อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 384 กลับมาเจอเทพสงครามอีกครั้ง
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่384 กลับมาเจอเทพสงครามอีกครั้ง
“คุณชายของเราเป็นคุณชายสามแห่งจวนอันกั๋วกงเชียวนะ ครั้งนี้ฮ่องเต้ตั้งใจเรียกพวกข้ากลับมา เจ้ากล้าไม่เคารพคุณชายของเราเหรอ” ลูกน้องของเขาพูดโอ้อวดอย่างได้ใจ
คุณชายสามอันเชิดหน้ายืดอก ทำท่าหยิ่งยโส สีหน้าได้ใจ
กู้ชูหน่วนหัวเราะ “คุณชายสามแห่งจวนอันกั๋วกงงั้นเหรอ? ยศสูงดีนี่?”
“ไร้สาระ กั๋วกงของเราเป็นยศที่อดีตฮ่องเต้อวยให้เลยนะ เรียกได้ว่าอยู่ใต้หนึ่งคน อยู่บนหมื่นคน หากเจ้ายอมเป็นของคุณชาย ต่อไปเจ้าจะรุ่งเรืองและมีกินมีใช้ตลอดไปแน่นอน”
ถึงแม้คนของจวนอันกั๋วกงจะหลงใหลในหุ่นของกู้ชูหน่วน แต่มองดูจากเนื้อผ้าบนตัวนางแล้ว แน่ใจว่าผู้หญิงตรงหน้าต้องไม่ใช่คนรวยอะไรแน่นอน พวกเขาจึงพูดออกมาอย่างมั่นใจได้
“น่าเสียดาย ข้าแต่งงานแล้ว ไม่มีบารมีนี้”
คุณชายสามอันเข้าใจผิดกู้ชูหน่วน คิดว่านางเสียดายที่ตัวเองแต่งงานเร็วเกินไป จึงถูมือแล้วพูดอย่างเจ้าเล่ห์ว่า
“สาวสวย ขอแค่เจ้ายอมเป็นของข้า ถึงเจ้าจะแต่งงานแล้วก็ไม่เป็นไร ข้าจะสั่งคนให้ไปฆ่าผู้ชายคนนั้นเอง”
ผู้คนที่มองดูตามถนนก็ถอนหายใจกันใหญ่ มีเรื่องกับคุณชายสามอัน ไม่รู้ว่าบ้านไหนจะโชคร้ายอีก
กู้ชูหน่วนกอดอก แล้วแสยะยิ้มเย็นชา “ผู้ชายของข้ามียศสูงและมีอำนาจมาก ข้าเกรงว่าเจ้าจะฆ่าเขาไม่ได้ แต่ตัวเองจะตายเสียก่อนน่ะสิ”
“พูดเป็นเล่นไป เจ้าไม่รู้หรือไง อำนาจของจวนอันกั๋วกงเยอะแค่ไหน เหอะ ขอแค่จวนอันกั๋วกงของเรากระดิกนิ้ว อย่าว่าแต่ผู้ลากมากดีหรือพ่อค้าเศรษฐีเลย ถึงแม้กระทั่งเทพสงคราม พวกเราก็จะบี้มันจนตายเหมือนกับมดตัวหนึ่ง”
พอพูดจบ ก็มีเสียงทุ้มต่ำที่มีอำนาจดังขึ้นมาทันที “ใครกล้าบี้ข้าจนตายกัน”
ทุกคนเงยหน้าขึ้น กลับเห็นมีชายสวมชุดสีม่วงไม่ไกลมากขี่ม้าเข้ามา เขาดึงเชือกม้าแล้วหยุดลงช้าๆ กวาดตามองทุกคนจากบนที่สูง สุดท้ายก็มองไปยังกู้ชูหน่วน
ด้านหลังของชายชุดม่วง ยังมีองครักษ์หน้าตาหล่อเหลาอยู่สองคน รวมไปถึงทหารอีกหนึ่งหน่วย
ชายชุดม่วงอายุไม่ถึงยี่สิบ ร่างกายจากบนจรดเท้าแผ่ซ่านไปด้วยความดุดันทรงพลัง เค้าโครงใบหน้าของเขาหล่อเหลาได้สัดส่วน คิ้วดกเข้มได้ทรง จมูกโด่งได้รูป งดงามจนไม่มีจุดบกพร่อง ราวกับผลงานที่พระเจ้าได้ตั้งใจสร้างขึ้นมา
เห็นใบหน้าของชายหนุ่มแล้ว หญิงสาวไม่น้อยต่างก็แก้มแดงระเรื่อกันหมด หัวใจเต้นเร็วและแรงจนแทบจะกระเด็นออกมา
ภายในหมู่ผู้คน ไม่รู้ว่าใครตะโกนขึ้นมาว่า “คุณพระ นั่นคือเทพสงคราม เป็นเทพสงครามจริงด้วย”
ทุกคนตกตะลึงกันหมด
อะไรนะ……
ชายชุดม่วงคนนั้นคือเทพสงครามเหรอ?
เทพสงครามไม่ใช่ว่าพิการหรอกเหรอ? ทำไมมาขี่ม้าได้ล่ะ?
คุณชายสามอันฝืนทำตัวนิ่ง “เจ้าเป็นใคร กล้าแอบอ้างเป็นเทพสงครามได้ยังไง?”
ทหารหลวงตะคอก “บังอาจ เห็นท่านอ๋องเทพสงครามแล้วยังไม่รีบคุกเข่าลงอีก”
อะ……อะไรนะ
เป็นเทพสงครามเย่จิ่งหานจริงเหรอ?
คุณชายสามอันขาอ่อนทรุดลงพื้น สีหน้าซีดเซียว พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทาว่า “ท่าน……ท่านอ๋อง……ข้าน้อยสมควรตาย ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านเป็นท่านอ๋อง ล่วงเกินท่านไป ท่านได้โปรดมีเมตตา ไว้ชีวิตข้าครั้งนี้ด้วยเถิด”
เย่จิ่งหานไม่เงยหน้ามองเขาด้วยซ้ำ
นัยน์ตาของเขาสะท้อนแค่ใบหน้าของกู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนสวมชุดสีแดง งดงามแต่ไม่ฉูดฉาด ฉูดฉาดแต่ไม่ยั่วยวน ถึงแม้เนื้อผ้าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่พอเป็นนางสวมแล้ว กลับไม่รู้สึกถึงความราคาถูกของมันเลย แต่กลับทำให้นางดูแพงมากขึ้นไปอีก
นางสวมผ้าปิดหน้าไว้ มองไม่เห็นใบหน้าของนาง แต่เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น กลับทำให้คนที่เห็นไม่อาจละสายตาจากนางได้
ลมโชยมาอ่อนๆ พัดชายกระโปรงสีแดงของนาง ราวกับปีกที่บินทะยานขึ้นฟ้า
หลายวันมานี้ เขาทั้งโกรธ ทั้งกังวล ทั้งเป็นห่วง ทั้งร้อนรน ในวินาทีนี้ทุกอย่างมลายหายไปทั้งหมด ที่เข้ามาแทนที่คือความสุขที่ล้นปรี่