อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 542 คาดไม่ถึง
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 542 คาดไม่ถึง
คนของเผ่าเทียนเฟิ่นล้วนพากันตะลึง
คำพูดของจอมมารหมายความว่าอย่างไร?
ก่อนหน้านี้มีข่าวคราวว่า จอมมารมีความสัมพันธ์ไม่เลวกับพระชายาของเทพสงคราม หรือพวกเขาจะมีความสัมพันธ์คลุมเครือกันจริงๆ?
จากข่าวคราวที่ค่อยๆแพร่กระจายมา พวกเขารู้ว่าขณะที่กู้ชูหน่วนอยู่ที่หุบเขาตันหุยได้หลอมยาอเนกประสงค์ระดับสี่ได้จริงๆ ทำให้คนทั้งโลกตกตะลึง
นั่นเป็นถึงยาอเนกประสงค์ระดับสี่เชียว แม้เหล่าผู้เฒ่าอมตะกลุ่มนั้นของหุบเขาตันหุยจะหลอมก็ไม่แน่ว่าจะสามารถปรุงกลั่นยาออกมาได้
หากกู้ชูหน่วนไม่ให้พวกเขาใช้ประโยชน์ ก็ต้องตาย ไม่เช่นนั้นปล่อยให้คนแบบนี้อยู่บนโลก ก็จะเป็นเพียงหายนะต่อพวกเขาเท่านั้น
อีกทั้งตอนนี้ พวกเขาและกู้ชูหน่วนก็มีปัญหาขัดแย้งไม่พอใจกันอยู่หลายครั้ง คิดว่านางคงไม่ให้พวกเขาได้ใช้ประโยชน์เป็นแน่
วันนี้แม้ว่าจะออกตัวปกป้อง พวกเขาหุบเขาตันหุยก็จะต้องกำจัดนาง
บนสนามประลอง กระบวนท่ามีดดาบรวมเป็นหนึ่งของหวังเฟิงหวังหยู่ ก่อตัวเป็นที่ครอบโค้งขนาดใหญ่ ครอบลงมาจากบนศีรษะของกู้ชูหน่วน
“ครืน……” เศษกระเบื้องลอยไปทุกหนทุกแห่ง ทรายหินปลิวว่อน ฝุ่นละอองขนาดใหญ่กระจายออกไปด้านนอกทุกทิศทาง
ทุกคนสำลักฝุ่นควันจนลืมตาไม่ขึ้น ต่างพากันปิดปากปิดจมูกไว้
จนขณะที่พวกเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ครึ่งหนึ่งของสนามประลองก็ถูกทำลายราบ
เบื้องหน้ายังมีเงาร่างของกู้ชูหน่วน
พลานุภาพของกระบวนท่านี้ยิ่งใหญ่เกินไป แทบจะเทียบได้กับขั้นสูงสุดระดับสี่แล้ว
คนธรรมดาคิดว่าไม่อยากตายก็ล้วนลำบาก
มือขาวๆของสีชิ่นบีบกันแน่ ปลายนิ้วอันแหลมคม แทงฝ่ามือของนางทะลุแล้ว
นางกำลังอดทน ทนระงับความโกรธอันมหาศาล แต่บนใบหน้าของนางยังคงยิ้ม ยิ้มหยาดเยิ้มจนเย็นชา
จิตใจของไป๋จิ่นสั่นไหวเล็กน้อย
สีหน้าท่าทางและอารมณ์ของเย่จิ่งหานและจอมมารดูไม่ออก แต่ดูจากสายตาอันเย็นยะเยือกของพวกเขา คิดว่าก็โมโหแล้วเช่นกัน
น่าหลันหลิงลั่วตะโกนพูดด้วยความร้อนใจ “แม่สาวน้อย แม่สาวน้อย……”
คนเผ่าเทียนเฟิ่นล้วนพากันปริยิ้มออกมา
หวังเฟิงหวังหยู่สีหน้าภูมิใจ รอศพของกู้ชูหน่วนปรากฏออกมาหลังจากที่ฝุ่นควันจางไปด้วยความหยิ่งยโส
แต่ว่าหลังจากที่ฝุ่นควันจางไป บนสนามประลองก็ไม่มีอะไรเลย
พวกเขางงงัน ไม่ทันได้คิดไตร่ตรอง ด้านหลังก็เย็นยะเยือกทันที
แรงสังหารอันดุดัน โจมตีเข้ามาด้วยความรวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาด
“ฉึก……”
หวังเฟิงหวังหยู่ไม่ทันได้ระวัง ด้านหลังล้วนโดนกันไปดาบหนึ่ง
วิธีการนี้อีกแล้ว เล่นลอบโจมตีหรือ?
