อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 418 ไขความลับ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 418 ไขความลับ
กู้ชูหน่วนอึ้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ยกให้ข้า?”
นางได้ยินไม่ผิดใช่ไหม
“ใช่ ยกให้เจ้า” มุมปากเย่จิ่งหานอมยิ้ม
ในใจกู้ชูหน่วนดีใจ รีบรับเอาม้วนหนังแกะโบราณมาเปิดอ่านดูทันที
ในม้วนหนังแกะโบราณ นอกจากสัญลักษณ์พิกัดที่อัดแน่นแล้ว ยังมีสัญลักษณ์ภาษาอังกฤษที่ไม่เกี่ยวข้องกันมากมาย เมื่อมองดูแล้ว ดูไม่ออกว่าในม้วนหนังแกะโบราณต้องการสื่ออะไรกันแน่
นางกำลังอยากที่จะศึกษา กลับมองเห็นสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองดูนาง ราวกับจะมองนางจนทะลุ
กู้ชูหน่วนยับยั้งความตื่นเต้นกับความแปลกใจไว้ในใจ ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พร้อมถามขึ้นอย่างตื่นตกใจว่า “ท่านอ๋อง นี่ล้วนเป็นสัญลักษณ์อะไร ทำไมข้าดูไม่รู้เรื่อง?”
“ข้าก็ดูไม่ออก”
เย่จิ่งหานมองเห็นอากัปกิริยาของนางทุกอย่าง พร้อมพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย
ม้วนหนังแกะโบราณเขาศึกษามาหลายวัน คิดทุกวิถีทาง แต่ก็ดูไม่ออก ข้างในมีความลับอะไร สัญลักษณ์พวกนั้น ก็ไม่มีใครรู้
และก็เพราะเช่นนี้ เขาจึงเอามาให้กู้ชูหน่วน อยากดูว่ากู้ชูหน่วนรู้สึกสัญลักษณ์พวกนี้ไหม
หรือจะเอาม้วนหนังแกะโบราณไปทำอะไร
แต่ท่าทีของนาง…….
แต่เย่จิ่งหานก็ดูไม่ออกว่า กู้ชูหน่วนดูรู้เรื่องหรือไม่
กู้ชูหน่วนหัวเราะ พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร ข้าศึกษาดูเอง รอข้าศึกษารู้เรื่องแล้ว ข้าค่อยบอกเจ้า ตำราเล่มนี้ข้าเก็บไว้ที่นี่นะ”
นางพูดพร้อมกับเก็บซ่อนไว้ใต้หมอน กันไม่ให้เย่จิ่งหานเปลี่ยนใจ แล้วเอาม้วนหนังแกะโบราณกลับคืนไป
“ได้”
ทั้งสองคนมองตากันแล้วก็หัวเราะ เสียงหัวเราะนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนกลับมาคืนดีกัน ความอึดอัดภายในจวนมลายหายไปในทันที
เย่จิ่งหานอยู่ในห้องเนิ่นนาน หาเรื่องพูดคุยกับกู้ชูหน่วนตลอด
กู้ชูหน่วนกลับอยากไล่เขาออกไปมาก
ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า เขากลายเปลี่ยนเป็นคนพูดมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เห็นว่าเขาไม่มีท่าทีจะหยุดพูด กู้ชูหน่วนจึงพูดขับไล่ขึ้นมาว่า “ท่านอ๋อง ข้าเหนื่อยแล้ว อยากนอนพักผ่อน”
“ได้ งั้นเจ้านอนเถอะ เดี๋ยวสักพักข้าค่อยมาหาเจ้า”
เย่จิ่งหานหายใจออกยาวๆ
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เขาหาเรื่องมากมายพูดคุยกับผู้หญิงนานขนาดนี้
เขาเป็นคนพูดไม่เก่ง ซูมู่เป็นคนสอนเขาว่า เป็นผู้ชายต้องกล้าหาญบ้าง ต้องเป็นฝ่ายหาเรื่องคุย เขาจึงสรรหาเรื่องมาพูดอย่างมากมาย
เมื่อพูดคุยกันแล้ว ล้วนเป็นเขาเป็นฝ่ายพูดคนเดียว กู้ชูหน่วนพยักหัวเป็นบางครั้ง ทำให้เขาเก้อเขินอย่างมาก
ทรมานยิ่งกว่าทำศึกหนักเป็นสิบครั้ง
โชคดีที่นางเป็นคนพูดขึ้นมาว่าอยากพักผ่อน
หลังจากเย่จิ่งหานไปแล้ว กู้ชูหน่วนก็พ่นลมหายใจขุ่นเคืองออกมา
อึดอัดจะแย่แล้ว
ต่อไปถ้ามีใครมาบอกนางว่า เย่จิ่งหานเป็นท่านอ๋องที่เย็นชา พูดน้อย นางรับรองว่าจะแย้งกับคนนั้น
นิ้วมือเรียวยาวเอื้อมเข้าไปใต้หมอน กู้ชูหน่วนล้วงเอาม้วนหนังแกะโบราณออกมา หยิบไฟมาใกล้แล้วก็เริ่มศึกษาดู
ยันต์อักขระพวกนั้น นางดูออก ล้วนเป็นสัญลักษณ์พิกัดทั้งหมด
ส่วนอักษรภาษาอังกฤษ วิวัฒนาการมาจากตารางเก้าช่อง
ทุกตัวอักษรภาษาอังกฤษ ล้วนเป็นอิสระ ถูกวงไว้ในค่ายกลตารางเก้าช่อง
นางจะไขค่ายกล ก็ต้องอิงตามพิกัดกับค่ายกลตารางเก้าช่อง
ถึงจะสามารถรู้ความหมายภาษาอังกฤษที่ต้องการสื่อ
ในใจในสายตากู้ชูหน่วนมีเพียงม้วนหนังแกะโบราณ ตั้งใจศึกษาค่ายกลข้างใน
เมื่อศึกษาดู ก็ผ่านไปทั้งคืนทั้งวัน
หลังจากหนึ่งคืนหนึ่งวัน กู้ชูหน่วนแทบอยากฉีกม้วนหนังแกะโบราณ
นางถือว่าตนเป็นคนไขค่ายกลที่เก่งที่สุด กลับไขค่ายกลนี้ไม่ได้ ไม่รู้ว่าคนที่วางค่ายกลนี้เป็นใคร มีทักษะในการวางค่ายกลสูงแค่ไหน
กว่านางจะสามารถรู้เรื่องไม่กี่คำ กลับเป็นคำว่าหยางหยุนโม่
หยางหยุนโม่……
ทำไมถึงเหมือนชื่อคน?