อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 530 ได้กุญแจรูปดาวดอกที่สองมาแล้ว
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 530 ได้กุญแจรูปดาวดอกที่สองมาแล้ว
ความเร็วลมกรดที่ราวกับเสือดาวและกรงเล็บพิษที่กระโจนเข้ามา
คนของเผ่าเทียนเฟิ่นถูกกระโจนใส่เป็นอันดับแรก ครั้นถูกกรงเล็บพิษข่วนเป็นแผลก็ละลายกลายเป็นน้ำเลือดทันที แม้แต่ศพกระดูกก็ไม่เหลือแม้แต่น้อย ทุกคนต่างขวัญผวา
นั่นเป็นเหล่าผู้อาวุโสชื่อดังของเผ่าเทียนเฟิ่นเชียวนะ หนึ่งในนั้นยังมีสุดยอดผู้อาวุโสท่านหนึ่ง ต้องมาตายกับอสูรเขาเดียวแห่งแดนมายาอย่างไม่เข้าใจเช่นนี้แล้ว
หากไม่ใช่เพราะเวินเส้าหยีช่วยได้ทันกาล ดึงพวกเขาออก เกรงว่าคนของเผ่าเทียนเฟิ่นจะบาดเจ็บล้มตายมากกว่าเดิม
ในใจเวินเส้าหยีรู้สึกผิดมากน้อยก็มีอยู่บ้าง วินาทีที่ผู้อาวุโสเผ่าเทียนเฟิ่นถูกอสูรเขาเดียวกระโจนใส่ เขาก็เดินกำลังช่วยแบบอัตโนมัติแล้ว แต่ลืมว่าอยู่ที่นี่วรยุทธ์เขาไม่สามารถจู่โจมได้ สุดท้ายถึงอาศัยความว่องไวดึงพวกเขาออก
“โฮ๊ก…”
อสูรเขาเดียวร้องคำรามอีกครั้ง ท่วงท่าคงเดิม กระโจนใส่ผู้อาวุโสเผ่าเทียนเฟิ่นและไป๋จิ่นต่อ
“ทำไมวรยุทธ์ข้าหายไป?”
“วรยุทธ์ข้าก็ด้วย ลมปราณสักนิดก็ดึงไม่ออก”
ผู้อาวุโสเผ่าเทียนเฟิ่นที่ไม่ทันยั้งคิด ถูกข่วนอีกครั้ง กลายเป็นน้ำเลือด
ไป๋จิ่นกลิ้งตามแรง สีชิ่นใช้ผ้าไหมแดงดึงไป๋จิ่นออกมา ถึงช่วยชีวิตนางได้อย่างหวุดหวิด
เผชิญกับอสูรเขาเดียวแห่งแดนมายาระดับเจ็ด คนอื่นแทบอยากหลีกไปให้พ้น ทว่ากู้ชูหน่วนสายตามุ่งมั่น ถึงกับ…กระโจนใส่อสูรเขาเดียวแห่งแดนมายา
“อาหน่วน…”
“พี่สาว…”
“แม่นางกู้…”
ในกลุ่มคนก็ไม่รู้ว่าใครตะโกนเรียกนางอย่างร้อนรน
กู้ชูหน่วนหยิบอาวุธลับออกมาพลางซัดใส่อสูรเขาเดียวอย่างไม่มีพลาด
อย่างไรอสูรเขาเดียวก็ถึงระดับเจ็บ อาวุธลับทั่วไปทำอะไรมันไม่ได้
เมื่อเข้าใกล้มัน กู้ชูหน่วนก็รู้สึกว่าบนตัวมีพลังไร้รูปสายหนึ่ง ราวกับจะหลอมนางเป็นน้ำเลือด
เมื่อพวกเย่จิ่งหาน จอมมาร ไป๋จิ่น สีชิ่นเห็นดังนั้นก็พากันยื่นมือเข้าช่วย
แม้แต่เวินเส้าหยีก็ช่วยด้วยเหมือนกัน
