อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 399 พบคำสาปเลือด
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่399 พบคำสาปเลือด
เย่จิ่งหานไม่อาจทำใจสงบได้อีก เขาพูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจว่า “จะกำเริบในทุกวันที่สิบห้าของเดือนหรือเปล่า?”
กู้ชูหน่วนใจสั่น
เผ่าหยกเก็บตัวจากโลกมานับพันปีแล้ว คนทั่วไปไม่มีทางรู้ว่าเผ่าหยกเป็นใคร และไม่มีทางรู้เรื่องของคำสาปเลือดด้วย
เยจิ่งหานรู้เรื่องคำสาปเลือดได้ยังไง?
เขารู้คำสาปเลือด งั้นเขารู้วิธีการแก้ไหม
นึกถึงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนก็ตื่นเต้นขึ้นมา พูดด้วยน้ำเสียงร้อนรนใจ “ใช่ จะกำเริบทุกวันที่สิบห้าของเดือน กระดูกในร่างกายแตกหักออกเป็นชิ้นๆ ร่างกายจากหัวจรดเท้า จากในสู่นอกจะเน่าเฟะจนในที่สุดก็ต้องตาย เจ้ารู้วิธีการแก้คำสาปนี้ไหม?”
สีหน้าของเย่จิ่งหานซีดเซียว สองมือกำหมัดแน่นจนเสียงดังกร๊อบแกร๊บ
ก่อนหน้านี้ เขาคิดว่ากู้ชูหน่วนพูดโกหก เขาก็หวังว่ากู้ชูหน่วนจะพูดโกหก
แต่เห็นสายตาที่ร้อนรนของนาง ไม่เหมือนกำลังโกหกเลย
สายตาของคนหลอกคนอื่นไม่ได้หรอกนะ
นางร้อนใจจริง ร้อนใจอยากได้วิธีแก้คำสาปเลือดจากภายในจิตใจจริง
กู้ชูหน่วนจับมือเขาไว้ แล้วถามอย่างร้อนใจอีกครั้ง “ทำไมเจ้าไม่พูดล่ะ เจ้าจะต้องรู้วิธีการแก้คำสาปเลือดนี้ใช่หรือไม่?”
เย่จิ่งหานเจ็บปวดราวกับว่ามีก้างปลาติดคอ มองดูกู้ชูหน่วนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดหัวใจและความโกรธ
นานมาก เขาถึงปล่อยมือออกช้าๆ แล้วพูดว่า “ข้าจะไม่ให้เจ้าตายแน่นอน และจะช่วยเจ้าลบล้างคำสาปเลือดด้วย”
“พูดแบบนี้ แสดงว่าเจ้ามีวิธีลบล้างคำสาปเลือดใช่ไหม? เย่จิ่งหาน เจ้าบอกข้าได้ไหม เรื่องนี้สำคัญกับข้ามาก ขอแค่เจ้าบอกข้า ไม่ว่าเงื่อนไขอะไร ข้าก็จะตกลงทั้งหมดเลย”
“ไข่มุกมังกรเจ็ดลูก วิธีเดียวที่จะลบล้างคำสาปเลือดได้ คือการรวบรวมไข่มุกมังกรทั้งเจ็ดลูกมาให้ครบ”
กู้ชูหน่วนปล่อยมือออกทันที
ไข่มุกมังกรอีกแล้ว
ดูแล้วถ้าไม่รีบหาไข่มุกมังกรที่เหลืออีกสองลูกให้เจอ คำสาปเลือดของเผ่าหยกคงไม่มีวันได้รับการลบล้างแน่
“เจ้าวางใจได้ มีข้าอยู่ เจ้าไม่มีทางตายแน่นอน”
“งั้นเจ้ามีข่าวของไข่มุกมังกรไหม?”
“ไม่มี แต่เผ่าหยกน่าจะมีอยู่สองสามลูกนะ”
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างขมขื่น “ข้าหลอกเจ้าน่ะ ระหว่างที่กลับมา ข้าไม่เจอคนของเผ่าเทียนเฟิ่นหรอก และไม่ได้โดนคำสาปเลือดด้วย”
ความแค้นระหว่างเผ่าเทียนเฟิ่นกับเผ่าหยก นางไม่อยากลากเย่จิ่งหานเข้ามาเกี่ยวด้วย
สีหน้าของเย่จิ่งหานมืดมนลง
ความรู้สึกดีที่มีเมื่อกี้ก็มลายหายไปทันที
“ดึกมากแล้ว คืนนี้เจ้านอนที่นี่แหละ ข้าสัญญาว่าจะไม่แตกต้องเจ้า”
ดึกมากแล้วจริงๆ
หรืออาจจะบอกว่า ฟ้าใกล้จะสว่างแล้ว
วุ่นวายอยู่ตลอดทั้งคืน แถมยังเดินทางไกลมาหลายวันด้วย กู้ชูหน่วนเพลียมากจริงๆ
ที่สำคัญคือ คงเป็นเรื่องยากที่จะไล่เย่จิ่งหานออกไปอีก
นางหาวแล้วห่มผ้านอน “ข้านอนบนเตียง เจ้านอนบนเก้าอี้นอนนะ”
“อืม”
ตลอดทั้งคืนเงียบกริบ
กู้ชูหน่วนมีเรื่องให้คิดเต็มอก ในใจก็นึกถึงแต่ชาวเผ่าหยก ตลอดทั้งคืนไม่รู้ว่าพลิกตัวไปมากี่ครั้ง ถึงจะหลับลงไป
เย่จิ่งหานนอนบนเก้าอี้นอน ถึงแม้เขาจะไม่ได้พลิกตัวไปมา แต่กลับมีเรื่องให้คิดมากมายเช่นกัน
เสียงลมหายใจถี่ของกู้ชูหน่วนดังขึ้น เย่จิ่งหานลุกขึ้น ถือเทียนไปส่องหลังใบหูของนาง
หลังใบหูของนางไม่มีอะไร
เย่จิ่งหานขมวดคิ้วเล็กน้อย
ไม่มีร่องรอยของคำสาปเลือด?
ไม่รู้ว่านึกถึงอะไร เย่จิ่งหานหยิบไข่มุกน้ำตาเงือกออกมาแล้วจุดไฟเผา
คราวนี้แสงเลือดสีแดงเพลิงปรากฏขึ้นที่หลังใบหูของกู้ชูหน่วน ด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
เย่จิ่งหานสมองแทบระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ เขาเกือบเข่าทรุดลงกับพื้น
คำสาปเลือด……
เป็นคำสาปเลือดจริงด้วย……
นางโดนคำสาปเลือดที่เผ่าหยกไม่อาจลบล้างได้เป็นหลายพันปี
และเป็นคำสาปเลือดที่ชั่วร้ายและยากที่จะลบล้างได้ง่ายๆ……
เป็นเหมือนกับแม่ของเขา……