อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 557 พี่สาว ท่านทำอะไรตกหล่นไปหรือเปล่า
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 557 พี่สาว ท่านทำอะไรตกหล่นไปหรือเปล่า
ประกายแสงมีดเงาเลือด ฝนดาบปลิวว่อน
กู้ชูหน่วนและคนอื่นๆรับมือกับคนมากมายไม่ไหว ได้รับบาดเจ็บหนักขึ้นเรื่อยๆ ยืนหยัดสู้ต่อไปไม่ไหวขึ้นเรื่อยๆ
คำสั่งหนึ่งของผู้อาวุโสเผ่าเทียนเฟิ่น ธนูนับหมื่นถูกปล่อยพร้อมกัน ธนูแต่ละดอกมีความรวดเร็วมาก เพียงแค่ถูกยิง ก็ต้องตายแน่นอน ทุกคนคิดว่าคราวนี้ต้องจบเห่เป็นแน่แล้ว แต่คาดไม่ถึง คนปิดหน้าที่องอาจห้าวหาญช่ำชองในการรบผู้หนึ่งพุ่งสังหารออกมา ทุกกระบวนท่าชี้ตรงไปที่คนของเผ่าเทียนเฟิ่น พุ่งสังหารออกมาเป็นเส้นทางเลือดอย่างกะทันหัน ทั้งยังทำให้มือธนูทั้งหมดของเผ่าเทียนเฟิ่นล้มระนาว
ผู้เฒ่าที่เป็นผู้นำกล่าว “ไปทางนี้”
กู้ชูหน่วนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เรียกสีชิ่นและไป๋จิ่นให้ถอยออกไปพร้อมผู้เฒ่าที่ปิดหน้า
ไป๋จิ่นขับเคลื่อนหอกน้ำแข็งแล้วไอหมอกก็ลอยวนเป็นเกลียวในชั่วพริบตา แทบจะมองไม่เห็นสถานการณ์ที่อยู่ห่างออกไปในระยะหนึ่งเมตร จึงง่ายในการบดบังการจากไปของพวกนาง
จอมมารกำลังต่อสู้ฟาดฟันอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยความทะนงกำลังรอให้กู้ชูหน่วนเรียกให้เขาจากไปพร้อมกัน คิดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนไม่แม้แต่จะหันหลังกลับมา สนใจเพียงแค่แบกเย่จิ่งหาน ถอยออกไปตลอดทาง
จอมมารชะงักครู่หนึ่ง ขณะที่เหม่อลอย เกือบจะถูกรองหัวหน้าเผ่าซือคงและสุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่ทำร้ายจนบาดเจ็บหนัก
“พี่สาว ท่านทำอะไรตกหล่นไปหรือไม่” จอมมารกล่าวด้วยความขุ่นข้องหมองใจ
กู้ชูหน่วนไม่ได้หันกลับมา ทิ้งไว้เพียงคำเดียว “คิดหาวิธีหนีเอง”
“…….”
บัดซบ……
พี่สาวนี่ก็เชื่อใจเขาเกินไปแล้ว หรือว่ามั่นใจเกินไปกันนะ?
นางไม่กลัวว่าเขาถูกตีตายเลยหรือไง?
แล้วมองดูเย่จิ่งหานที่โดนกู้ชูหน่วนแบกด้วยความมั่นคง เสพสุขกับการปฏิบัติที่เขาไม่สามารถเสพสุขได้
จอมมารกล่าวท้วง “โอ้ยๆ พี่สาว อาโม่ก็บาดเจ็บสาหัสเช่นกัน ท่านรีบมาแบกอาโม่หน่อยสิ”
จอมมารคิดจะสลัดพวกเขาสองคน จะได้ไล่ตามกู้ชูหน่วนไป บังเอิญสุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่และรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็เป็นเหมือนดั่งแผ่นแปะยาหนังหมาเกาะติดเหมือนปลิงเช่นนั้น จะสลัดยังไงก็ไม่ออก ทำให้เขาโมโหจนอดไม่ได้ที่จะปล่อยกระบวนท่าสุดยอดออกมา
เขาคิดว่า เขาตะโกนออกไปว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บแล้ว อย่างน้อยกู้ชูหน่วนก็จะหันกลับมามองเขา
แต่เขาคิดผิดอีกครั้ง กู้ชูหน่วนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยภายใต้การคุ้มกันของคนที่ปิดหน้าไว้
ในความเลือนราง เขาได้ยินเพียงประโยคหนึ่ง “รวมตัวกันนอกเผ่าเทียนเฟิ่น หากเจ้าหนีออกมาไม่ได้ เข้ากับเย่จิ่งหานจะช่วยเก็บศพให้เจ้า”
“……”
รวมตัวกันนอกเผ่าเทียนเฟิ่น?
