อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 387 วัดชีพจรเถอะ ข้าจะได้สบายใจ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่387 วัดชีพจรเถอะ ข้าจะได้สบายใจ
เย่จิ่งหานนานมากกว่าจะเข้าใจความหมายของนาง
“คนที่จับตัวเจ้าไปเป็นเผ่าหยกเหรอ?”
“อืม……” กู้ชูหน่วนตอบเสียงแข็ง
“เจ้ามีความเกี่ยวข้องอะไรกับเผ่าหยก?” เย่จิ่งหานจ้องนาง ไม่อยากพลาดทุกอากัปกิริยาของนาง
“จะเกี่ยวข้องอะไรได้ล่ะ ก็ตัวข้ามีไข่มุกมังกร พวกเขาก็แค่อยากได้ไข่มุกมังกรเอง”
“งั้นเหรอ? แต่ตอนที่คนของเผ่าหยกพาตัวเจ้าไปยังบอกว่า หมอด้านล่างเขาก็ช่วยเจ้าไม่ได้ มีเพียงพวกเขาถึงจะช่วยเจ้าได้”
เย่จิ่งหานมั่นใจว่า กู้ชูหน่วนกำลังโกหก แต่ว่าเขาใช้ทุกเส้นสายของเขาแล้ว ก็ยังสืบไม่เจอว่ากู้ชูหน่วนเกี่ยวข้องกับเผ่าหยกยังไง พวกเขาเหมือนกับว่าไม่เคยไปมาหาสู่กันเลย
กู้ชูหน่วนกินน่องไก่คำโตๆ แถไปเรื่อยๆ “งั้นเหรอ พวกเขาอาจจะได้ไข่มุกมังกรที่อยู่บนตัวข้าไปแล้ว รู้สึกว่าติดค้างข้า จึงช่วยข้าไว้”
“งั้นเจ้าอยู่เผ่าหยกเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง เผ่าหยกมีคนแบบไหนบ้าง พวกเขารักษาเจ้าได้ไหม”
“ท่านอ๋อง ท่านถามเยอะขนาดนี้ จะให้ข้าตอบข้อไหนล่ะ? ภรรยาของท่านเกือบตายแล้วนะ ท่านไม่ใส่ใจก็ช่างเถอะ ยังมาถามแบบนี้อีก ข้าเป็นนักโทษของท่านหรือไง?”
กู้ชูหน่วนว่าแล้ว ก็หยิบเนื้อขาหมูยัดเข้าปาก
ไม่ได้กินเนื้อมาสักระยะ นางรู้สึกว่าเนื้อหอมมากกว่าเมื่อก่อน ถึงว่าเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ถึงชอบกินเนื้อขนาดนั้น
เย่จิ่งหานกลับตบขาหมูในมือของนางทิ้ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “บอกแล้วไง อาหารทุกอย่างในจวนห้ามเผ็ดไง? ถ้าเด็กในท้องพระชายาเป็นอะไรไปจะทำยังไง เจ้ารับผิดชอบไหวเหรอ?”
“ข้าน้อยสมควรตายขอรับ ข้าน้อยประมาทไปเอง” ชิงเฟิงกวักมือ รีบให้คนเอาอาหารที่มีรสเผ็ดออกไป
กู้ชูหน่วนหมดอารมณ์
ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าอาหารตรงหน้าไม่อร่อยเลยสักนิด
นางลืมไปได้ยังไงกันนะ ช่วงก่อนนางแกล้งตั้งครรภ์หลอกๆ
ตายแล้ว……
ถ้าเทพสงครามรู้ว่านางไม่ได้ตั้งครรภ์ จวนอ๋องหานคงได้วุ่นวายจนไก่หมากระเจิงอีกครั้งน่ะสิ?
ทันใดนั้นเย่จิ่งหานก็พูดขึ้นอย่างสงสัยว่า “แปลกจัง ทำไมนานขนาดนี้แล้ว ท้องยังไม่โตขึ้นมาอีกล่ะ หรือว่าเจ้าไม่ค่อยสบาย ชิงเหิง ไปตามหมอมา”
“ขอรับ”
“ไม่ต้องๆ ท่านอ๋อง ร่างกายข้าดีมาก ข้าว่านะไม่จำเป็นหรอก”
“จำเป็นสิ”
“ท่านอ๋อง ข้าเองก็เป็นหมอนะ ร่างกายข้าเป็นยังไง ตัวข้ารู้ดีกว่าใคร”
“พระชายาตื่นเต้นขนาดนี้ คงไม่ได้มีเรื่องปิดบังหรอกนะ?” เย่จิ่งหานเลิกคิ้วขึ้น สายตาเต็มไปด้วยความสงสัย
กู้ชูหน่วนตั้งสติ ไม่อยากให้เย่จิ่งหานจับได้
นางพูดอย่างมั่นใจว่า “ข้าจะมีเรื่องปิดบังอะไร? หรือเจ้าคิดว่าข้าแอบไปมีชู้? ข้าเดินทางมาตั้งไกล เหนื่อยมากแล้ว อยากกลับไปพักผ่อน ไม่มีธุระก็ไม่ต้องเรียกข้านะ”
“ท่านอ๋อง หมอมาแล้วขอรับ”
กู้ชูหน่วนเพิ่งเดินได้สองก้าว ก็ถูกทุกคนขวางทางไว้เสียก่อน
นางเงยหน้าขึ้น ตรงหน้ามีคนกลุ่มหนึ่ง เป็นหมอทั้งหมด นับดูแล้ว น่าจะมีประมาณสามสี่สิบคนได้
“กระหม่อม /ข้าน้อยขอคารวะท่านอ๋อง ขอคารวะพระชายา”
กู้ชูหน่วนคิ้วกระตุก ชี้หน้าหมอทุกคน โกรธจัดแล้วพูดว่า “เย่จิ่งหาน เจ้าหมายความว่ายังไงกัน?”
ชิงเฟิงทำหน้าดีใจ แล้วพูดอย่างได้ใจว่า “พระชายา นายท่านเป็นห่วงท่าน ดังนั้นเลยเชิญหมอทุกคนที่ดีที่สุดในพระนครเข้ามาในจวน ต่อไปจะมีพวกเขาคอยวัดชีพจร บำรุงรักษาร่างกายให้ท่าน จะได้คลอดคุณชายน้อยที่แข็งแรงออกมา พระชายา นายท่านดีกับท่านจริงๆ ข้าน้อยเห็นแล้วยังต้องซาบซึ้งใจเลย”
กู้ชูหน่วนมุมปากกระตุก
ดีต่อนางงั้นเหรอ?
ซาบซึ้ง?
ควรซาบซึ้งจริงๆ
อย่าว่าแต่นางไม่ได้ตั้งครรภ์เลย ถึงจะมี คนมากมายพวกนี้มาวัดชีพจรทีละคน คงได้ทำให้เด็กในท้องขาดอากาศหายใจแน่
“ข้าแข็งแรงดี ให้พวกเขาไสหัวลงไปได้แล้ว” กู้ชูหน่วนพูดอย่างไม่พอใจ
“เจ้าไม่เพียงแต่ตั้งครรภ์แล้ว ก่อนหน้านี้ยังบาดเจ็บอีก ให้หมอวัดชีพจรให้เจ้าหน่อยเถอะ ข้าจะได้สบายใจด้วย”