อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 566 คิดจะเก็บดอกเบี้ยสักนิดแทนเผ่าหยกไงล่ะ
- Home
- อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
- บทที่ 566 คิดจะเก็บดอกเบี้ยสักนิดแทนเผ่าหยกไงล่ะ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 566 คิดจะเก็บดอกเบี้ยสักนิดแทนเผ่าหยกไงล่ะ
วาดไปหน้าบนหน้าของเขาอย่างต่อเนื่อง รอยยิ้มอันน่ากลัวที่มุมปากทำให้คนอกสั่นขวัญแขวน
“หน้ากากของเจ้าดูวิเศษเล็กน้อย แม้จะกรีด คิดว่าก็คงจะไม่เสียหาย ก็ไม่รู้ว่าลงไปมีดหนึ่ง จะทำร้ายโดยผิวหนังบนหน้าของเจ้าหรือไม่”
“ตอนนี้ความสามารถของข้าถึงระดับสองแล้ว และข้าก็มีพลังมากตั้งแต่กำเนิด มีดหนึ่งไม่สำเร็จ สิบมีด ร้อยมีด พันมีด กระทั่งหมื่นมีดลงไป ก็จะต้องทำร้ายโดนผิวหนังของเจ้าได้บ้างใช่มั้ยล่ะ?”
เวินเส้าหยีกัดฟันแน่น ไม่ตอบ
กู้ชูหน่วนพึมพำกับตัวเอง “โอ้ว ยังไงซะตอนนี้ข้าก็ว่างๆ ฝึกสลักอักษรบนหน้าของเจ้าซะเลยละกัน อาจารย์ซ่างกวนจะได้ไม่ว่าตัวอักษรของข้าน่าเกลียดเหมือนกับไก่เขี่ย”
เวินเส้าหยี “…….”
กู้ชูหน่วนถือกริชขณะที่จะสลักลงไปก็หยุดลงอีก “เจ้าว่า หากเจ้าเป็นผู้ชายที่สง่างามเป็นที่สุด และข้าเพื่อที่จะฝึกคัดลายมือ บังคับกรีดจนใบหน้าของเจ้าเป็นรอยแล้ว เช่นนั้นอนาคตเจ้าออกไปข้างนอกจะพบหน้าผู้คนอย่างไร?”
“ช่างเถอะ ข้าฝึกคัดลายมือบนตัวของเจ้าดีกว่า ผิวทั้งตัวของเจ้าบางละเอียดเรียบเนียน ทั้งยังไม่มีหน้ากากมาบังไว้ น่าจะฝึกคัดลายมือได้ง่ายกว่า”
“เจ้าว่าฝีกคัดตัวอักษรไหนดีนะ? มีแล้ว ครั้งก่อนอาจารย์ซ่างกวนพูดถึงจ้านกั๊วเช่อ ข้าท่องจ้านกั๊วเช่อออกมา สลักบนตัวของเจ้าซะเลยดีกว่า จะได้เลี่ยงที่ข้าความจำไม่ดีมักจะลืมอยู่เสมอ”
เวินเส้าหยี “…….”
ปลายกริชแทงลงไปช้าๆ วาดเบาๆ เลือดสีแดงสดของเวินเส้าหยีไหลออกมาในพริบตา
กู้ชูหน่วนผงะทันที ตกใจลนลาน “ว้าย เลือดไหลแล้ว เจ้าว่าทำไมเจ้าถึงไม่ทนต่อการกรีดขนาดนี้นะ ข้ายังไม่ได้ออกแรงเลยนะ”
เวินเส้าหยีกัดฟันจนดังกึกกึกกึก
หากสามารถขยับได้ เขาอยากจะบีบนางให้ตายจริงๆ
“นี่เพิ่งจะวาดแค่ครั้งเดียว เลือดก็ไหลมากขนาดนี้แล้ว หากว่าข้าสลักจ้านกั๊วเช่อทั้งหมดลงไป แล้วเจ้าจะไม่เลือดไหลหมดตัวจนตายหรือไง”
เวินเส้าหยีพูดด้วยความโกรธ “นักรบฆ่าได้หยามไม่ได้ เจ้าคิดจะฆ่าก็ฆ่า ทำไมจะต้องทรมานคนเช่นนี้ด้วย?”
“ทรมานคน? เหอะ…..พูดถึงการทรมาน วิธีการเผ่าเทียนเฟิ่นของพวกเจ้าถึงจะนับว่าโหดร้ายอย่างแท้จริง”
กลิ่นอายบนตัวของกู้ชูหน่วนเย็นลงอย่างกะทันหัน ภาพการตายทั้งเป็นของประชาชนเผ่าหยกวนเวียนอยู่ในสมองของนางไม่หยุด
นรกบนดินนั่น ทั้งชีวิตนี้นางก็ไม่อยากเห็นอีกเป็นครั้งที่สอง
“นอกจากรวมมุกมังกรทั้งเจ็ดเม็ดแล้ว ยังมีวิธีการใดที่จะสามารถทำลายคำสาปของเผ่าหยกได้อีก?”
“เจ้ามีความสัมพันธ์โยงใยกับเผ่าหยกจริงๆด้วย มุกมังกรเม็ดที่ห้าเป็นเจ้าที่มอบให้เผ่าหยก แต่ไม่ใช่เผ่าหยกแย่งไปจากมือของเจ้าสินะ”
“ข้ากู้ชูหน่วนไม่ใช่คนมีเมตตาหรอกนะ ถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย นอกจากรวมมุกมังกรทั้งเจ็ดเม็ดแล้ว ยังมีวิธีการใดที่จะสามารถแก้คำสาปของเผ่าหยกได้อีก?”
“ไม่มี แม้จะมี ข้าก็ไม่บอกเจ้า อึบ……”
คำพูดของเวินเส้าหยีเพิ่งจะสิ้นสุด กู้ชูหน่วนก็แทงมีดไปที่แขนของเขาอย่างรุนแรง เจ็บจนเขาสูดหายใจด้วยความตกใจ เกือบจะคิดว่าแขนของเขาพิการไปแล้ว”
“เจ้าไม่พูดสินะ ไม่เป็นไร และเจ้าก็ไม่กลัวข้าจะสลักจ้านกั๊วเช่อทั้งตัวของเจ้าสินะ ก็ไม่เป็นไร”
“ได้ยินมาว่าหอเหวินเซียงในพระนครมีชื่อเสียงมาก ด้านในมีชายรูปงามอยู่ทุกประเภท จากรูปร่างและราศีของเจ้า แม้ว่าจะสวมหน้ากาก เอาไปวางไว้ที่นั่น ก็คงจะมีคุณชายผู้สูงศักดิ์หรือแม่นางที่ครอบครัวร่ำรวยต้องการจะแย่งชิงกันอยู่บ้างสินะ”
ฝ่ามือของเวินเส้าหยีสั่นเทา “เจ้าต้องการอะไรอีก?”
“ไม่ได้ต้องการอะไรนี่ เพียงแต่ข้าไม่ได้ยินข้อมูลที่ข้าต้องการจากปากของเจ้า และเผ่าหยกกับข้าน่ะเหรอ มีความสัมพันธ์กันนิดหน่อยอยู่จริง ข้าเห็นว่าเผ่าหยกโดนพวกเจ้าทำร้ายอย่างน่าอนาถขนาดนั้น คิดจะเก็บดอกเบี้ยแทนพวกเขาสักนิดไงล่ะ”