อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 505 ขัดคอคำเดียวก็สู้กัน
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 505 ขัดคอคำเดียวก็สู้กัน
พวกเขาหูไม่ฝาดกระมัง?
นางจะกล้าเกินไปแล้ว ถึงกับกล้าเรียกจอมมารว่าลูกสุนัข ด่าทอได้ไม่น่าฟังยิ่งนัก
ทุกคนนึกว่าจอมมารต้องวาวโรจน์ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจอมมารจะเหมือนเด็กน่ารักเชื่อฟัง หัวเราะแหะๆ เอาใจ “มิเช่นนั้น ข้าออกเรือนกับท่านก็ได้ ท่านเลี้ยงข้า”
“ไสหัวไป ข้ายังเลี้ยงตัวเองไม่รอดเลย”
นี่ๆๆ…
นางถึงกับให้จอมมารไสหัว…
ผู้หญิงคนนี้ ไม่เอาชีวิตแล้วกระมัง
ที่ทำให้พวกเขาตกตะลึงพรึงเพริดยิ่งกว่าคือ จอมมารไม่ยี่หระสักนิด ทั้งยังกลับเข้าหาอีก “เช่นนั้นท่านขอข้าแต่งงาน ข้าเลี้ยงท่าน”
“…”
กู้ชูหน่วนอดไม่ได้อยากมะเหงกใส่เขา
เจ้าลูกสุนัขนี่ เขาตาบอดหรือ?
ไม่เห็นหรือว่าเย่จิ่งหานหน้าดำไปหมดแล้ว นางยังอยากอยู่ต่ออีกหลายๆ ปีนะ!
เย่จิ่งหานจับจ้องนางตลอด จ้องจนนางขนลุกในใจ เนื้อตัวไม่สบาย
กู้ชูหน่วนเอ่ยอย่างไม่มั่นใจ “เออ… งานประเดิมหลอมยาจะเริ่มเดี๋ยวนี้แล้ว ข้าลงชื่อร่วมงานงานประเดิมหลอมยา มีอะไรค่อยว่ากันหลังจบงานได้ไหม?”
คนจำนวนมากในงานต่างหัวเราะเยาะ
นางมาหลอมยา?
มาเป็นตัวตลกนะสิ
นางนึกว่ายาหลอมไปเรื่อยก็เป็นรูปร่างได้หรือ?
“ชายาของข้าไม่จำเป็นต้องหลอมยา หากเจ้าต้องการ ข้าซื้อให้เจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องตอบข้ามาให้ชัดเจน ซือโม่เฟยกับน่าหลันหลิงลั่วนี่เป็นมาอย่างไร?”
กู้ชูหน่วนดิ้นหลายครั้ง แต่ก็ดิ้นไม่หลุดจากการพันธนาการของเย่จิ่งหาน ในใจอดร้อนรนเป็นไม่ได้
“ข้าบอกแล้วว่ารอหลังจบงาน แล้วข้าจะค่อยๆ อธิบายกับเจ้า ตอนนี้เวลาจะไม่ทันแล้ว เจ้ารีบปล่อยมือก่อน”
“ปัง…”
ทันใดนั้นฮัวฉีหลัวก็ตบโต๊ะลุกขึ้น ชี้เย่จิ่งหานด่าสาดเสียเทเสีย “ถึงเจ้าเป็นสามีของพี่กู้ก็บีบให้นางทำในสิ่งที่ไม่ชอบไม่ได้ ถ้าเจ้ายังไม่ปล่อยนาง ข้า…ข้าจะใช้ฉีหลัวพิฆาตซัดเจ้าให้หมอบไปเลย!”
คนทั้งงานตกตะลึง
เผ่าน้ำแข็งออกหน้าให้กู้ชูหน่วน?
กู้ชูหน่วนกะพริบตาปริบๆ อีหลักอีเหลื่ออยู่บ้าง
เมื่อวานนางเด็กนี่ยังโมโหเลือดพล่านแทบจะสังหารนาง
ตอนนี้กลับออกหน้าให้นาง ทั้งยังเรียกว่าพี่กู้ นางไม่ได้ฝันไปกระมัง?
ไม่รอให้ทุกคนคืนสติ จอมมารก็ดาหน้าเข้าไปก่อนแล้ว
ครั้นลงมือก็เป็นท่าพิฆาต แต่ละกระบวนท่าหนักดังมือสังหาร ไม่ไว้หน้าและไมตรีโดยสิ้นเชิง
สถานการณ์ควบคุมไม่อยู่
ไม่ว่าจอมมารหรือเย่จิ่งหานล้วนเป็นยอดฝีมือชั้นยอดแห่งยุค ครั้นพวกเขาประมือกัน ทั้งหุบเขาตันหุยก็ถูกกระทบกระเทือนไปหมด ดีที่สนามประลองมีค่ายกลอยู่ สามารถกีดกั้นพลังโจมตีทั้งมวลให้อยู่ข้างนอกได้ บรรดานักหลอมยาที่กำลังแข่งขันจึงแข่งขันต่อโดยไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
กู้ชูหน่วนเงยหน้ามองท้องฟ้า กลางนภามีดอกลำโพงหยาดเยิ้มที่กำลังบานสะพรั่งตามต่อสู้กับเย่จิ่งหานประหนึ่งมีดวงตา แต่กลับถูกมังกรไฟที่เย่จิ่งหานอัดแน่นออกมากลืนกิน
ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ยิ่งต่อสู้ยิ่งดุเดือด
เครื่องหน้ากู้ชูหน่วนเหยเก
สองคนนี้ปีจอหรือ?
เจอกันทีไรเป็นต้องกัดกัน
สุนัขยังกัดกันเก่งไม่เท่าพวกเขาเลย
ครั้นมีเวลาไม่มากแล้ว บวกกับวรยุทธ์เย่จิ่งหานและจอมมารใกล้เคียงกัน ฝ่ายไหนก็ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ กู้ชูหน่วนคร้านจะสนใจ จึงรีบวิ่งกลับเข้าไปกลางสนามประลอง หาเตาหลอมยาว่างเตาหนึ่ง เทวัตถุดิบยาในแหวนมิติออกมาทั้งหมด บดจนละเอียด
“ปังๆๆ…”
กระเบื้องของหุบเขาตันหุยปลิวไปทุกสารทิศ ประเดี๋ยวๆ ก็ตกลงตรงหน้า ทิ้งหลุมลึกขนาดใหญ่บนพื้น
ผู้อาวุโสเจี่ยรีบเอ่ยเร่ง “ท่านเจ้าหุบ มิสู้ให้พวกเขาหยุดก่อนเถอะ ต่อสู้เช่นนี้ต่อไป เกรงว่า…”
เจ้าหุบเขาใหญ่น่าหลันนวดขมับที่ปวด
เขาก็อยากให้พวกเขาหยุดเหมือนกัน
แต่ที่สำคัญคือ พวกเขาจะยอมฟังเขาหรือ?
พวกเขาไม่ไว้หน้าเขาเลยไหม?