อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 470 ถูกไล่ออกไป
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 470 ถูกไล่ออกไป
รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างกัดกึกกึกกึกอยู่บนร่างกาย กู้ชูหน่วนรีบก้มหน้ามองทันที
นางไม่ก้มหน้าก็ยังดี แต่พอก้มหัวลงก็ตกใจจนไม่ไหวใบหน้าแทบจะเขียวแล้ว
ดอกลำโพงที่ผลิบานทีละดอกเหมือนมีขางอกขึ้นมาเช่นนั้น ปีนขึ้นบนตัวของนางอย่างต่อเนื่อง จากนั้นดอกไม้ก็กลายเป็นฟัน กัดผ้าพันแผลบนตัวของนาง
“ซือโม่เฟย เจ้าทำอะไร?” กู้ชูหน่วนร้องด้วยความตกใจ
จอมมารสีหน้าไร้เดียงสา “ปมมัดตายมากเกินไป เวลาชั่วครู่ข้าแก้ไม่ออก ให้ดอกไม้ของข้าช่วย”
สมองของกู้ชูหน่วนเลอะเลือน นึกย้อนไปถึงดอกลำโพงที่งดงามเลิศล้ำจนถึงที่สุดเหล่านั้นอ้าปากกว้างที่เต็มไปด้วยเลือด แล้วกลืนกินคนเป็นๆทั้งคนทีละคำ
ทั้งยังมีมือโครงกระดูกที่มีดปืนฟันแทงไม่เข้าอีก อยู่ท่ามกลางดอกไม้อัน “บอบบาง”เหล่านี้ ก็ถูกดอกลำโพงกินไปราวกับเป็นเต้าหู้ที่อ่อนแอไร้ทางสู้เช่นนั้น
นางขนลุกไปหมด
มือโครงกระดูกพวกมันก็สามารถแทะเหมือนกินเต้าหู้ได้ ยิ่งไม่เอ่ยถึงนางที่เป็นคนเป็นๆแล้ว หากว่าเผลอกินนางเข้าไปแล้วจะทำอย่างไร
“เจ้ารีบทำให้พวกมันทั้งหมดปิดปากไปซะ”
“หืม……?” จอมมารงงงัน “พี่สาวรังเกียจที่พวกมันช้าเกินไปหรือ? เหมือนว่าจะช้าจริงๆ เช่นนั้นข้าทำเองละกัน”
เขาดีดนิ้วทีหนึ่ง ดอกลำโพงนับร้อยก็หายไปทันที และไม่รู้ว่าเอาไปไว้ที่ไหนกันแน่
สิ่งที่มาแทนที่คือไฟกลุ่มหนึ่งที่พุ่งเข้าไป
กู้ชูหน่วนตกใจมากจนหัวใจเต้นระรัว
“ซือโม่เฟย คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะใช้ไฟเผาข้า ซืด……ข้าเจ็บจะตายอยู่แล้ว”
บ้าเอ๊ย…….
