อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 377 โศกนาฏกรรมของมนุษย์
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่377 โศกนาฏกรรมของมนุษย์
เป็นความแค้นแบบไหนกันนะ เผ่าเทียนเฟิ่นถึงได้สาปคำสาปที่ชั่วร้ายแบบนี้
“อาหน่วน……เจ้า……เจ้าจะต้องช่วยข้าปลอบพี่หนิวนะ ให้พี่หนิวดูแล……ดูแลลูกสาวของข้าดีๆ บอกเขาว่า……ข้า……ไม่โกรธเขา……”
“ได้” กู้ชูหน่วนพูดเสียงสั่น
มองดูป้าหนิวด้วยสายตาที่ทั้งเสียใจ ทั้งช่วยไม่ได้ ทั้งเศร้าโศก สุดท้ายสองมือก็ร่วงลงไปอย่างอ่อนแรง ตายจากไปอย่างไม่เต็มใจและเสียดาย
ข้างหู มีเสียงกรีดร้องอย่างทรมานดังขึ้นไม่หยุด
กู้ชูหน่วนอุ้มเด็กขึ้นมา ฉีกชายเสื้อแล้วคลุมหน้าป้าหนิวไว้
นางไม่มีเวลาให้เสียใจมากนัก ที่นี่ยังมีคนอีกมากมายที่รอให้นางช่วยเหลืออยู่
กู้ชูหน่วนอุ้มเด็กเอาไว้ อีกด้านก็สั่งคนนอกเผ่า นำพวกผู้หญิงและเด็กในมือของนางเข้าไปหลบในถ้ำ แล้วสั่งคนให้ไปเอาเหล็กนิล ปิดปากถ้ำไว้ ห้ามให้พวกเขาเข้ามา
ตลอดทั้งคืน กู้ชูหน่วนต่อกรกับพวกชาวบ้านที่โดนคำสาปเลือดไม่หยุด และช่วยพวกผู้หญิงที่ถูกทรมานไว้มากมาย
นางเริ่มหมดเรี่ยวแรงลง และถูกมีดฟันหลายแผล
แต่นางไม่รู้สึกตัวเลย เอาแต่ต่อกรกับชาวบ้านที่บ้าคลั่งและช่วยคนวนลูบอยู่อย่างนั้น เหมือนทำแบบนี้แล้ว ถึงจะบรรเทาความเจ็บปวดในใจของนางได้
ยามค่ำคืนครอบงำเข้ามา
ค่ำคืนนี้ ถูกกำหนดให้ไม่ใช่คืนธรรมดา
ค่ำคืนนี้ก็ถูกกำหนดไว้ด้วยว่าเป็นคืนที่จะผ่านไปได้ยาก
เสียงกรีดร้องอย่างทรมาน กรีดร้องอย่างเจ็บปวด รวมไปถึงเสียงคำรามของการฆ่าคนอย่างบ้าคลั่ง จนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้น ถึงจบลงช้าๆ
พระอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องลงมา
แต่กลับส่องหัวใจที่เยือกเย็นของพวกเขาไม่ได้
พวกผู้ชายที่ตั้งสติได้คุกเข่าลงกับพื้น กอดศพครอบครัวตัวเองแล้วร้องไห้อย่างรู้สึกผิด
พวกผู้หญิงกระดูกแตกร้าวเป็นเสี่ยงๆ ร่างกายอ่อนแรง ทรุดตัวลงแล้วนั่งร้องไห้ข้างๆพวกผู้ชายที่ฆ่าตัวตายเพราะรู้สึกผิด หรือเพราะแบกรักความเจ็บปวดนี้ไม่ได้
ยังมีพวกชาวบ้านที่มีสีหน้าเศร้าโศก ยกเปลช่วยเหลือผู้อื่น
กู้ชูหน่วนรักษาชาวบ้านที่บาดเจ็บอย่างชินชา ในใจเยือกเย็นถึงขั้นสุด
ทันใดนั้นข้างหูก็มีเสียงโทษตัวเองกับเสียงร้องไห้ของลุงหนิวดังขึ้น
“ภรรยาของข้า เจ้าจะจากไปอย่างนี้ได้ยังไง เจ้าตายไปแล้ว ข้าจะทำยังไง ลูกของพวกเราจะทำยังไง”
“ข้ามันคนระยำ ฆ่าได้แม้กระทั่งภรรยาของตัวเอง อ๊าก……ฟ้าสวรรค์ ทำไมถึงทำเช่นนี้กับข้า ท่านจะให้ข้าทำอะไรก็ได้ แต่ทำไมต้องพรากชีวิตภรรยาไปจากข้าด้วย”
ลุงหนิวโขกหัวลงพื้นเสียงดังลั่นไม่หยุด อยากจะโขกให้ตัวเองหัวแตกตายไปตรงนั้นเลย
กู้ชูหน่วนเดินไปตรงหน้าเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “เจ้าได้ตายแน่นอน แต่ถ้าเจ้าตายไปแล้ว เจ้าเคยคิดไหมว่าลูกสาวเจ้าจะเติบโตมายังไง? หรือเจ้าอยากพาลูกสาวขึ้นสวรรค์ไปด้วยกัน?”
