อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 468 พิษเย็นกำเริบ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 468 พิษเย็นกำเริบ
คนที่คุ้นเคยกับจอมมารล้วนรู้ เขาเดือดดาลแล้ว
พวกเขาไม่ได้เห็นจอมมารเดือดดาลมากี่ปีแล้ว
และทันทีที่จอมมารบันดาลโทสะ เมื่อเคลื่อนไหวก็เลือดนองเป็นแม่น้ำ
คนของเรือนพักร้อนชิวเฟิงยังคงล้อมจอมมารและคนอื่นๆไว้ แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด ก็ไม่ถอยแม้สักนิด
ผู้เฒ่าฮัวกล่าวด้วยความโกรธ “วางหลานสาวของข้าลง ไม่เช่นนั้น แม้ว่าข้าจะสู้ตายด้วยชีวิตอันแก่ชรานี่ ข้าก็จะไม่ให้เจ้าจากไป”
“เหอะ……ไม่รู้จักประมาณตัว”
จอมมารงอนิ้วมือขึ้น คิดจะลงมือจบชีวิตเขา
กู้ชูหน่วนจับมือเขาไว้อย่างฉับพลัน กล่าวอย่างไร้เรี่ยวแรง “ไม่…..ห้ามทำ……..ร้ายเขา”
เพราะหนึ่งคำของนาง แรงสังหารของจอมมารที่มีต่อผู้เฒ่าฮัวลดลงไปไม่น้อย
“ข้าจะพูดเป็นคำสุดท้าย พวกเจ้าจะหลีกทางหรือไม่”
เขากวาดตามองทุกคน สุดท้ายสายตาหยุดอยู่บนตัวของเย่จิ่งหาน เตรียมพร้อมทำการสังหารครั้งใหญ่ได้ทุกเมื่อ
เย่จิ่งหานฝืนลุกขึ้นยืนด้วยความรู้สึกไม่สบาย เผชิญหน้ากับจอมมาร
พวกเขาทั้งคู่รู้ว่า กู้ชูหน่วนได้รับบาดเจ็บสาหัส หากถ่วงเวลาต่อไป ที่ต้องทิ้งไปก็จะเป็นชีวิตของนางเท่านั้น
เย่จิ่งหานกล่าวเพียงประโยคเดียวว่า “กู้ชูหน่วนจำเป็นต้องอยู่”
“เหอะ……ด้วยหมอที่ไม่มีฝีมือในการรักษาเหล่านั้นของเจ้า จะรักษานางให้หายหรือ? หรือว่าพึ่งพาเจ้า? เย่จิ่งหาน ตอนนี้ตัวเจ้าเองก็ยากที่จะปกป้องตัวเองได้แล้วสินะ”
เย่จิ่งหานดีดนิ้วเสียงดังทีหนึ่ง ทันใดนั้นกลุ่มทหารเกราะดำก็ได้ล้อมรอบเรือนพักร้อนชิวเฟิงไว้อย่างหนาแน่นจนแม้แต่น้ำก็เล็ดลอดไปไม่ได้
ผู้นำเป็นแม่ทัพที่มีดวงตาเป็นประกายสิบสองคน สวมชุดเกราะ ทั่วทั้งร่างเปล่งแรงสังหารออกมาอย่างหนาแน่น
จอมมารหรี่ตาลงเล็กน้อย “กองทัพหลงอู่”
ความหวาดกลัวปรากฏขึ้นในดวงตาของบรรดาผู้คนเผ่าปีศาจเล็กน้อยอย่างควบคุมไม่ได้
ร่ำลือว่ากองทัพหลงอู่นั้นไร้เทียมทาน ทำสิ่งใดก็สำเร็จทุกอย่าง สู้รบไม่เคยแพ้ สังหารผู้คนไปมากมายนับคณา
พวกเขาเป็นกองทัพชั้นยอดหน่วยหนึ่งในมือของเย่จิ่งหาน ที่เย่จิ่งหานรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งได้ เพราะผลงานความดีความชอบของกองทัพหน่วยนี้
กองทัพหลงอู่เป็นกองทัพหนึ่งที่ทุกคนในโลกหวาดกลัว ใช้คำว่าเพียงแค่ได้ยินก็น่าสะพรึงกลัวมากล่าว ก็ไม่เกินจริงสักนิด
เพราะนอกจากพวกเขาจะทำการรบเป็นกลุ่มอย่างกล้าหาญดุดันแล้ว หลังจากที่แยกทั้งหน่วยออกจากกันแล้วแต่ละคนล้วนเป็นยอดฝีมือในยอดฝีมือ
กองทัพหลงอู่จะไม่ปรากฏตัว แต่ทันทีที่ปรากฏตัว จำต้องเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดฉากหนึ่งแน่
