อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 595 เป็นเขา
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 595 เป็นเขา
กู้ชูหน่วนกุมลุกขึ้น กุมท้องตัวเองพลางคลำทางไปข้างหน้า
ลักษณะถ้ำน้ำแข็งซับซ้อนมาก เดินระยะหนึ่งก็จะมีทางแยก
เพื่อป้องกันการหลงทาง กู้ชูหน่วนจึงใช้ปิ่นปักผมทำสัญลักษณ์ไว้บนกำแพงน้ำแข็ง
หลังจากอ้อมมาวงใหญ่ นางก็ยังไม่เห็นมังกรน้ำระดับเจ็บ แล้วไม่เห็นเงามุกมังกรด้วย
อุณหภูมิลดลงเรื่อยๆ กู้ชูหน่วนหนาวจนสั่นงกๆ ถูแขนตัวเองเพื่อทำความอบอุ่นไม่หยุด
ขณะที่ตรงหน้ามีทางแยก กู้ชูหน่วนยันกำแพงอย่างไม่ทันระวัง กำแพงน้ำแข็งเหนียวๆ ครั้นนางก้มหน้ามองก็ขยะแขยงแทบอาเจียน
ที่เหนียวๆ นั้นหาใช่สิ่งใดอื่น แต่เป็นเครื่องในของแมงมุม
เมื่อมองข้างหน้า แมงมุมตัวเขื่องตัวหนึ่งถูกแยกร่าง ขาแมงมุมแยกกันไปคนละทิศคนละทาง บนกำแพงน้ำแข็งมีรอยดาบกระบี่เต็มไปหมด มองออกว่าที่มีผ่านศึกมาได้ไม่นาน
กู้ชูหน่วนข้ามซากแมงมุมที่ถูกแยกร่าง มาถึงสถานที่คับแคบหนึ่ง
ตรงนั้นมีใยแมงมุมโปร่งแสงขนาดใหญ่ บนใยแมงมุมมีคนคนหนึ่งติดอยู่
ชายปิดหน้าชุดดำคนหนึ่ง
ชายปิดหน้าชุดดำคงดิ้นรนมานานแล้วแน่ ผลาญกำลังจนสิ้นก็ยังดิ้นไม่หลุด ยามนี้ถูกใยแมงมุมพันธนาการอย่างไร้กำลังด้วยลักษณะกางแขนกางขา
ชายคนนี้ ไม่ใช่ชายหนุ่มคนนั้นที่ลอบสังหารนางหรือ?
ครั้นมองอีกครั้ง บนร่างมีรอยแผลมากมาย ทั้งยังมีรูเลือดหลายจุด รูเลือดนั้นยังมีเลือดซึมถึงตอนนี้ เหมือนบาดแผลบนตัวเวินเส้าหยี คาดว่าคงถูกแมงมุมทำร้ายเหมือนกัน
“เฮอะ…โลกกลมจริงๆ เราเจอกันอีกแล้ว”
เสียงกู้ชูหน่วนเสียดสี “ก่อนหน้านี้ที่อยู่ก้นเหว ข้าช่วยเจ้า แต่เจ้ากลับทดแทนบุญคุณด้วยความแค้น แทงข้าทีหนึ่ง เจ้าว่า ครั้งนี้ข้ายังกล้าช่วยเจ้าอยู่ไหม?”
ในช่วงอากาศหนาวเหน็บ ภูมิศาสตร์ซับซ้อน ถ้านางไม่ยอมช่วย ชายหนุ่มต้องตายแน่แท้
กู้ชูหน่วนนึกว่าชายหนุ่มจะเปิดปากขอร้องให้นางช่วย แต่อีกฝ่ายกลับมองนางชืดๆ ไม่มีท่าทีเปิดปากขอร้องแต่อย่างใด ดวงตาคู่นั้นเย็นชาจนไร้อารมณ์เหมือนก่อนหน้านี้
“พ่อหนุ่ม เจ้าอายุยังน้อย เป็นอะไรไม่เป็น ต้องมาเป็นนักฆ่า ข้าไม่สนว่าทำไมเจ้าถึงเป็นนักฆ่า วันนี้ข้าไม่ทับถมซ้ำเติม แต่ข้าก็จะไม่ช่วยเจ้าด้วย เป็นหรือตาย ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว”
กู้ชูหน่วนมองเขาอย่างลึกซึ้งทีหนึ่งก่อนจะหมุนตัวจากไป
กระทั่งนางหมุนตัวจากไปแล้ว ชายหนุ่มก็ไม่ปริปากขอร้องสักคำ
เขาแค่ฝืนทนอดกลั้น ดิ้นรนอย่างไม่ลดละ แม้ทุกครั้งที่ดิ้นรน อาการบาดเจ็บเขาจะหนักขึ้นก็ตาม
กู้ชูหน่วนหูดี นางรู้สึกได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเบื้องหลัง
เดินไปถึงอีกทางแยกหนึ่ง กู้ชูหน่วนอดหยุดฝีเท้าไม่ได้ แอบมอบชายหนุ่ม
กลับเห็นอีกฝ่ายดิ้นรนครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไร้ที่สิ้นสุด กระทั่งเพื่อให้หลุด ยอมสละหนึ่งมือหนึ่งเท้าของตัวเอง
ในดวงตาเย็นชาของเขาปรากฏอารมณ์เป็นครั้งแรก
นั่นคืออารมณ์อยากมีชีวิต
ฝีเท้ากู้ชูหน่วนประหนึ่งกรอกตะกั่ว อย่างไรก็ก้าวไม่ออก
สายตาอยากมีชีวิตเช่นนี้ เหมือนนางที่สุด
อย่างเทวดาดลใจ กู้ชูหน่วนเดินไปทางเขา
“ข้าช่วยเจ้าได้ แต่เจ้าต้องรับข้าข้อหนึ่ง ห้ามฆ่าข้าอีก”
ชายหนุ่มชุดดำมองนางอย่างเย็นชา และไม่รู้ว่าเข้าใจถ้อยคำนางหรือไม่
เข้าไม่ผงกศีรษะและไม่ส่ายหน้า ในดวงตาปราศจากอารมณ์
“จากดวงตาเจ้า ข้ามองออกว่าเจ้าไม่ได้มีความแค้นใหญ่หลวงกับข้า ในเมื่อไม่มีความแค้นใหญ่หลวง แล้วไยเจ้าต้องยอมสละตัวเองเพื่อฆ่าข้าคนเดียวด้วย?”
กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว
ชายหนุ่มผู้นี้ นิ่งงั้นอีกแล้ว?
“เจ้าหูหนวกเป็นใบ้หรือ?”
ยังไม่พูด?
กู้ชูหน่วนฉีกผ้าปิดหน้าเขาออกพลัน
ภายใต้ผ้าปิดหน้า โฉมหน้าชายหนุ่มชุดดำประจักษ์ตรงหน้ากู้ชูหน่วนโดยสมบูรณ์
ทันทีที่เห็นโฉมหน้าเขา สีหน้ากู้ชูหน่วนก็ซีดไปทันที สองเท้าถอยหลังเนืองๆ ดวงตาดำตัดขาวชัดคู่นั้น ทั้งตกใจ ทั้งดีใจ ทั้งเหลือเชื่อ