อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 391 ในที่สุดก็มีจิตสำนึกสักที
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่391 ในที่สุดก็มีจิตสำนึกสักที
ตอนนั้น นางอยากได้ม้วนหนังแกะโบราณ ก็แค่สงสัยสัญลักษณ์ภาษาอังกฤษในม้วนหนังแกะโบราณนั้น
ไม่ว่าเย่จิ่งหานจะให้นางไหม นางก็ไม่เสียหายอะไรอยู่แล้ว
แต่ตอนนี้……
ม้วนหนังแกะโบราณนั้นมีเรื่องเกี่ยวกับไข่มุกมังกร และชาวเผ่าหยกนับหมื่นคนกำลังรอนางรวบรวมไข่มุกมังกรให้ครบเจ็ดลูก
ถ้าไปขอเย่จิ่งหานตรงๆ ถ้าเขาปฏิเสธอีกครั้ง หรือเอาม้วนหนังแกะโบราณไปซ่อนไว้ล่ะ?
นางเดิมพันไม่ไหวหรอกนะ
นางต้องแบกรับภาระรับผิดชอบต่อชาวเผ่าหยก
เรื่องบาดใจมากมายที่เกิดขึ้นในเผ่าหยกในวันที่สิบห้า ทุกภาพทุกฉากประทับอยู่ในสมองของนาง
ทุกครั้งที่นึกถึงภาพนั้น นางก็เจ็บปวดใจราวกับจะขาดใจตาย
“คุณหนูเป็นอะไรไปเจ้าคะ สีหน้าดูแย่จังเลยเจ้าค่ะ”
กู้ชูหน่วนหลับตาสูดหายใจเข้าลึกๆ พอลืมตาขึ้นอีกครั้ง อารมณ์ความเสียใจก็มลายหายไปทั้งหมด
“ช่วยข้าแต่งตัวหน่อย”
“เจ้าค่ะ”
“ใส่ตัวนั้น”
“คุณหนู ดึกมากแล้ว ท่านไม่พักผ่อนเหรอเจ้าคะ?”
“นอนไม่หลับ อยากออกไปเดินเล่น”
“ท่านเหน็ดเหนื่อยอยู่ด้านนอกตั้งนาน พักผ่อนแต่เช้าดีกว่านะเจ้าคะ ถึงท่านจะไม่ห่วงตัวเอง ก็ห่วงเด็กในท้องหน่อยจะดีกว่านะเจ้าคะ”
“……”
“คุณหนู เป็นเพราะท่านอ๋องไม่ได้มาพักกับท่าน ท่านเลยอารมณ์ไม่ดีหรือเปล่าเจ้าคะ? ให้ชิวเอ๋อร์ไปเชิญท่านอ๋องมาไหมเจ้าคะ”
“ทำไมเจ้าเอาแต่บ่นฉอดๆไม่รู้จบเลยเนี่ย เจ้าไม่เหนื่อยบ้างเลยหรือไง?”
“คุณหนู……”
“หุบปาก ห้ามพูดอีก และไม่ต้องตามมาด้วย”
กู้ชูหน่วนมองค้อนชิวเอ๋อร์ เดินไปยังหอเก็บสมบัติ
ชิวเอ๋อร์ยืนงงอยู่กลางดง คุณหนูกลับมาครั้งนี้กินยามาผิดตัวหรือไงกัน? ทำไมถึงดุนางแบบนี้ล่ะ?
ถึงแม้กู้ชูหน่วนไม่ให้นางตามไป ชิวเอ๋อร์ก็ยังตามไปอยู่ดี กลัวว่าเด็กในท้องนางจะเป็นอะไรไป
นอกหอเก็บสมบัติ ชิวเอ๋อร์ดึงแขนเสื้อนาง แล้วพูดอย่างร้อนใจว่า “คุณหนูคงไม่ได้อยากเข้าไปในหอเก็บสมบัติหรอกนะเจ้าคะ? ถึงท่านจะเป็นพระชายา แต่หากไม่มีรับสั่งจากท่านอ๋อง ท่านก็เข้าไปไม่ได้นะเจ้าคะ……เพราะยังไงที่นี่ก็เป็นห้องเก็บของมีค่าในจวน”
“ข้าเป็นพระชายาหาน สมบัติครึ่งหนึ่งในจวนนี้ก็เป็นของข้าด้วย ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็เป็นแค่หอเก็บสมบัติ เปิดประตู”
พวกข้ารับใช้ที่เฝ้าประตูก็มองไปยังพ่อบ้านอย่างลำบากใจ พ่อบ้านก็รีบพูดว่า “พระชายาให้พวกเจ้าเปิดประตู พวกเจ้ายังไม่รีบเปิดอีก”
“ขอรับ”
“พระชายา ท่านอยากได้อะไร สั่งข้าน้อยมาแล้วข้าน้อยจะไปเอามาส่งให้ท่านเองกับมือ”
“ไม่จำเป็น ข้ามาหาเองได้ พวกเจ้าไม่ต้องตามมานะ ชิวเอ๋อร์ก็ด้วย”
“ขอรับๆๆ……” พ่อบ้านตอบรับอย่างเกรงใจ
ชิวเอ๋อร์งุนงง
พ่อบ้านเกรงใจคุณหนูขนาดนี้? แถมยังปล่อยให้คุณหนูไปเลือกเองอีก?