และตอนนี้ เพื่อผู้หญิงคนเดียวคิดไม่ถึงว่าเย่จิ่งหานจะขับเคลื่อนกองทัพหลงอู่ขึ้นมาแล้ว
ถึงแม้ว่าวิทยายุทธของจอมมารจะแข็งแกร่ง และเขาก็สามารถใช้หนึ่งคนสู้กับสิบคนได้ ใช้หนึ่งคนสู้กับร้อยคนได้ กระทั่งยังใช้หนึ่งคนสู้กับพันคนได้ แต่เขากลับไม่สามารถจะใช้หนึ่งคนสู้กับคนนับหมื่นได้
ไม่ว่ายอดฝีมือคนใดก็ไม่มีทางใช้หนึ่งคนสู้กับกองทัพหลงอู่ทั้งกองทัพได้สำเร็จ
เย่จิ่งหานกล่าว “หากว่าข้าเย่จิ่งหานไม่ยินยอม บนโลกใบนี้ก็ไม่มีผู้ใดสามารถพานางจากไปได้”
“บังเอิญแล้ว คนที่ข้าซือโม่เฟยอยากพาไป บนโลกนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดที่จะสามารถขัดขวางได้”
“เจ้าลองดูได้เต็มที่”
“กำลังคิดเช่นนี้พอดี ข้าก็อยากจะพบกับกองทัพหลงอู่ในคำร่ำลือที่ว่ารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งโดยไม่เคยพ่ายแพ้มานานแล้ว”
แรงสังหารอบอวลไปทั้งเรือนพักร้อนชิวเฟิง พวกที่ขี้ขลาดหน่อย ขาทั้งสองข้างก็สั่นเทาอย่างอดไม่ได้โดยตรง
นกและสัตว์ในเรือนพักร้อนชิวเฟิงที่สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของจิตคิดสังหาร แต่ละตัวก็แย่งกันบินและหนีไปก่อนด้วยความกลัว แม้แต่หนูที่พักพิงอยู่ในรูก็ร้อนใจอยู่ไม่สุข แต่ละตัววิ่งออกจากรูหนู วิ่งพัลวันไปทุกที่
กู้ชูหน่วนทรมานเหมือนดั่งถูกไฟเผา
นางรู้สึกว่าศีรษะหนักอึ้งเท้าเบา ราวกับว่าร่างกายไม่ได้เป็นของตัวเองแล้ว
เจ็บปวด
เจ็บปวดจนนางแทบจะขยับไม่ได้ กระทั่งอยากจะหมดสติไปซะ
แต่นางไม่กล้าหมดสติ
ซือโม่เฟยและเย่จิ่งหานทั้งสองคนมีอำนาจอิทธิพลอันทรงพลัง ทันทีที่ไฟโทสะของพวกเขาทั้งสองปะทุ เลือดจะต้องไหลนองเป็นแม่น้ำแน่ สรรพชีวิตจะต้องเข้าสู่หายนะ
เกิดการสังหารมากมายขนาดนี้ขึ้นเพราะนาง ไม่คุ้ม
กู้ชูหน่วนกัดริมฝีปากจนแตก ฝืนบังคับให้ตัวเองได้สติขึ้นมา นางดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของซือโม่เฟย
แทบจะกล่าวอย่างอ้อนวอนว่า “เพราะข้า มีผู้คนตายไปมากมายในค่ายกล หากยังมีคนเสียสละหลั่งเลือดเพราะข้าอีก ชีวิตที่เหลือหลังจากนี้ของข้าก็จะต้องแบกชีวิตที่มีบาปกรรมไปตลอด”
จอมมารหัวเราะเยาะอย่างไม่แยแส “ก็แค่มดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ตายก็คือตาย”
“สรรพสัตว์ทั้งหลาย ผู้ใดที่ไม่ใช่มด แฮะแฮะ……”
กู้ชูหน่วนกระอักเลือดออกมากองหนึ่ง ซึ่งทำให้จอมมารและเย่จิ่งหานตกใจอีกครั้ง
หมอหลวงจับชีพจร กล่าวอย่างสั่นเทาว่า “พระชายาบาดเจ็บสาหัสมาก ข้าน้อย……วิชาการรักษาของข้าน้อยมีขีดจำกัด เกรงว่า…..เกรงว่าจะช่วยพระชายาไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ ฟู่ว…..”
