อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 366 เย่เฟิงตายอนาถ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 366 เย่เฟิงตายอนาถ
ถ้อยคำประโยคเดียวทำให้ความเมตตาของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ที่ผุดขึ้นอย่างยากยิ่งหายไปอีกครั้ง
เขาเอ่ยด้วยโทสะ “ไอ้บัดซบที่ไม่เชื่อฟัง เช่นนั้นเจ้าก็ไปตายเถอะ!”
ฝ่ามือของเขาซัดออกทันที
เย่เฟิงหัวเราะอย่างเย็นชา ก่อนที่ฝ่ามือนั้นจะมาถึง เขากรีดสายรัดเอว ปล่อยให้เรือนร่างตกสู่ทะเลโลหิตหมื่นจั้ง
ในหุบเขา ได้ยินเสียงเย็นชาของเขาชัดเจน
“ข้าเย่เฟิง ต่อให้ต้องตายก็ไม่ขอตายในเงื้อมมือเจ้า! หากมีชาติหน้า แม้นทั้งปฐพีผันแปรเป็นนรก ข้าก็จะแก้แค้นให้ถึงที่สุด หากไม่มีชาติหน้า ข้าจะเป็นผีร้าย ตามรังควานเจ้าทุกชาติไป ข้าขอสาปแช่งเจ้า!”
ทุกถ้อยคำของเย่เฟิง สีหน้าของหัวหน้ากองธงกล้วยไม้แย่ไปส่วนหนึ่ง
หัวใจเขาหวีดหวิว รู้สึกผิดแปลก ที่สะท้อนอยู่ในดวงตากระพรวนทองแดงลูกโตคู่นั้นล้วนเป็นความเคียดแค้นของเย่เฟิง
“เย่เฟิง…”
กู้ชูหน่วนคำรามเสียงดัง เส้นเลือดฝอยตาแตก อย่างไรก็ไม่อาจยอมรับคนเป็นๆ คนหนึ่งดับอนาถต่อหน้านางเช่นนี้
นางคลับคล้ายคลับคลาเหมือนได้ยินเสียงพึมพำแผ่วเบาของเย่เฟิง
“ได้รู้จักเจ้ากับเซียวหยู่เซวียน เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเย่เฟิง ขอบคุณเจ้าที่ทำให้ขารู้ว่าอะไรคือศักดิ์ศรี อะไรคือความเชื่อถือ อะไรคือ…ความสุข ขอโทษ…ข้าไม่สามารถหามุกมังกรที่เหลือเป็นเพื่อนเจ้าได้แล้ว…”
“อ้า…”
กู้ชูหน่วนคำรามอย่างเกรี้ยวกราด แทบอยากกระโดดลงไปตามตัวเย่เฟิงกลับมา
แต่นางรู้ แม้นางกระโดดลงไป เย่เฟิงก็กลับมาไม่ได้แล้ว
ทะเลโลหิตเดือดพล่านนับพันองศา อัตรารอดชีวิตโดยรวมแล้วคือศูนย์
“ซี้ด…”
จิตสังหารนางปรากฏ นัยน์ตาคมดุจคมมีดพุ่งไปทางหัวหน้ากองธงกล้วยไม้อย่างรุนแรง ทั่วสรรพางค์กายแผ่ซ่านข้าคือเอกะ บุคลิกกวาดล้างหกด้านแปดทิศสูงสุด
หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ตื่นตะลึง
จิตสังหารแรงกล้า
บรรยากาศรอบตัวทรงพลัง
หญิงตรงหน้า เป็นแค่คนอ่อนแอระดับหนึ่งระยะกลางจริงหรือ?
อี้เฉินเฟยที่ระโหยโรยแรง ดวงตาพร่าเบลอ คล้ายมองเห็นหงส์แลปฐพีเก่าก่อน กู้ชูหน่วนที่กวาดล้างเก้าสวรรค์สิบพิภพ
ครั้นนางลงมือ ฟ้าดินเปลี่ยนสี ดวงดาวเคลื่อนคล้อย ผู้กล้าทั้งมวลใต้หล้าล้วนอดสยบแทบเท้านางไม่ได้
อี้เฉินเฟยอยากพยายามลืมตาขึ้น แต่จนใจด้วยหนังตาหนักเกินไป ไม่ว่าเขาจะลืมอย่างไรก็ลืมไม่ขึ้น ได้แต่มองความสามารถกู้ชูหน่วนเพิ่มพรวดอย่างสะลึมสะลือ แต่ละกระบวนท่าล้วนแฝงพลังไพศาลที่สะท้านฟ้าสะเทือนดิน ทำจนหัวหน้ากองธงกล้วยไม้ไร้กำลัง แทบถูกซัดฝ่ายเดียว
“อั๊กๆๆ…”
หัวหน้ากองธงกล้วยไม้กระอักเลือดไม่หยุด แม้แต่ฟันหน้ายังถูกกู้ชูหน่วนทำหักดื้อๆ
มุมปากอี้เฉินเฟยยิ้มบาง ยิ้มได้อ้างว้างและตรอมตรม
อาหน่วนของเขา…เหมือน…กลับมาแล้ว…
“ตึก…”
หนังตาของอี้เฉินเฟยหนักเกินไป ทุกสิ่งเบื้องหน้า ทุกสิ่งข้างหู เขามองไม่เห็นและไม่ได้ยินอีก หมดสติโดยสมบูรณ์
เสียงเมื่อครู่ของกู้ชูหน่วนโหยหวนเกินไป คนเกือบทั้งภูเขาน้ำเต้าโลหิตต่างได้ยิน
สีหน้าน่าหลันหลิงลั่วที่กำลังโรมรันดุเดือดกับหัวหน้ากองธงโบตั๋นเปลี่ยนพลัน ใช้กระบวนท่าหลอกผละออกจากหัวหน้ากองธงโบตั๋น แล้วมุ่งไปทางกู้ชูหน่วนอย่างเร็วรี่
เย่จิ่งหานที่กำลังรักษาอยู่ในช่วงสำคัญไม่อาจสนใจการฟื้นฟูกำลังภายในของตนเอง โบกมือขวา คลุมชุดคลุมตัวหนึ่งลวกๆ เรือนกายประหนึ่งสายลม อันตรธานไร้ร่องรอย
“ท่านอ๋อง พิษของท่านยังเหลืออีกหน่อยจึงขจัดเสร็จ กำลังยุทธ์ยังไม่ฟื้นคืน ให้ข้าน้อยไปหาพระชายาเถอะพ่ะย่ะค่ะ”
“ทุกคนหลีกไป วันนี้ผู้ใดกล้าขวางข้า ก็อย่าหาว่าข้าลงมือไร้ไมตรี”
หัวใจของเย่จิ่งหานเต้นตุบตับๆ แม้เพิ่มความเร็วถึงขีดสุด เขาก็ยังรู้สึกช้า
เสียงโหยหวนราวปอดฉีกหัวใจแหลกลาญนั้น เขาแทบไม่อยากคิดว่ากู้ชูหน่วนเกิดเรื่องอะไรขึ้น
พวกเขานึกว่ากู้ชูหน่วนต้องเจอศัตรูตัวฉกาจที่สุดเป็นแน่ พบกับคู่ต่อสู้ที่ไม่เคยมีมาก่อน
กลับคิดไม่ถึง รอพวกเขาเร่งไปถึงแล้ว กลับเห็นกู้ชูหน่วนไล่ซ้อมหัวหน้ากองธงกล้วยไม้