คุณหนูโลภมากขนาดนี้ พวกเขาไม่กลัวว่าคุณหนูจะขนของในหอเก็บสมบัติไปทั้งหมดหรือไง?
เวลาผ่านไป คนในหอเก็บสมบัติก็ยังไม่ออกมาสักที ชิวเอ๋อร์มั่นใจว่า ของในนั้นต้องถูกคุณหนูขนออกมาจนหมดแน่
ในที่สุด กู้ชูหน่วนออกมาสักที
สองมือของนางว่างเปล่า สีหน้ามืดมนและผิดหวัง
พ่อบ้านพูดประจบว่า “พระชายา ไม่ทราบว่าท่านอยากได้ของอะไร ถ้าต้องการ ข้าน้อยจะรีบสั่งคนให้ส่งไปที่ห้องของพระชายาทันที”
“ไม่มี นำทาง ข้าจะไปห้องหนังสือ”
“ห้องหนังสือ……”
“ทำไม? ข้าไปไม่ได้หรือไง?”
“พระชายาพูดเป็นเล่นไป ท่านเป็นนายหญิงของจวนอ๋องหาน พระชายาเอกของท่านอ๋อง ขอแค่ท่านอยากไป ก็สามารถไปทุกที่ในจวนอ๋องหานได้ ข้าน้อยจะพาท่านไปเดี๋ยวนี้เลยขอรับ”
ด้านข้างมีเสียงพวกข้ารับใช้กระซิบเสียงเบา “หอเก็บสมบัติถูกค้นจนวุ่นวายไปหมด แต่ไม่มีของชิ้นไหนหายไปเลย ไม่รู้ว่าพระชายาไม่ชอบอะไรสักอย่างเลยหรือเปล่า”
ชิวเอ๋อร์ได้ยินคำพูดนี้
นางขมวดคิ้ว
นิสัยเมื่อก่อนของคุณหนูก็ไม่พูดแล้ว แต่นิสัยในตอนนี้ หอเก็บสมบัติมีของล้ำค่ามากมายขนาดนั้น ทำไมนางถึงไม่เอาออกมาเลยสักชิ้นล่ะ?
หรือว่าคุณหนูเปลี่ยนความชอบแล้ว?
คุณพระ คุณหนูเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจริงๆ?
นางเพิ่งรับได้ คุณหนูก็เปลี่ยนไปแล้ว
ตอนที่ใกล้ถึงห้องหนังสือ พ่อบ้านพูดเตือนอย่างระมัดระวังว่า “พระชายา ท่านอ๋องยังไม่พักผ่อน ตอนนี้ยังอ่านหนังสืออยู่ในห้องหนังสือ จะแจ้งท่านอ๋องก่อนไหมขอรับ”
กู้ชูหน่วนอยากจะเข้าไปค้นในห้องหนังสือหลังจากเย่จิ่งหานพักผ่อนแล้ว
แต่พอนึกถึงชาวบ้านเผ่าหยก นางก็กัดฟันเดินไปที่ห้องหนังสือ พูดทิ้งท้ายว่า
“ไม่ต้องแล้ว พวกเจ้าถอยออกไป ข้าเข้าไปเอง”
ชิวเอ๋อร์เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ
ที่แท้คุณหนูก็ยังเป็นห่วงท่านอ๋องอยู่
ในที่สุดคุณหนูก็รู้สักที รู้ว่ายังต้องมาเอาใจท่านอ๋อง
พ่อบ้านปัดมือให้ทุกคนถอยออกไป ชิวเอ๋อร์ก็ถอยออกไปอย่างรู้ตัว รอกู้ชูหน่วนออกมาไกลๆ
“แอ๊ด……” ประตูห้องหนังสือถูกเปิดออก
กู้ชูหน่วนพูดด้วยรอยยิ้ม “ท่านอ๋องยังไม่พักผ่อนเหรอ”
เย่จิ่งหานนั่งอยู่ตรงหน้าต่าง อ่านหนังสือใต้แสงไฟ ได้ยินเสียงของกู้ชูหน่วน ก็เงยหน้าขึ้นแล้วพูดว่า “ดึกขนาดนี้แล้ว มาหาข้ามีธุระอะไรเหรอ?”
