อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 386 ท่านอ๋องเป็นทาส
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่386 ท่านอ๋องเป็นทาส
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างเหนื่อยใจ ปล่อยให้เขาจับมือตัวเอง เดินออกจากสายตาที่ทั้งอิจฉาและตกตะลึงของทุกคน
ณ จวนอ๋องหาน
เย่จิ่งหานไม่รู้ว่าให้คนเตรียมอาหารไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กู้ชูหน่วนกวาดตามองไป มีถึงยี่สิบแปดเมนู และทุกเมนูก็เป็นอาหารที่นางชอบด้วย ดูออกว่า เย่จิ่งหานใส่ใจมากแค่ไหน
เดินทางมาไกล นางหิวจนไส้จะขาดแล้ว นางหยิบตะเกียบขึ้นมา แล้วกินมูมมามอย่างไม่สนใจใคร
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ที่รัดอยู่บนข้อมือได้กลิ่นหอมของเนื้อ ก็กระโดดพึ่บลงมา มองดูอาหารบนโต๊ะน้ำลายไหล
กู้ชูหน่วนเห็นมันกำลังจะกิน ก็จับหางมันขึ้นมา “เจ้านายกินข้าว งูอย่าเข้ามายุ่ง”
“ฟ่อๆ……นายท่าน เค้าหิวแล้วนะ”
“เจ้าควรจะบอกข้าว่า มีวันไหนบ้างที่เจ้าไม่หิว”
“เยอะขนาดนี้ เจ้าก็กินไม่หมด เหลือให้เค้ากินบ้างสิ ดูสายตาที่น่าสงสารของข้าสิ”
“ไสหัวไปเลย อย่ามาทำตัวน่าสงสารตรงนี้”
กู้ชูหน่วนจับมันโยนออกไป
ตั้งแต่ออกมาจากเผ่าหยก นางไม่ได้กินเนื้อเลยสักคำ ให้มันกินหมดเลย
อีกอย่าง เงินที่นางเอามาด้วยก็เอาไปซื้อเนื้อให้มันจนหมด ขนาดเสื้อผ้าเครื่องประดับของนางก็เอาไปจำนำซื้อเนื้อหมดแล้ว จึงทำให้นางต้องใช้เงินไม่กี่กษาปณ์ ซื้อเสื้อผ้าเนื้อหยาบมาใส่ไว้ก่อน เลยถูกคนอื่นมองว่าเป็นหญิงยากจนและกลั่นแกล้ง
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เลื้อยขึ้นโต๊ะอีกครั้ง เตรียมแอบกินเนื้อในตอนที่กู้ชูหน่วนไม่ทันระวัง
แต่ไม่คิดว่า หางของมันถูกจับขึ้นมาอีกครั้ง
ครั้งนี้คนที่จับมันขึ้นมาไม่ใช่กู้ชูหน่วน แต่เป็นเย่จิ่งหาน
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์โมโห แยกเขี้ยวใส่เย่จิ่งหาน
เจ้านายจับหางมันขึ้นมาก็ช่างเถอะ ขนาดเจ้าโง่นี่ก็ยังมารังแกมันอีก
มันเป็นเจ้าแห่งสัตว์ ราชาแห่งงูเชียวนะ
“ฟ่อๆๆ……”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ดิ้นรน แต่ผู้ชายตรงหน้าไม่รู้ว่าเอาแรงมาจากไหน แค่จับไว้แบบนี้ มันใช้แรงทั้งหมดก็ยังขัดขืนออกมาไม่ได้
เจี่ยวจิ่วเอ๋อร์โกรธจัด กำลังจะแปลงร่างเป็นงูยักษ์ ทันใดนั้นเย่จิ่งหานก็พูดว่า
“เจี่ยงเสวีย ไปย่างหมูสิบตัวมาให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กิน”
ใบหน้าบึ้งตึงของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็ยิ้มร่าออกมาทันที
มันทำเสียงฟ่อๆๆ เอ่ยชมว่า “คนดีๆ”
กู้ชูหน่วนมองตาขวางเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ แล้วพูดว่า “ไม่มีศักดิ์ศรีจริงๆ”
“ฟ่อๆ……นายท่าน เค้าเป็นงูนะ ไม่ต้องใช้ศักดิ์ศรีหรอก”
“ไสหัวไปเถอะ ออกไปอย่าบอกว่ารู้จักข้านะ ข้าอายคนอื่นเขา”
ฟ่อๆๆ……
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ส่ายหางอย่างได้ใจ เลื้อยขึ้นไปบนตัวเจี่ยงเสวีย ตามเขาออกไปกินหมูย่าง
ตอนที่กู้ชูหน่วนยังไม่กลับมา เย่จิ่งหานเตรียมคำพูดที่จะบ่นนางไว้มากมาย แต่พอเห็นนางกินมูมมามและสีหน้าทรุดโทรมแบบนี้ ไม่รู้ว่านางไม่ได้พักผ่อนมากี่วันแล้ว ทำให้ความโกรธทั้งหมดของเขาสลายกลายเป็นความปวดใจแทน
เขาพูดเสียงเบาว่า “กินช้าหน่อย ไม่มีใครแย่งกับเจ้าแล้ว”
ชิงเฟิงแทบล้มหน้าทิ่ม
เขาคิดว่าตัวเองฟังผิดเสียอีก
ตอนที่พระชายายังไม่กลับมา นายท่านยังบอกว่าจะจับนางมาสับเป็นชิ้นๆอยู่เลยนี่?
ถึงแม้จับมาสับเป็นชิ้นๆจะดูเกินจริงไปหน่อย
แต่นายท่านกลับโกรธจริงๆ
เขาคิดว่า พระชายากลับมาจะต้องโดนดุด่าแน่นอน
แต่ตอนนี้……
นี่มันอะไรกัน?
นายท่านยังแกะกุ้งให้นางกับมืออีก แถมยังเช็ดมุมปากให้นางด้วย……
นี่มันๆๆ……
ใครเป็นเจ้านายกันแน่?
เป็นอย่างที่คาดไว้ คนอื่นบอกว่าหากผู้ชายมีภรรยาแล้วจะเปลี่ยนไปทันที คำพูดนี้พูดได้ไม่ผิดเลยจริงๆ
กู้ชูหน่วนมองดูเย่จิ่งหานอย่างงุนงง
เจ้าหมอนี่ กลายเป็นคนใส่ใจแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
คงไม่ได้คิดจะทำอะไรหรอกนะ?
“คือว่า……ท่านอ๋อง ไข่มุกมังกรไม่ได้อยู่ที่ข้า คนของเผ่าหยกแย่งไปแล้ว ส่วนเผ่าหยกอยู่ที่ไหน ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าเข้าไปแบบสลบ ออกมาแบบโดนปิดตา”
กู้ชูหน่วนรีบโยนความผิด