หวังเฟิงหวังหยู่เดือดดาล
พวกเขาทั้งสองล้วนเป็นระดับสี่ แต่กลับถูกเด็กสาวไม่ประสีประสาระดับสองฟันเข้าดาบหนึ่ง คนดูอยู่มากมายขนาดนี้ พวกเขาจะเอาหน้าไปไว้แห่งใด
ภายใต้ความโกรธ ความเร็วของพวกเขาก็เร็วยิ่งขึ้น ลงมือดุดันมากขึ้น
เผชิญหน้ากับความโหดร้ายของพวกเขา กู้ชูหน่วนควรจะถอย แต่ที่เหนือความคาดหมายของทุกคนคือ กู้ชูหน่วนใช้ความเร็วสู้กับความเร็ว ใช้ความดุดันสู้กับความดุดัน ตรงไปด้านหน้าด้วยความกล้าหาญ ไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย
หลายครั้งล้วนเป็นวิธีการต่อสู้อย่างสุดกำลังสู้กันจนตายกันไปทั้งคู่มุ่งสังหารไปทางพวกเขา
แม้ว่าวิทยายุทธของหวังเฟิงหวังหยู่จะสูงกว่านางไม่น้อย แต่วิชาตัวเบาของนางไร้ที่เปรียบ กระบวนท่าเจ้าเล่ห์ ทั้งหมดพวกเขาล้วนไม่เคยได้ยิน ไม่เคยได้เห็นมาก่อน ประกอบกับวิธีการต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายของนางนี้ แม้ว่าพวกเขาจะชนะ ก็ต้องถูกทำร้ายจนบาดเจ็บพิการสาหัสเช่นกัน
ฉับพลันนั้น ก็เกาะติดสถานการณ์อีกครั้ง
ผู้อาวุโสเฉินทอดถอนใจ “นังหนูนี่ไม่ธรรมดา” น่าเสียดายที่ไม่ใช่คนเผ่าเทียนเฟิ่นของพวกเขา ไม่เช่นนั้นอนาคตจะต้องเบ่งบานไปทั่วโลกเป็นแน่
รองหัวหน้าเผ่าซือคงหัวเราะอย่างเย็นชาเสียงหนึ่ง
หากว่านางเป็นคนธรรมดา เขาจะต้องจัดเตรียมยอดฝีมือมากมายขนาดนี้ อ้างชื่อการประลองมาเพื่อกำจัดนางทำไมกัน
“ตูม……”
หลายฝ่ามือปะทะกัน กู้ชูหน่วนถูกสะเทือนจนถอยหลังไปหลายสิบก้าว กระอักเลือดออกมา สีหน้าซีดขาวไปมาก
ผู้อาวุโสเฉินส่ายศีรษะ “สุดท้ายก็ยังเด็กเกินไป ระดับสองก็กล้าที่จะประลองฝ่ามือกำลังภายในกับระดับสี่ นี่คือรีบไปหาพญายมราชหรือไงกันนะ”
ไม่เพียงผู้อาวุโสเฉินที่คิดเช่นนี้ ทุกคนล้วนรู้สึกว่ากู้ชูหน่วนไม่รู้จักประมาณความสามารถตัวเอง
ครั้งนี้จะต้องถูกสะเทือนจนเส้นเลือดแตกหักและตายเป็นแน่
ทว่าเรื่องราวนั้นราวกับล้มล้างความรู้ของพวกเขาอีกครั้ง
คิดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนจะฝืนยืนขึ้นมาแล้ว ทั้งยังเช็ดเลือกตรงมุมปากด้วยท่าทางผ่าเผย ปริรอยยิ้มประหลาดอันมีเสน่ห์ออกมาอีกด้วย