กู้ชูหน่วนนั่งตรงหน้าเขาอย่างไม่เกรงใจ สองตาก็กวาดตามองรอบๆตลอดเวลา ปากก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า
“ทำไม ข้าไม่มีเรื่องก็มาหาเจ้าไม่ได้เลยหรือไง?”
นางแค่พลั้งปากพูดออกไป แต่เย่จิ่งหานได้ยินแล้วกลับรู้สึกได้ถึงความคลุมเครือแปลกๆ
“เจ้าท้องแล้ว พักผ่อนในห้องดีๆ รอข้าไปหาที่เรือนอุ่นก็ได้แล้ว”
กู้ชูหน่วนเกือบจมน้ำลายตัวเองตาย
เจ้าหมอนี่ ทำไมถึงลึกซึ้งขึ้นมาล่ะ?
คงไม่ได้คิดว่านางอยากมาหาเขาจริงหรอกนะ?
กู้ชูหน่วนรีบเปลี่ยนประเด็น มือก็ค้นโต๊ะไม่หยุด “เจ้าดูหนังสืออะไรบ้างเนี่ย เยอะขนาดนี้เชียว”
“อย่าขยับ……”
เย่จิ่งหานรีบพูด อยากเข้าไปห้ามกู้ชูหน่วนแต่ก็ไม่ทันแล้ว กู้ชูหน่วนหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านทันที
“ทฤษฎีการเลี้ยงลูก”
“ทฤษฎีการตั้งชื่อ”
“การกำเนิดของเสียง”
“การบำรุงครรภ์”
“ยังมีอันนี้ ตำราสามีภรรยาคู่หยินหยาง เหอะ……เย่จิ่งหาน เจ้าทำอะไรของเจ้าเนี่ย”
ทุกคำพูดของกู้ชูหน่วน ทำเอาเย่จิ่งหานอับอายมาก เขารีบเก็บหนังสือมาแล้วพูดว่า
“ช่วงนี้ไม่รู้ว่าชิงเฟิงเป็นอะไร ทำไมถึงเอาของพวกนี้มาให้ข้า พรุ่งนี้ข้าไม่ปล่อยเขาไว้แน่”
กู้ชูหน่วนนั่งพิงลงไปบนเก้าอี้นอนอย่างขี้เกียจ แล้วเหลือบตามองเขาด้วยรอยยิ้ม
“ท่านอ๋อง ที่จริงเรื่องแบบนี้ก็ไม่น่าอายหรอก เจ้าวางใจได้ ข้าไม่เผยแพร่ออกไปหรอก”
“เจ้าโง่ ข้าเป็นใคร จำเป็นต้องอ่านหนังสือพวกนี้เหรอ?”
“ขอรับๆๆ ท่านอ๋องเป็นคนอยู่ใต้หนึ่งคน อยู่บนหมื่นคน อำนาจล้นฟ้า เรียกลมได้ลม เรียกฝนได้ฝน ท่านไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือพวกนี้ แต่ว่าท่านอ๋อง ข้าขอถามท่านหน่อยว่า ท่านอยากได้ลูกคนหนึ่งมากเลยใช่ไหม?”
“ข้าไม่รังเกียจที่จะมีลูก”
คำพูดของเขา ยอมรับแบบทางอ้อมว่า เขาอยากได้ลูก อยากได้ลูกของเขากับกู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนก็เข้าใจความหมายโดยรวมของเขา
เมื่อก่อนเขาพิการขาสองข้าง อาจจะทำอย่างว่าไม่ได้
ตอนนี้ขาของเขาดีแล้ว อยากได้ลูกก็เป็นเรื่องปกติ
เห็นแก่ที่เขาช่วยนางไม่น้อย นางคงต้องเสียเวลา ช่วยเขาหาสนมสองสามคน เพื่อจะได้สืบเชื้อสายให้เขาโดยเร็ว และมีลูกชายให้เขาสองสามคน
“ท่านอ๋องชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ?”
“เจ้าถามเรื่องนี้กับข้าทำไม?”
“ไม่มีอะไร แค่ถามเฉยๆ” กู้ชูหน่วนแกล้งหยิบหนังสือมาบังหน้าตัวเองไว้ แล้วกวาดตาสอดส่องทั่วห้องหนังสือในที่ที่เย่จิ่งหานไม่เห็น
เย่จิ่งหานจิตใจเบิกบาน ผู้หญิงคนนี้ ในที่สุดก็มีจิตสำนึกสักทีนะ