นอกเผ่าเทียนเฟิ่นกว้างใหญ่ไพศาล จะรวมตัวกันที่ไหน?
อะไรเรียกว่าหนีออกไปไม่ได้ก็จะช่วยเก็บศพของเขาพร้อมกับเย่จิ่งหาน?
เขาต้องการให้เย่จิ่งหานเก็บศพให้หรือ?
เย่จิ่งหานมีสิทธิ์อะไรที่จะเก็บศพของเขาพร้อมกับนาง?
เดิมทีจิตใจของจอมมารก็มีไฟโทสะอยู่แล้ว เผอิญสุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่และรองหัวหน้าเผ่าซือคงก็บีบคั้นติดๆเข้ามาเรื่อยๆ ความเดือดดาลของจอมมารจึงพุ่งขึ้นในจิตใจทันที
และไม่รู้ว่าเขาทำยังไง เห็นเพียงแววตาของเขาที่ดุดันขึ้นอย่างฉับพลัน ดอกลำโพงในมือไหลทะลักออกมา พุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ดอกลำโพงแวววาวส่องประกายละลานตา แสบตาจนพวกเขาลืมตาไม่ขึ้น
การต่อสู้ของยอดฝีมือ แพ้ชนะบางครั้งก็แค่ชั่วพริบตา
สุดยอดผู้อาวุโสเสวี่ยเย่และรองหัวหน้าเผ่าซือคงคิดไม่ถึงว่าเขาจะมีพลังระดับนี้ด้วย ถูกจอมมารทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส
แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็เป็นยอดฝีมือระดับต้นๆของเผ่าเทียนเฟิ่น แม้จะบาดเจ็บสาหัส ก็ยังเข้าล้อมจอมมารไว้ได้อย่างรวดเร็ว
“ตูม……”
เสียงดังสนั่นสั่นสะเทือนท้องฟ้ากึกก้องสะท้อนกัน
ควันหลงที่แข็งแกร่งสั่นสะเทือนจนทุกคนยืนไม่มั่นคง
ตำหนักบ้านเรือนแต่ละแห่งแต่ละหลังกลายเป็นเถ้าฝุ่นปลิวว่อนในชั่วเวลาเพียงดีดนิ้วมือของพวกเขา
ในเส้นทางลับที่คับแคบและยาวเส้นหนึ่ง
กู้ชูหน่วนวางเย่จิ่งหานที่มีอาการพิษกำเริบลง เอาเข็มทองออกมา พยายามช่วยเขายับยั้งพิษร้ายที่ออกอาการอย่างต่อเนื่องในร่างกายของเขาอย่างเต็มที่
ผ่านไปเป็นเวลานานกว่าจะค่อยๆโล่งใจขึ้นได้
“ยังดี เกือบไปแค่นิดเดียว ชีวิตของท่านก็จบแล้ว”
เย่จิ่งหานอ่อนแอไปทั้งร่างกาย แม้แต่จะพูดก็พูดไม่ออก หมุนเวียนลมปราณของตัวเอง หวังว่าจะฟื้นฟูวิทยายุทธให้ได้โดยเร็วที่สุด
กู้ชูหน่วนตีมือของเขาออก “เก็บแรงซะเถอะ ฝืนฟื้นฟูวิทยายุทธในเวลานี้ จะทำให้พิษกำเริบเร็วขึ้นเท่านั้น ข้าไม่อยากให้คนที่ช่วยมาด้วยความลำบาก ทำให้ตัวเองตายในชั่วพริบตา”