อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 394 ความสัมพันธ์ที่อบอุ่น
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่394 ความสัมพันธ์ที่อบอุ่น
ณ ห้องครัว
เย่จิ่งหานสองมือไพล่หลัง ฟังชิงเฟิงรายงานเงียบๆ
“นายท่าน พอท่านไปแล้ว พระชายาก็ค้นห้องหนังสือทั้งห้อง เหมือนกำลังหาอะไรอยู่ ก่อนหน้านี้ พระชายาก็ไปหอเก็บสมบัติ และค้นหอเก็บสมบัติทั้งห้อง แต่นางก็ไม่ได้เอาอะไรออกมา น่าจะไม่มีของที่พระชายาต้องการ”
“ข้าน้อยยังสืบไม่ได้ว่าพระชายาต้องการอะไร และยังสืบไม่ได้ว่าใครบังคับให้พระชายาทำอะไร”
“นายท่าน จะเรียกพระชายามาสอบถามหรือไม่ขอรับ”
เจี่ยงเสวียกลอกตามองบนชิงเฟิง
นี่มันเวลาไหนแล้ว เจ้าโง่ชิงเฟิงยังไม่ยอมรับความจริงอีก
ท่านอ๋องเป็นห่วงพระชายามากกว่าใครทั้งนั้น จะถามพระชายาต่อหน้า แล้วให้พระชายาอับอายขายขี้หน้าในจวนได้ยังไง
ไม่แปลกที่พระชายาชอบว่าชิงเฟิงโง่
เย่จิ่งหานพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ไม่ว่านางจะไปไหน หาอะไร ก็ปล่อยนางหาไปเถอะ คอยจับตาดูนางไว้ให้ดี อย่าให้นางรู้ตัว”
“ขอรับ”
เห็นเย่จิ่งหานเดินไปข้างบ่อปลา ชิงเฟิงก็พูดอย่างลังเลว่า “นายท่าน ท่านคงไม่ได้จะฆ่าปลาและทำปลาจริงๆหรอกนะขอรับ?”
“เจ้ามีปัญหาหรือไง?”
“ข้าน้อยมิบังอาจขอรับ งานแบบนี้ ให้ข้าน้อยทำก็ได้นี่ขอรับ”
ชิงเฟิงเลิกแขนเสื้อขึ้น อยากลงไปจับปลาฆ่าปลา กลับเห็นเย่จิ่งหานมองค้อนมา
“นางเป็นพระชายาของเจ้า หรือเป็นพระชายาของข้า”
ชิงเฟิงเกือบล้มหน้าทิ่ม เขาพูดอย่างหวาดระแวงว่า “ข้าน้อยมิบังอาจ ข้าน้อยสมควรตาย”
“ไปเรียกพ่อครัวมา คืนนี้ข้าจะต้มข้าวต้มปลาเอง”
“ขอรับ……”
เขาอยากบอกว่า ปลามีกลิ่นคาวมาก โดยเฉพาะตอนฆ่าปลา ยิ่งมีกลิ่นคาวหนักเข้าไปอีก
แต่ทว่าเจ้านายรับสั่งมา เขาไม่กล้าไม่ทำตาม
ณ ห้องหนังสือ
กู้ชูหน่วนเหนื่อยจนลุกไม่ไหว
ทั้งห้องหนังสือในและนอก บนและล่างนางก็ค้นจนหมดแล้ว แต่ก็ไม่เจออะไรเลย
หรือว่าม้วนหนังแกะโบราณจะอยู่ในห้องนอนของเย่จิ่งหาน?
เขาเอาไปทำเป็นหมอนจริงเหรอ?
“มีคนอยู่ด้านนอกไหม”
“พระชายา”
“เก็บกวาดที่นี่หน่อย ฟื้นฟูเป็นเหมือนเดิม”
“เจ้าค่ะ……”
“เจ้า นำทางข้าไปห้องนอนของท่านอ๋องหน่อย”
กู้ชูหน่วนขี้เกียจเก็บกวาดหนังสือที่ตกเต็มพื้น
นางไม่เชื่อว่าเย่จิ่งหานจะไม่รู้เรื่องที่นางค้นห้องหนังสือจนวุ่นวายไปหมด
ใช้โอกาสตอนที่เขาทำข้าวต้มปลา นางต้องรีบไปตามหาม้วนหนังแกะโบราณที่ห้องนอนของเขา เดี๋ยวเย่จิ่งหานจะรู้ทันแล้วซ่อนม้วนหนังแกะโบราณซะก่อน
มีข้ารับใช้นำทางไป นางเพิ่งถึงห้องนอนของเย่จิ่งหาน เย่จิ่งหานก็ยกข้าวต้มปลาเข้ามาพอดี
กู้ชูหน่วนอธิบาย “อยากหาหนังสือในห้องหนังสืออ่าน แต่ก็ไม่มีเล่มไหนถูกใจเลย ข้าเหนื่อยแล้ว ก็เลยมาห้องนอนเจ้า ขอโทษด้วยนะ ทำห้องหนังสือเจ้าเละไปหมดเลย”
“ไม่เป็นไร ให้ข้ารับใช้เก็บก็ได้แล้ว รอนานเลยสิท่า ข้าวต้มปลาเสร็จแล้ว”
เย่จิ่งหานวางข้าวต้มปลาไว้บนโต๊ะ ตักไว้ในถ้วยเล็กให้นางกิน ช่วยนางเป่าให้เย็น ราวกับว่าเขาไม่เห็นความผิดปกติของกู้ชูหน่วน
ข้าวต้มปลาหอมและดูน่ากินมาก กู้ชูหน่วนที่ยุ่งมาทั้งคืนก็หิวขึ้นมาจริงๆ
นางถูมือแล้วพูดว่า “หอมจัง ทำเอาข้าหิวเลย”
“เดี๋ยวก่อน มีก้างปลา”
เย่จิ่งหานนั่งลงตรงหน้าของนาง เอาก้างปลาออกทีละชิ้นอย่างเอาใจใส่
ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ใบหน้าที่โค้งมนของเขาก็ดูนุ่มนวลภายใต้แสงเทียน และแม้แต่ดวงตาที่ไร้ก้นบึ้งเยือกเย็นของเขาก็ยังเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
กู้ชูหน่วนมองจนตาค้าง
“เอาล่ะ ไม่มีก้างปลาแล้ว แต่ตอนกินระวังด้วยนะ อย่าเผลอกินก้างปลาเข้าไปล่ะ”
“ขอบใจนะ”
ข้าวต้มปลาเข้าปาก ทั้งหอมทั้งกลมกล่อม ละลายทันทีที่เข้าปาก ดูออกเลยว่าคนที่ทำข้าวต้มละเอียดอ่อนแค่ไหน
“เจ้าทำข้าวต้มปลาเองเลยเหรอ?”
นางได้กลิ่นคาวปลาจากตัวเย่จิ่งหาน