ท่าทางของลุงหนิวชะงักค้าง
เขากุมหน้าอกตัวเองไว้อย่างเจ็บปวด เจ็บจนยากที่จะใช้คำพูดมาอธิบายได้
“ป้าหนิวคลอดลูกสาวออกมาด้วยชีวิต หากเจ้าตายไปแล้ว จะไม่รู้สึกผิดต่อเลือกที่ไหลออกจากตัวป้าหนิวเหรอ?”
ลุงหนิวร้องไห้สะอื้นจนพูดไม่ได้ ไม่หลงเหลือความเข้มแข็งของความเป็นลูกผู้ชายเลย
“แต่ข้าฆ่าภรรยาของตัวเอง ข้าฆ่าภรรยาของข้าด้วยมือของข้าเอง มือคู่นี้ของข้า……แปดเปื้อนไปด้วยเลือดของภรรยาข้า”
กู้ชูหน่วนเจ็บปวดหัวใจ นางนั่งยองลงไป ประคองลุงหนิวขึ้นมา น้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อย
“เจ้ารู้ไหมว่าก่อนป้าหนิวจะไป คนที่ไม่วางใจที่สุดคือใคร? คือเจ้า นางกลัวว่าเจ้าจะโทษตัวเองจนฆ่าตัวตาย นางฝากข้ามาบอกว่า นางไม่โทษเจ้าหรอก ขอแค่เจ้าใช้ชีวิตต่อไปดีๆและเลี้ยงดูลูกจนเติบใหญ่”
ด้านข้างมีเสียงเด็กทารกร้องไห้ขึ้นมา
ลุงหนิวกอดลูกสาวตัวเองไว้แน่น ปลอบอย่างอ่อนโยน กลัวว่าเสียงดังหรือทำแรงเล็กน้อย จะทำให้ลูกสาวตัวเองตกใจได้
“ใช้ชีวิตต่อไปดีๆ ไม่ว่าจะเพื่อป้าหนิว หรือเพื่อลูกสาว เจ้าไม่ควรจมอยู่กับความทุกข์แบบนี้ หากเจ้ารู้สึกผิด ก็เอาความรู้สึกผิดนี้เปลี่ยนเป็นความรักให้ลูกสาวเถอะ”
ลุงหนิวร้องไห้สะอื้น แต่ก็ไม่มีความคิดที่จะฆ่าตัวตายแล้ว
เขาพูดเสียงสะอื้นว่า “ข้ารู้แล้วล่ะ ขอบใจหัวหน้าเผ่ามาก ข้าจะไม่ฆ่าตัวตายอีกแล้ว ข้าจะเลี้ยงดูลูกสาวข้าจนเติบใหญ่ ข้าจะบอกกับนางว่า แม่ของนางยิ่งใหญ่แค่ไหน”
กู้ชูหน่วนน้ำตารื้นขึ้นเต็มขอบตา นางเบือนหน้าหนีออกไป ไม่อยากให้คนเห็นน้ำตาของนาง
เมื่อวานตอนเช้า ลุงหนิวยังไปล่าไก่มาต้มซุปไก่ให้ป้าหนิวกินอยู่เลย ภาพที่พวกเขารักกันยังปรากฏขึ้นบนมาตรงหน้า ตอนนี้เพิ่งผ่านไปแค่คืนเดียว ก็ต้องมาตายจากกันไปแล้ว
ความเจ็บปวดนี้ หากไม่ได้เผชิญเอง ใครจะเข้าใจความเจ็บปวดในใจของลุงหนิวได้
ผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสเจ็ดไม่รู้ว่ามาถึงข้างกายนางตั้งแต่เมื่อไหร่ เข้ามาปลอบใจนาง
“หัวหน้าเผ่า ท่านไม่ได้พักผ่อนมาคืนหนึ่งแล้ว กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ที่นี่ปล่อยให้ข้าจัดการเอง”
“คำสาปเลือดมีเพียงไข่มุกมังกรที่ถอนได้หรือเปล่า?”
