อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 428 สูญเสียอย่างรุนแรง
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 428 สูญเสียอย่างรุนแรง
“เทพสงครามคนนั้นก็ไม่ใช่คนดีอะไร ตัวเขาเองโมโห อยากต่อสู้เผ่าเทียนเฟิ่น กลับเอาตำแหน่งที่ตั้งหน่วยหลักอสุราไปบอกเผ่าเทียนเฟิ่น จนทำให้ยอดฝีมือเผ่าเทียนเฟิ่นนับไม่ถอยออกมาสู้กับสำนักอสุราของเรา โชคดีที่สำนักอสุราเพิ่งย้ายตำแหน่งหน่วยหลัก คนที่เหลืออยู่มีไม่มาก ไม่อย่างนั้นพวกเราก็จะต้องสูญเสียอย่างสาหัส”
เสี่ยวลู่กลอกตามองบนให้กับจินเฉียง พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้าคนทึ่ม คิดได้แต่อะไรกัน หากข้าเดาไม่ผิด เทพสงครามคงจะรู้แล้วว่าพวกเราย้ายตำแหน่งหน่วยหลัก ดังนั้นจึงตั้งใจหลอกล่อคนเผ่าเทียนเฟิ่นมายังสำนักอสุรา แล้วตัวเขาเองก็ดักซุ่มเตรียมพร้อมทุกอย่าง โจมตีทั้งข้างหน้าและข้างหลังร่วมกับพวกเรา กำจัดคนเผ่าเทียนเฟิ่นให้สิ้นซาก”
“นั่นเขาก็บอกตำแหน่งหน่วยหลักสำนักอสุราไปเรื่อยนี่ ครั้งนี้เผ่าเทียนเฟิ่นสูญเสียสาหัส แทบตายแล้วทั้งหมด งั้นถ้าหาก เขาไม่ได้ร่วมต่อสู้กับเรา พวกเราจะไม่สูญเสียสาหัสหรือ?”
“เราควรที่จะคิดทบทวน ตำแหน่งหน่วยหลักสำนักอสุรา เย่จิ่งหานกลับสามารถสืบรู้ แม้แต่ข่าวที่ย้ายตำแหน่งหน่วยหลัก ก็ถูกคนสืบรู้แล้ว”
เสี่ยวลู่พูดออกมาเช่นนี้ ทุกคนต่างเงียบ
แม้แต่จินเฉียงก็เงียบ
พวกเขาประมาทไปแล้วจริงๆ ทุกคนอื่นสืบรู้ตำแหน่งหน่วยหลักแล้ว ก็ยังไม่รู้ตัว หากคนอื่นตั้งใจที่จะทำลายพวกเขา พวกเขาคงถูกทำลายแต่แรกแล้ว
ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ พวกเขาทำอะไรระมัดระวังมาตลอด ถึงตอนนี้ก็ไม่รู้ว่า เย่จิ่งหานรู้ความเคลื่อนไหวของพวกเขาได้อย่างไร
หรือเพราะว่า…..
สำนักรู้ฟ้า คือหนึ่งในอำนาจของเย่จิ่งหาน?
“นายหญิง ข้าน้อยผิดไปแล้ว ต่อไปข้าน้อยจะต้องระวัง จะไม่ให้ใครรู้ตำแหน่งหน่วยหลักสำนักอสุราเด็ดขาด”
“ไม่ ควรให้พวกเขารู้”
“อ๋า….”
ทุกคนต่างอึ้ง ไม่เข้าใจว่านายหญิงหมายความว่าอย่างไร?
ริมฝีปากแดงระเรื่อของกู้ชูหน่วน อมยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ผ่านการต่อสู้ครั้งที่ผ่านมา คนของเผ่าเทียนเฟิ่น ก็คงรู้แล้วว่าสำนักอสุราเปลี่ยนตำแหน่งหน่วยหลักแล้ว เพียงแต่เทพสงครามอาศัยสำนักอสุรากำจัดพวกเขาเท่านั้นเอง งั้นถ้าหากข่าวทุกแพร่งพรายไปอีกครั้ง พวกเจ้าคิดว่า เผ่าเทียนเฟิ่นจะเชื่อ หรือไม่เชื่อ?”
“แบบนี้ก็ค่อนข้างยาก ครั้งแรกถูกหลอกแล้ว ครั้งที่สองจะต้องอยากเอาคืนแน่ แต่หากถูกหลอกอีกครั้งล่ะ? แต่ความเป็นไปได้ยิ่งกว่านั้น แผ่นที่เย่จิ่งหานเคยใช้แล้ว จะต้องไม่ใช้ซ้ำอีกครั้งแน่ ดังนั้นเผ่าเทียนเฟิ่น มีความเป็นไปได้ที่ยังคงจะลองอีกสักครั้ง”
“ไม่ใช่ความเป็นไปได้มาก แต่จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน” จู่ๆเสี่ยวลู่ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หันไปมองกู้ชูหน่วนอย่างตื่นตระหนก พร้อมพูดต่อว่า
“ครั้งนี้คนเผ่าเทียนเฟิ่นตายมากมายขนาดนั้น บวกกับมีความแค้นต่อสำนักอสุราอย่างหนักหนา ขอเพียงมีโอกาสเพียงนิด พวกเขาล้วนจะต้องลองสักครั้ง”
จางหยุนเจียวพยักหัวพร้อมพูดขึ้นว่า “ข้าก็รู้สึกว่าคนเผ่าเทียนเฟิ่นจะต้องลองแน่ ยังไงพวกเขาก็คิดอยากกวาดล้างสำนักอสุราเรามาตลอด เพียงเพราะหาตำแหน่งหน่วยหลักสำนักอสุราไม่เจอเท่านั้นเอง ครั้งนี้ถึงแม้จะเสียท่าเย่จิ่งหาน แต่ก่อนหน้านี้เผ่าเทียนเฟิ่นก็เสียท่าพวกเราไม่น้อย เรื่องต่างๆเกิดขึ้นพร้อมกัน พวกเขาอาจจะเอาความแค้นที่มีต่อเย่จิ่งหาน รวมกับสำนักอสุรา”
กู้ชูหน่วนมองดูพวกเขาอย่างพอใจ
พูดคุยกับคนฉลาดก็จะง่าย
“รู้ว่าควรจะทำอย่างไรแล้วใช่ไหม”
“นายหญิงวางใจ พวกเราจะปล่อยข่าวออกไป และจะปล่อยออกไปอย่างที่พวกเขาไม่ทันตั้งตัว จะทำให้พวกเขาจะต้องสูญเสียอย่างสาหัสอีกครั้ง”