คนของเผ่าเทียนเฟิ่นตื่นตระหนก ฉุดเวินเส้าหยีเอ่ย
“ท่านหัวหน้าเผ่าน้อย ไปไม่ได้นะ ถ้าข้าเดาไม่ผิด นั่นคงเป็นอสูรเขาเดียวแห่งแดนมายา พลังสูงถึงระดับเจ็ดเต็มๆ ถึงพวกเราทั้งหมดจะร่วมมือกัน ก็ฆ่ามันไม่ได้ มิสู้ให้พวกเขาต่อสู้จนบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย เราค่อยเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ในตอนนั้น”
“ท่านหัวหน้าเผ่าน้อย โปรดตามพวกเราออกไปก่อนเถอะ ประเดี๋ยวข้าจะขังพวกมันไว้ที่นี่ อยู่ที่นี่ชั่วนิรันดร์”
เสียงของผู้อาวุโสเผ่าเทียนเฟิ่นจะว่าดังก็ไม่ดัง จะว่าเบาก็ไม่เบา ทุกคนในที่นั่นได้ยินกันหมด
หากไม่ใช่เพราะยามนี้สู้กับอสูรเขาเดียวมือไม่ว่าง มิเช่นนั้นพวกเขาต้องเก็บพวกเขาก่อนเป็นแน่
ห้าคนประสานมือยังคงมิใช่คู่ต่อสู้ของอสูรเขาเดียว อยู่ที่นี่วรยุทธ์พวกเขาสูญไปหมด หากมิใช่เพราะการเครื่องไหวพวกเขาปราดเปรียว มีพื้นฐานดี กลัวแต่ต้องตายอยู่ที่นี่นานแล้ว
เวินเส้าหยียืนอยู่อีกทาง ไม่ได้จากไป เพียงแต่มองกลุ่มคนที่กำลังห้ำหั่นสุดชีวิตด้วยความเย็นชา
สายตาที่เย็นชาของเขาดูอะไรไม่ออก แต่ทุกครั้งที่กู้ชูหน่วนเกือบประสบอันตราย เขามักตื่นตระหนกอย่างบอกไม่ถูก
กู้ชูหน่วนที่เป็นเช่นนี้เขาไม่เคยพบเห็นมาก่อน เกือบถูกอสูรเขาเดียวกระแทกต่อไปหลายครั้งหลายครา แต่นางก็ลุกขึ้นมาทุกครั้ง ทุกครั้งล้วนลุกขึ้นอย่างสุดกำลังขา แล้วมุ่งเข้าไปอีก
ตัวนางมีเลือดซึมออกมาหลายจุด เลือดสีแดงสดไหลตามแนวเสื้อผ้าของนาง
แต่ใบหน้านางยังคงมุ่งมั่นหัวแข็งดื้อรั้น
“อุ๊บ…”
“อุ๊บ…”
ฝีมือแข็งแกร่งอย่างไป๋จิ่นและสีชิ่น ยังถูกพลังมายาของอสูรเขาเดียวทำร้ายเช่นกัน
เย่จิ่งหานกับจอมมารต่างคนต่างรั้งขาหน้าหลังของอสูรเขาเดียว และไม่รู้ว่าพวกเขาอาศัยกำลังกายเปล่าๆ ยึดได้อย่างไรในเวลาอันสั้น
กู้ชูหน่วนยกมือขวา ซัดอาวุธลับที่ตาของอสูรเขาเดียว
มืออีกข้างจับเขาของมัน หยิบกุญแจรูปดาวด้วยความว่องไว
อสูรเขาเดียวอาละวาดทันที
เย่จิ่งหาน จอมมารรวมถึงกู้ชูหน่วนต่างถูกสลัดออกไป กระอักเลือดออกมาอย่างแรง ห้าอวัยวะตันหกอวัยวะกลวงพลุ่งพล่านไม่หยุด