“เอ่อ……คือว่า……หัวหน้าเผ่า เรื่องการตามหาไข่มุกมังกรค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ พวกเราเผ่าหยกมีคนมากมายออกไปตามหาไข่มุกมังกรลูกที่หกกับเจ็ดแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานก็คงมีคำตอบเอง”
“นั่นสิ ไข่มุกมังกรก็ไม่ได้ตามหากันง่ายๆ ตอนนี้ร่างกายสำคัญที่สุด ถึงแม้ท่านจะเป็นหัวหน้าเผ่า แต่ไม่ว่าท่านจะตามหาไข่มุกมังกรได้หรือไม่ ทุกคนก็ไม่โทษท่านหรอก”
ผู้อาวุโสใหญ่กับผู้อาวุโสเจ็ดใบหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วง พวกเขาพูดปลอบใจนางอย่างเงอะงะ
พวกชาวบ้านข้างๆที่ได้ยินแล้ว ถึงแม้จะเสียใจแค่ไหน ต่างก็เข้ามาปลอบใจนางกันหมด
“หัวหน้าเผ่า พวกเราชินแล้วล่ะ ตั้งแต่เล็กจนโต พวกเราเตรียมใจถูกคนที่รักที่สุดฆ่าแล้ว หรือเตรียมใจมาเจ็บตัวจนตายแล้ว ไม่เป็นไรจริงๆ ท่านอย่ารู้สึกผิดหรือโทษตัวเองเพราะพวกเราเลย”
“หัวหน้าเผ่า ท่านดูสิ คำสาปพิษก็กำเริบแค่ทุกวันที่สิบห้าของเดือน เวลาปกติ พวกเราก็ดีๆกันหมด ดังนั้นขอแค่พวกเราอดทนให้วันที่สิบห้าผ่านพ้นไปให้ได้ ก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ท่านอย่าเสียใจต่อไปอีกเลย”
กู้ชูหน่วนปิดปากไว้ พยายามให้ตัวเองไม่ร้องไห้ออกมา
สายตาที่พร่ามัวสะท้อนแววตาที่เป็นห่วงของทุกคน
นางกลับหลังหันวิ่งเข้าไปในบ้านไม้ไผ่
ไม่ว่าความทรงจำนางจะฟื้นฟูได้ครึ่งเดียว หรือจะยังไม่ฟื้นฟูทั้งหมด แต่ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ นางเป็นหัวหน้าเผ่าของเผ่าหยก
ถ้าชาวบ้านของเผ่าหยกโทษนาง หรือโกรธนางยังจะดีกว่าอีก แต่คนในเผ่าไม่ว่าจะแบกรับความเจ็บปวด หรือต้องพลัดพรากจากคนที่รักมากแค่ไหน แต่ละคนก็เข้ามาปลอบใจนางกันหมด กลัวว่านางจะรู้สึกผิด
เป็นเช่นนี้……
นางจะแบกรับไหวได้ยังไง?
เป็นถึงหัวหน้าเผ่าหยก นางกลับลืมเรื่องทั้งหมด และลืมหน้าที่ของตัวเอง
นางอย่างสบาย ใช้ชีวิตอย่างเพลิดเพลินตามใจตัวเอง
คนในเผ่าของนางกลับต้องถูกทรมานแบบนี้
ถ้านางไม่ย้อนกลับมากะทันหัน นางไม่มีทางรู้เลยว่าบนโลกนี้ยังมีคำสาปเลือดที่ชั่วร้ายขนาดนี้
ข้างๆบ้านไม้ไผ่
ผู้อาวุโสสามยกมือขึ้นอยากทุบตัวเองให้ตาย
ผู้อาวุโสสี่กับผู้อาวุโสหกเข้าไปห้ามเขาไว้
“หากเจ้าอยากตาย วันที่สิบห้าเดือนหน้าหากคำสาปเลือดของพวกชาวบ้านกำเริบอีก ใครจะมาหยุดพวกเขาไว้?”
“โทษข้า โทษข้าคนเดียว หากไม่ใช่เพราะข้า ก็คงไม่มีชาวบ้านมากมายขนาดนั้นออกจากประตูเหล็ก มาฆ่าผู้คนอย่างบ้าคลั่งได้ ข้าเป็นเพชฌฆาตนั้น ข้าไม่มีหน้าใช้ชีวิตต่อไปอีกแล้วล่ะ”
“คำสาปเลือดในตัวเจ้ากำเริบ ทุกคนเข้าใจเจ้าได้ เจ้าไม่ได้ตั้งใจสักหน่อย ข้าว่านะพี่สาม เรื่องในเผ่าก็มีเยอะมากพอแล้ว เจ้าอย่าก่อเรื่องเพิ่มอีกเลย”
“พวกเจ้าปล่อยข้า ให้ข้าตายไปเถอะ”