เจ้าลูกหมาตัวนี้จงใจจะแกล้งนางหรือไม่นะ
เมื่อก้มหน้ามอง ผ้าพันแผลมากมายบนตัวของนางล้วนถูกไฟเผาหมดแล้ว แต่ผิวหนังของนางก็ถูกไฟลวกบาดเจ็บไปด้วยแล้ว
จอมมารขมวดคิ้ว
“ดูเหมือนว่าไฟจะแรงไปหน่อย”
“เพ้อเจ้อ เจ้าดูผิวหนังของข้าสิถูกเผาจนแดงหมดแล้ว”
“เช่นนั้นข้าจะลดอุณหภูมิให้ท่าน”
กู้ชูหน่วนกำลังคิดจะพูดว่าไม่ต้อง แต่ก็สายไปแล้ว
ก็ไม่รู้ว่าจอมมารทำอย่างไร อุณหภูมิในห้องลดลงไปอย่างกะทันหัน ทั้งร่างกายของนางก็เหมือนกับถูกแช่จนแข็งไปเช่นนั้น
เดิมทีก็มีบาดแผลเต็มตัว เผชิญกับน้ำแข็งและไฟสองสิ่งที่ต่างกันเป็นอย่างมากนี้ อาการบาดเจ็บก็สาหัสขึ้นเรื่อยๆ
กู้ชูหน่วนเจ็บปวดจนสูดหายใจด้วยความตกใจ
“เจ็บจนข้าจะตายแล้ว เย็นแข็งจนข้าจะตายอยู่แล้ว”
“ห้ะ…..อุณหภูมิก็ควบคุมได้ไม่ดีอีก ข้าเพิ่มความอุ่นให้ท่านอีกนิด”
“ซือโม่เฟย เจ้ายังกล้าแตะต้องข้าอีกนิด ข้าจะสาปแช่งเจ้าให้ตาย” กู้ชูหน่วนร้องคำรามออกมา ดวงตากลมๆเพ่งมองเขาด้วยความโกรธเคือง
จอมมารใบหน้าละห้อย
“ข้าฆ่าคนเป็นอย่างเดียว ไม่เคยช่วยคนมาก่อน ยิ่งไม่เคยรักษาคนมาก่อน ข้าพยายามควบคุมพลังสุดความสามารถแล้ว แต่มันก็ยังคลาดเคลื่อนไปนิดหน่อย”
นั่นคือนิดหน่อยหรือ?
ผิวของนางเน่าเปื่อยไปหมดแล้วหรือไม่เนี่ย
“นับจากนี้ไปเจ้าอย่าแตะต้องข้าอีก และอย่ารักษาข้ามั่วซั่ว ข้ากลัวสิ้นอายุขัย”
คำพูดของกู้ชูหน่วนสิ้นสุด ผ้าพันแผลทั่วร่างกายเสียงดังกึกกึก สุดท้ายเนื่องจากน้ำแข็งและไฟสองสิ่งที่แตกต่างกันเกินไป ฉึกเสียงหนึ่งแตกออกโดยตรง
ผิวหนังที่มีรอยแผลนับไม่ถ้วนของกู้ชูหน่วนทั้งหมดเรียงรายสะเปะสะปะอยู่เบื้องหน้าจอมมาร
ตื้ด……
กู้ชูหน่วนตะลึงงันแล้ว
จอมมารก็ตะลึงงันแล้ว มองดูร่างกายโค้งเว้ามีเสน่ห์น่าสนใจแต่กลับเต็มไปด้วยบาดแผลเหลือคณานับของนางตรงๆ
“อ้า……”
ไม่รู้ว่าใครร้องเสียงหนึ่ง จอมมารรีบดึงผ้าห่มมา คลุมไว้บนร่างของนาง
สีหน้าเขาแดงเล็กน้อย มีสีแดงระเรื่อแบบผิดปกติ “ในเมื่อข้าเห็นเรือนร่างของท่านแล้ว ข้าก็จะรับผิดชอบท่าน นับจากวันนี้ไป ท่านก็คือผู้หญิงของข้าซือโม่เฟยแล้ว”
กู้ชูหน่วนโมโหจนสีหน้าเปลี่ยนสีเดี๋ยวเขียวเดี๋ยวขาว
“ออกไป ออกไปเดี๋ยวนี้”
“เช่นนั้นบาดแผลบนตัวของท่านจะทำอย่างไร?”
“ไสหัวไป”
“นี่…..ก็ได้……”
ใบหน้าน้อยๆอันสง่างามของจอมมารตื่นตระหนก ถูกคนไล่ออกไปแล้ว
เหล่าฉีโส่วที่เป็นทหารหน้าประตูไม่กล้าจะเชื่อหูของตัวเอง
คิดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าเสียมารยาทต่อจอมมารของพวกเขาเช่นนี้ ทั้งยังกล้าไล่จอมมารออกมาอีก
ที่สำคัญที่สุดคือ คิดไม่ถึงว่าจอมมารจะไม่ฆ่านาง?