อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 419 ยอดเขากุยหยุน
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 419 ยอดเขากุยหยุน
กู้ชูหน่วนจ้องมองม้วนหนังแกะโบราณไปด้วย วิเคราะห์ตารางเก้าช่องไปด้วย
ศึกษาติดต่อกันอีกสองวัน สุดท้ายก็สามารถเข้าใจความหมายที่บันทึกไว้ในม้วนหนังแกะโบราณ
ในม้วนหนังแกะโบราณบันทึกเบาะแสมุกมังกรไว้จริงๆด้วย แต่เมื่อคิดถึงมุกมังกร ต้องไปที่หุบเขาตันหุย ยอดเขากุยหยุน ตลอดจนหน่วยหลักเผ่าปีศาจก่อน
กู้ชูหน่วนยังอยากวิเคราะห์ต่อ แต่ในม้วนหนังแกะโบราณ มีการบันทึกที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เพียงสามแห่งเท่านั้น และชื่อคนคนหนึ่ง
ที่บันทึกชื่อคนคนนี้ไว้ เพราะเขาเป็นคนเขียนม้วนหนังแกะโบราณนี้ไว้
กู้ชูหน่วนมึนงง
นี่ถือเป็นเบาะแสอะไร?
อย่างอื่นไม่ว่า หน่วยหลักเผ่าปีศาจกว้างใหญ่ขนาดนั้น นางจะเข้าไปทำอะไรในหน่วยหลักเผ่าปีศาจ?
เบาะแสเกี่ยวกับมุกมังกรคืออะไร?
กู้ชูหน่วนคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ
แต่เพื่อเผ่าหยก นางจึงจำต้องไปดูที่เผ่าปีศาจอีกสักครั้ง
“ก๊อกๆ….”
เสียงเคาะประตูด้านนอกดังขึ้น
“เข้ามา”
กู้ชูหน่วนรีบลบภาพตารางเก้าช่อง เงยหน้ามองดูเย่จิ่งหานที่ผลักประตูเข้ามา ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เจ้ามาได้อย่างไร?”
“เจ้าอยู่แต่ในห้องมาหลายวันแล้ว ได้ยินคนใช้พูดว่า เจ้าไม่ได้ออกไปไหนเลย ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
“เปล่า ข้าสบายดี”
กู้ชูหน่วนยืดแขนบิดขี้เกียจ อยู่ในห้องตั้งหลายวัน อยู่จนเบื่อแล้วจริงๆ
“ข้าเรียกหมอหลวงมาตรวจให้เจ้า”
กู้ชูหน่วนตกใจ พร้อมรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องไม่ต้องแล้ว ข้าสบายดี เจ้าอย่าให้พวกคนแก่พวกนั้นมาวุ่นวายกับใครอีก”
“ไม่ใช่เพียงร่างกายของเจ้าไม่สบาย ลูกในท้องของเจ้า ก็ต้องรับการตรวจตามกำหนด”
“ข้าเองก็เป็นหมอ ข้าตรวจดูแล้ว ไม่มีอะไรผิดปกติ”
น่าขำ ก็เพราะในท้องของนางไม่มีลูก จึงไม่กล้าให้หมอหลวงพวกนั้นมาตรวจ
ต่อให้นางมีฝีมือทางการแพทย์สูงแค่ไหน ก็ต้องมีวันที่จะถูกจับได้ หมอพวกนั้นไม่ใช่คนโง่
ครั้งแรกครั้งที่สองครั้งที่สามถูกนางโกหก เมื่อจำนวนครั้งเพิ่มมากขึ้น ก็จะเกิดความสงสัย
เย่จิ่งหานขมวดคิ้ว
ทำไมนางถึงดูเหมือนร้อนใจ?
กู้ชูหน่วนกลัวเขาจะสงสัย จึงดึงแขนของเขามา พร้อมพูดขึ้นอย่างอ้อนวอนว่า “โถ่ ท่านอ๋อง เจ้าดูร่างกายของข้าสิ อาหารเสริมที่เจ้าให้ข้ามา ข้าก็กินตรงตามเวลา ไม่จำเป็นต้องเพิ่มเสริมอะไรอีกแล้ว เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลแล้วดีไหม?”
“ท่านอ๋อง เจ้าบอกว่าจะพาข้าไปที่จัดประมูลเฟิงเซียงไม่ใช่หรือ? เราไปกันตอนนี้ดีไหม?”
“ก็ได้”
นางอยู่แต่ในห้องมาหลายวันมากแล้ว
หากยังไม่ออกไปไหนอีก เขาคงสงสัยว่านางคงจะเบื่อจนป่วยแล้ว
“ขอบคุณท่านอ๋อง งั้นเราไปกันตอนนี้เลย ใช่ ท่านอ๋อ ข้าถามอะไรเจ้าอย่างหนึ่งได้ไหม?”
“เรื่องอะไร”
“ยอดเขากุยหยุนอยู่ที่ไหน?”
…….
สีหน้าเย่จิ่งหานมืดลงทันที เขาพูดขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “เจ้าถามเรื่องนี้ทำไม?”
“ไม่มีอะไร แค่ถามไปอย่างนั้นเอง ทำไม ข้าพูดผิดตรงไหนหรือ?”
“ยอดเขากุยหยุนไม่ใช่สิ่งที่เจ้าควรถาม และก็ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าควรไป ต่อไปห้ามพูดถึงอีก”
กู้ชูหน่วนลูบคางตัวเอง
เปลี่ยนหน้าไวยิ่งกว่าพลิกหนังสือ?
ยอดเขากุยหยุนเป็นสถานที่อะไรกันแน่?
ทำไมเย่จิ่งหานถึงต้องห้ามขนาดนี้?
สถานที่สามารถทำให้เย่จิ่งหานต้องห้าม จะต้องไม่ธรรมดาแน่
“งั้นหุบเขาตันหุยล่ะ? หุบเขาตันหุยอยู่ที่ไหน?”
“เจ้าถามเรื่องนี้ทำไม?”
“ได้ยินมาว่าที่นั่นหลอมยาเก่งมาก ข้าอยากไปดู ไปเรียนรู้กับพวกเขา หากมียาที่ดี ข้าจะได้ซื้อมาบ้าง”
“หุบเขาตันหุยไม่เคยให้บุคคลภายนอกเข้าไป เจ้าเข้าไปไม่ได้ พวกเขาก็ไม่มีทางสอนวิชาหลอมยาให้กับเจ้า นอกเสียจาก เจ้าเป็นคนเผ่าเดียวกับพวกเขา”
“ดังนั้น ความหมายของเจ้าก็คือ ต่อให้ข้ารู้ว่าหุบเขาตันหุยอยู่ที่ไหน ข้าก็เข้าไปไม่ได้หรือ?”
“ใช่”
กู้ชูหน่วนเข้าใจแล้ว
ในเมื่อเข้าไปไม่ได้ งั้นนางก็ไปหาน่าหลันหลิงลั่ว