อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 503 สำนักอสุราไม่มา
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 503 สำนักอสุราไม่มา
คนรับใช้ของหุบเขาตันหุยเร่งรีบมารายงาน “ท่านเจ้าหุบ สำนักอสุราส่งคนมาแจ้งว่าพวกเขามีธุระกะทันหัน ไม่มาร่วมงานชื่นชมยาชั้นเลิศแล้วขอรับ”
เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันหดหู่เล็กน้อย
สามารถเชิญสำนักโด่งดังต่างๆ มามากขนาดนี้ เป็นเกียรติของพวกเขาหุบเขาตันหุย
หากสำนักอสุรามาด้วย เช่นนั้นจะเป็นการร่วมวงสุขสันต์โดยแท้
“แต่ไรมาสำนักอสุราก็ทำตามคำพูดเสมอ ครั้งนี้มาร่วมไม่ได้ ต้องเป็นธุระสำคัญอะไรแน่ เจ้าไปบอกผู้ส่งข่าวของสำนักอสุรา หากมีความจำเป็นอะไร ขอเพียงมีกำลังสามารถ หุบเขาตันหุยยินดีช่วยสุดกำลัง”
“ขอรับ”
ทุกคนต่างคาดเดาต่างๆ นานา
แต่ไหนมาสำนักอสุรากับเผ่าเทียนเฟิ่นก็เป็นน้ำไฟที่ไม่ถูกกัน หรือเพราะคนของเผ่าเทียนเฟิ่นมาก สำนักอสุราถึงหลบไม่ออกมาพบ?
คนของกลุ่มอิทธิพลขนาดกลางและขนาดเล็กพากันวิพากษ์วิจารณ์
“อิทธิพลของสำนักอสุรายิ่งใหญ่นัก พวกเขาไม่จำเป็นต้องกลัวเผ่าเทียนเฟิ่นกระมัง?”
“จะกล่าวเช่นนี้ก็ไม่ได้ เจ้าสำนักของเผ่าเทียนเฟิ่นหายสาบสูญไปนานแล้ว จนถึงวันนี้เป็นตายไม่แน่ชัด หากเผชิญหน้ากับเผ่าเทียนเฟิ่น พวกเขาย่อมมีความมั่นใจไม่พอ แถมครั้งนี้ที่มาก็เป็นรองหัวหน้าเผ่ากับหัวหน้าเผ่าน้อย เห็นว่าฝีมือของสองคนนี้เข้าถึงระดับหกขั้นสูงแล้ว”
“อะไรนะ? ฝีมือของรองหัวหน้าเผ่าซือคงถึงระดับหกแล้ว?”
“ก็ใช่นะสิ มิเช่นนั้นเจ้าคิดว่าเขาจะเป็นรองหัวหน้าเผ่าของเผ่าเทียนเฟิ่นได้อย่างไร?”
“เช่นนั้นหัวหน้าเผ่าของเผ่าเทียนเฟิ่นเล่า ฝีมือของเขาถึงระดับใดแล้ว?”
“ใครจะรู้ ไม่เห็นหัวหน้าเผ่าของเผ่าเทียนเฟิ่นลงมือหลายปีขนาดนี้ ได้ยินแค่ว่าเผ่าเทียนเฟิ่นล้ำลึกยิ่งนัก ที่นั่นมีสุดยอดผู้อาวุโสมากมาย วรยุทธ์คนหนึ่งล้ำกว่าอีกคนหนึ่ง”
“แต่ถึงเผ่าเทียนเฟิ่นจะร้ายอาจอย่างไร สำนักอสุราก็ไม่ใช่พวกกระจอก เจ้าก็ไม่คิดถึงลูกน้องเหล่านั้นของเจ้าสำนักอสุรา แต่ละคนก็ร้ายกาจนัก”
“พอทีๆ พวกเขาจะร้ายกาจหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเรา พวกเราตั้งใจชมงานประเดิมหลอมยา ว่าจะได้ยาสองสามเม็ด เพิ่มพลังได้หรือไม่จะดีกว่า”
“ก็จริง ที่เรามาที่นี่จุดประสงค์หลักก็เพื่อประมูลยาชั้นดีกลับไปมากหน่อยมิใช่หรือ ครั้งนี้ได้เห็นคนกุมอำนาจของสำนักโด่งดังมากมายขนาดนั้น ถึงประมูลไม่ได้ยาก็ไม่เสียทีแล้ว”
ทุกคนของเผ่าเทียนเฟิ่นต่างหัวเราะเย็นเนืองๆ ดูแคลนกับการที่สำนักอสุราไม่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก
มีเพียงสายตาเวินเส้าหยีล้ำลึก มือหมุนแหวนหยกอย่างไม่รู้สึกตัว คล้ายกำลังคิดอะไร
สำนักอสุรากับเผ่าเทียนเฟิ่นต่อสู้กันหลายปีขนาดนี้ เนื้อแท้ของพวกเขา เขารู้ดีที่สุด
แม้คนของสำนักอสุราเผชิญหน้ากับเผ่าเทียนเฟิ่นต้องตายสถานเดียว พวกเขาก็ยังดาหน้าเข้ามาไม่หยุดหย่อน ไม่ล่าถอยเป็นอันขาด
ครั้งนี้ที่สำนักอสุราไม่มาร่วมงานชื่นชมยาชั้นเลิศ เกรงว่าจะมีจุดประสงค์อื่น
เส้นสายตาตวัด เวินเส้าหยีกับรองหัวหน้าเผ่าซือคงกวาดมองตำแหน่งแรกทางขวา ตรงนั้นเขียนว่าเผ่าหยก
สายตาทั้งสองคนเย็นชาไปมากอย่างอดไม่ได้
คนของสำนักอสุราไม่มาแน่แล้ว
เผ่าหยกก็ไม่ปรากฏสักที พวกเจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันคงรู้ว่าคนของเผ่าหยกคงไม่มาแล้ว
ก็จริง เผ่าหยกหาใช่สำนักใดจะเทียบเคียงได้ พวกเขาหายสาบสูญหลายปี ไม่ได้รับการเชื้อเชิญให้มาก็ปกติ
เวลานี้เพียงรอให้จัดการตำแหน่งของจอมมารให้เรียบร้อย งานชื่นชมยาชั้นเลิศก็เริ่มได้แล้ว
จัดการอย่างไร เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันต้องปวดหัวอีกระยะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ท่านเจ้าหุบ ถึงเวลาแล้วขอรับ” คนรับใช้กล่าวอย่างระมัดระวัง
“จอมมาร ท่านว่าตำแหน่งแรกทางขวาเก็บไว้ให้ท่าน ได้ไหม?”
“ไม่ได้อยู่แล้ว ข้ายังพูดชัดเจนไม่พออีกหรือ? ข้ารังเกียจจะนั่งกับเย่จิ่งหาน”
เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันจึงได้แต่หน้าด้านเอ่ย “ท่านอ๋องหาน ท่านว่าหรือท่านจะ…”
“ไม่ได้”