จอมมารกระดิกนิ้วทีหนึ่งสังหารหมอหลวงนั่นไปโดยตรงแล้ว
กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “หมอไร้ฝีมือ พูดให้คนอื่นตกใจ พี่สาว ท่านอย่าฟังเขาเพ้อเจ้อ”
จอมมารหันไปมองกู้ชูหน่วน กลับเห็นกู้ชูหน่วนเป็นลมล้มไปที่พื้นแล้ว และถูกเย่จิ่งหานอุ้มไว้แล้ว
เขาโกรธจัด แย่งคนตรงนั้นทันที “เย่จิ่งหาน วางมือปลาหมึกของเจ้าซะ”
เย่จิ่งหานอุ้มร่างกายของนางที่ค่อยๆเย็นยะเยือกขึ้น แฉลบไปอีกด้านด้วยความคล่องแคล่ว ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขารีบขึ้นหน้าไป ขวางกั้นจอมมารไว้ทันที
จอมมารหัวเราะอย่างเย็นชาติดต่อกัน ปล่อยกระบอกพลุอันหนึ่งออกมา เรียกลูกหลานเผ่าปีศาจที่อยู่ใกล้เคียงทั้งหมด “ดี เจ้าทำได้ดีมาก พวกเราทั้งสองได้ผูกอาฆาตไว้แล้ว ให้คนมา ฆ่าคนที่อยู่ในนี้ให้หมด อย่าให้เหลือสักคน”
คนของเผ่าปีศาจต่างพากันชักมีดออกมา เตรียมสู้กันด้วยเลือดฉากหนึ่ง
เสียงอันเย็นยะเยือกของเย่จิ่งหานดังขึ้นช้าๆ “เจ้าพานางไปเถอะ”
“อะ…….อะไร…….” จอมมารคิดว่าเขาได้ยินผิดไป
เย่จิ่งหานลูบแก้มอันซีดเซียวของนาง มีความขมขื่นเล็กน้อยที่มุมปาก
คนในอ้อมแขนดวงตาทั้งคู่ปิดสนิท ลมหายใจอ่อนแอ ไม่มีชีวิตชีวาจิตวิญญาณเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
นางมีบาดแผลนับไม่ถ้วน ทั้งร่างแทบจะหาส่วนที่สมบูรณ์ไม่ได้สักจุด เห็นแล้วทำให้คนอดปวดใจไม่ได้
นางโกหกเขา ทำร้ายเขา หลอกใช้เขา
เขาแทบอยากจะบีบคอนางให้ตายทั้งเป็น
แต่เมื่อเห็นนางใกล้จะหมดลม ขณะที่ทั้งร่างเหมือนดั่งอาบเลือด เขาก็ใจอ่อนแล้ว
เขารู้ว่านางบาดเจ็บสาหัสมาก หากเขาไม่ได้บาดเจ็บ ก็ยังสามารถช่วยนางได้
แต่เขา……
บาดเจ็บสาหัสซ้ำแล้วซ้ำเล่า พิษเย็นก็กำเริบอีก ช่วยรักษานางไว้ไม่ได้โดยสิ้นเชิง
กับที่เป็นเช่นนี้ ให้ซือโม่เฟยพานางไปยังจะดีซะกว่า
“เย่จิ่งหาน เมื่อครู่เจ้าพูดจริงรือ? นี่นี่นี่ มือเจ้าลูบไปตรงไหนน่ะ ยังไม่รีบเอามือปลาหมึกของเจ้าออกไปอีก”
เย่จิ่งหานตัดใจวางลงไม่ได้ ในใจมีทั้งความขุ่นเคืองและความสงสาร
ในท้ายที่สุดก็ยังคืนกู้ชูหน่วนให้จอมมารไปแล้ว กล่าวเบาๆว่า “นางได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้ารีบพานางไปรักษาเถอะ”
“เพ้อเจ้อ หากเจ้าไม่ได้ขัดขวาง ข้าก็ช่วยรักษาให้นางนานแล้ว”
จอมมารอุ้มกู้ชูหน่วนขึ้นหันหลังและจากไป
เย่จิ่งหานโบกมือ ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดได้ถอยหลีกเป็นเส้นทางให้จอมมารและคนอื่นๆออกไป
ชิงเฟิงกล่าวอย่างร้อนใจว่า “นายท่าน นี่คืออาณาเขตของเรา หากเราไม่หลีกทางให้ แม้ว่าเขาจะเป็นจอมมารก็ทำอะไรพวกเราไม่ได้ ทำไมพวกเราต้องปล่อยพวกเขาไปด้วยล่ะพ่ะย่ะค่ะ?”
แม้ว่าผู้เฒ่าฮัวจะไม่เข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างจอมมารกับกู้ชูหน่วน แต่จากสายตาวิตกกังวลของจอมมารสามารถมองออกได้ว่า เขาจะไม่ทำอะไรกู้ชูหน่วน”
เพียงแต่……
“ท่านอ๋อง หลานสาวของข้าได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น เขาจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของหลานสาวข้าให้หายได้จริงๆหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
ชิงเฟิงกล่าว “ไม่เช่นนั้น ข้าน้อยพาคนไปแย่งพระชายากลับมา”
ที่ตอบพวกเขา คือเย่จิ่งหานกระอักเลือดออกมาอีกครั้ง
ร่างกายของเขาเย็นยะเยือก สั่นเทาไม่หยุด พิษเย็นที่อดกลั้นมาตลอดกำเริบออกมาโดยสมบูรณ์ เสื้อผ้าทั้งร่างก็จับตัวเป็นน้ำแข็งแล้ว
ทุกคนหวาดกลัวมาก
เจี่ยงเสวียกล่าวด้วยความร้อนใจ “เร็ว ประคองท่านอ๋องกลับไปที่ห้อง หมอหลวง รีบไปเรียกหมอหลวงทุกคนมา”
“ขอรับ……”
เรือนพักร้อนชิวเฟิงวุ่นวายพัลวัน
คืนนี้ลิขิตไว้ว่าจะเป็นคืนที่ไม่สงบสุข