเข้าร่างของนางมากขึ้นเรื่อยๆ กู้ชูหน่วนร้อนใจแทบจะเสียสติแล้ว
นางร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด รวบรวมกำลังภายในทั้งหมด ตูมเสียงหนึ่งสะเทือนเจ้าสำนักชิงออกไปอย่างรุนแรง
“ฟู่ว……”
นางบาดเจ็บสาหัส
เจ้าสำนักชิงก็ถูกนางทำให้บาดเจ็บ
“อาหน่วน….”
“อย่า……อย่าเข้ามาใกล้ข้า”
กู้ชูหน่วนถอยหลังทีละก้าว
นางมีความสัมพันธ์กับใคร ก็ไม่ยอมมีความสัมพันธ์ใดๆกับเขา
ในใจนาง เขาเป็นพี่ชายของนาง พี่ชายแท้ๆ
กู้ชูหน่วนเอาศีรษะชนกำแพงหินด้วยความเจ็บปวด
เจ้าสำนักชิงเกิดความเจ็บปวดในสายตา มือขวาของเขาพลิกทันที มีดเล็กเล่มหนึ่งที่อยู่ในมือของเขาแล้วเปล่งประกายออกมาช้าๆ
“มา รีบดื่มซะ”
กู้ชูหน่วนถูกทำให้โกรธจนแทบตายแล้ว
เขาตาบอดหรือ?
ไม่เห็นว่านางโดนยาพิษหรือไง?
จะต้องเข้ามาใกล้นางให้ได้
อยากจะให้นางโผเข้าไปล้มเขาหรือ?
กู้ชูหน่วนผลักมือเขาออกไปด้วยความโกรธ เจ้าสำนักชิงกลับสกัดจุดนางแล้ว ฝืนบังคับให้นางดื่มเลือดของเขา
กู้ชูหน่วนจ้องมองเขาด้วยความขุ่นเคือง
เจ้าสำนักชิงยิ้มด้วยความอ่อนโยนและความรัก ลูบผมที่ยุ่งเหยิงของนาง “วางใจ เพียงแค่ดื่มพิษดอกรัญจวนของเจ้าก็จะแก้ได้แล้ว”
ขอบหินอีกด้านหนึ่ง ความตระหนักรู้ของเวินเส้าหยีหย่อนยาน ด้านหนึ่งก็ฝืนทนต่อความเจ็บปวดด้านหนึ่งก็เหตุการณ์ฉากนั้นก็ประทับลงในสมองไว้อย่างเลือนราง
เจ้าสำนักชิงของสำนักอสุรา…….
เขากับกู้ชูหน่วนมีความเกี่ยวข้องอะไรกัน? ทำไมถึงได้ดีกับกู้ชูหน่วนขนาดนั้น?
ยังไม่ทันได้จัดการความคิดให้กระจ่าง หินหลอมเหลวในทะเลโลหิตที่เบื้องล่างหุบเหวก็เหมือนกับว่าจะสั่นสะเทือนเช่นนั้น ไหลเชี่ยวอย่างฉับพลัน พุ่งมาเป็นเปลวไฟขนาดใหญ่อันหนึ่ง
เปลวไฟครอบคลุมขอบเขตขนาดใหญ่มาก ทันทีที่โจมตีมา พวกเขาทั้งสามก็จะต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา
เวินเส้าหยีแทบจะกระตุ้นกำลังภายในอันน้อยนิดของตัวเองด้วยสัญชาตญาณ ไปสลายเปลวไฟ
“ตูม…….”
ทิศทางของเปลวไฟหมุนเปลี่ยนไป แต่เขากับค้ำยันไว้ไม่ไหวอีกต่อไป ร่างกายเซทันที ล้มไปบนพื้น
แทบจะเป็นเวลาเดียวกัน ที่กู้ชูหน่วนถอนพิษดอกรัญจวนได้มากกว่าครึ่ง จิตใจอันร้อนรนภายในร่างกายก็ฟื้นคืนและสงบขึ้นมาก
“ดีขึ้นบ้างหรือไม่?”
“ดี……ดีมากแล้ว เลือดนั่นของเจ้าคืออะไร คิดไม่ถึงว่ายังจะสามารถถอนพิษดอกรัญจวนได้อีกด้วย หรือว่าเลือดของเจ้าสามารถแก้สารพัดพิษได้”
“ไม่กล้าพูดว่าแก้ได้สารพัดพิษ แต่สามารถถอนพิษของเจ้าได้ก็ดีแล้ว”
เจ้าสำนักชิงวางกู้ชูหน่วนลง เดินไปทางเวินเส้าหยีทีละก้าว ชำเลืองมองเขาจากบนลงล่าง ความรักความเอ็นดูในดวงตาไม่รู้ว่าหายไปเวลาใด แทนที่เข้ามาด้วยแรงสังหารอันเย็นยะเยือก
เป็นแรงสังหาร
แรงสังหารที่หนาแน่นเป็นอย่างมาก
ฟันของกู้ชูหน่วนสั่นสะท้านทันที “เจ้า……เจ้าคงไม่ได้คิดจะฆ่าเขาหรอกนะ? เขาไม่ได้ทำอะไรข้า ข้ากับเขาบริสุทธิ์ ไม่ได้เกินเลยไปขั้นสุดท้าย”
กู้ชูหน่วนคิดว่า เป็นเพราะเวินเส้าหยีทำอะไรกับนาง เจ้าสำนักชิงจึงได้เกิดแรงสังหารขึ้น
เจ้าสำนักชิงกล่าวอย่างเหยียดหยามเย็นชา “แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำอะไรเจ้า จากที่เขาเป็นนายน้อยหัวหน้าเผ่าของเผ่าเทียนเฟิ่น เขาก็สมควรตาย”
หลายปีนี้ เขาคิดอยากจะฆ่าเวินเส้าหยีมาตลอดแต่กลับไม่มีโอกาส
ตอนนี้นี่คือโอกาสที่ดีที่สุด เขาจะไม่ละทิ้งไปเด็ดขาด
อีกทั้ง เลือดที่สำคัญที่สุดในร่างกายของเขาให้อาหน่วนดื่มไปแล้ว เขาก็มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว
ก่อนตาย เขาจำเป็นต้องจัดการเวินเส้าหยีหายนะนี่ทิ้ง เพื่ออาหน่วน เพื่อสำนักอสุรา
“ปล่อยเขาไปได้หรือไม่ หากไม่ใช่เพราะเขาสละชีวิตช่วย เกรงว่าข้าก็คงจะตายไปในทะเลโลหิตนานแล้ว ข้าติดค้างบุญคุณเขาอยู่”นอกจากนี้ก็ติดหนี้ชีวิตเขาด้วย
เจ้าสำนักชิงคิดก็ไม่ได้คิด ปฏิเสธโดยตรง “ไม่ได้”
“เจ้าสำนักชิง……”
“เผ่าเทียนเฟิ่นและสำนักอสุราอยู่ร่วมโลกเดียวกันไม่ได้ นี่เป็นความแค้นที่ผูกขึ้นเมื่อร้อยปีก่อน เขาเป็นนายน้อยหัวหน้าเผ่าเทียนเฟิ่น จึงเป็นศัตรูคู่อาฆาตของสำนักอสุรา”