อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 62 ใครกล้าแตะต้องนาง
“คุณหนูกู้ จวนอ๋องมีกฎลงโทษที่ชัดเจน ท่าน……”
กู้ชูหน่วนพูดแทรกด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าเรียกข้าว่าคุณหนูกู้ งั้นก็แสดงว่าข้าไม่ใช่คนในจวนนี้ ในเมื่อข้าไม่ใช่คนในจวนนี้ อย่าเอากฎของที่นี่มาขู่ข้า”
“ฟึ่บๆๆ……”
เงาแปดคนกระโดดลงมา แยกตัวกู้ชูหน่วนกับชิวเอ๋อร์ออกมาเป็นสอง รวดเร็วเสมือนเสือดาว
แค่พริบตาเดียว กู้ชูหน่วนก็รู้ว่าทั้งแปดคนมีฝีมือการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา เกรงว่าตัวเองจะต่อกรไม่ได้
ชิวเอ๋อร์ก็ร้อนใจไปด้วย ร่างกายก็อดไม่ได้สั่นเทา
กู้ชูหน่วนหันหน้าไปมองเย่จิ่งหาน หรี่ตาแล้วพูดว่า “ท่านอ๋อง หมายความว่าอย่างไร?”
“เจ้าชอบหนุ่มรูปงามนักไม่ใช่เหรอ? ข้าให้สาวใช้ของเจ้าไปลิ้มรสฝีมือของลูกน้องของข้าว่าดีหรือไม่” เย่จิ่งหานเน้นหนักคำว่าฝีมือสองคำนี้
ให้ตายสิ
เรื่องนี้ก็ผ่านมานานแล้ว ยังจำได้อีก
เจ้าหมอนี่ทำไมถึงใจแคบกว่าผู้หญิงอีกนะ
นางเข้าใจแล้วล่ะ เย่จิ่งหานเป็นผู้ชายเจ้าคิดเจ้าแค้น เป็นพวกที่มีแค้นต้องชำระ
“ฝีมือของลูกน้องเจ้าต้องดีอยู่แล้ว ข้าว่าไม่จำเป็นต้องลิ้มลองก็ได้”
“ข้าว่า……จำเป็นนะ”
“เย่จิ่งหาน เจ้าอย่าทำเกินเหตุนะ” กู้ชูหน่วนยังไม่ตื่น
เป็นถึงเทพสงคราม ลงโทษสาวใช้ที่ไร้ทางสู้แบบนี้ เขาไม่รู้จักอายเลยหรือไง
“ข้ารู้ว่าเจ้าเก่งเรื่องวิชาตัวเบา ถ้าเจ้าชนะพวกเขาทั้งแปดคนก่อนที่ข้ารับใช้จะนำตัวชิวเอ๋อร์ไปได้ ข้าจะปล่อยนางไป”
กู้ชูหน่วนมองค้อนเขาอย่างแรง
เย่จิ่งหานกำลังทำให้นางลำบากใจชัดๆ คนแกร่งดั่งเหล็กตั้งแปดคน คิดว่านางเป็นเทพหรือไง?
เขายังกล้าไร้ยางอายกว่านี้ไหม?
“อะไรที่ตัวเองไม่ชอบ จงอย่าทำกับคนอื่น เจ้าเป็นถึงท่านอ๋อง เหตุผลแค่นี้เจ้าก็ไม่รู้เหรอ?”
“ทั่วพระนครรู้ดีว่าข้าฆ่าคนโดยไม่ลังเล เลือดเย็นอำมหิต เจ้าคิดว่าข้าจะมีเมตตาขนาดนั้นเชียว?”
กู้ชูหน่วนกัดฟัน “ได้ เจ้าว่ามา ขอแค่ข้าชนะพวกเขาก่อนที่ข้ารับใช้จะนำตัวชิวเอ๋อร์ไปได้ เจ้าสัญญาว่าจะไม่ลงโทษข้าเรื่องที่ไปเที่ยวหอนายโลมอีก และห้ามลงโทษชิวเอ๋อร์ด้วย”
“ตกลง”
เย่จิ่งหานเปิดปากเอ่ยขึ้น ดวงตาเรียวยาวระยิบระยับดั่งดวงดาว
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียไม่คาดหวังอะไรกับนางเลย
แปดคนนี้เป็นยอดฝีมือระดับสาม น้อยครั้งที่จะเจอ ฝีมือนางไม่ถึงระดับหนึ่งด้วยซ้ำ จะเอาอะไรมาสู้กับพวกเขา?
แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขาตะลึงก็คือ แปดคนนี้ยังทันได้สู้กับกู้ชูหน่วนเลย ก็ได้ยินเสียงโครมล้มลงพร้อมกันทุกคนแล้ว
“เฮือก……”
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียเบิกตาโพลงโต มองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“พวกเขาทำไมล้มลงทั้งหมดล่ะ? เจ้าวางยากับพวกเขาเหรอ? ไม่มีทาง พวกเขาเป็นถึงยอดฝีมือระดับสาม จะโดนยาพิษเจ้าง่ายๆได้ยังไง”
“ใครว่าข้าใช้ยาพิษ ข้าใช้ยาชาต่างหาก” กู้ชูหน่วนค้นหาความทรงจำในสมอง
รับรู้ได้ว่า โลกนี้แย่งระดับกังฟูออกมาเป็นเจ็ดระดับ ระดับที่หนึ่งยังแบ่งสูงกลางต่ำ ถ้าไต่ถึงระดับหนึ่งก็ถือว่าไม่เลวแล้ว หอการต่อสู้รวมไปถึงสำนักองครักษ์ในวัง มากสุดก็เป็นแค่กังฟูขั้นสูง แตะไม่ถึงระดับหนึ่งด้วยซ้ำ
ระดับสามเป็นยอดฝีมือจริงๆ
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียมีสีหน้าบึ้งตึง
ใครจะไปป้องกันยาชากัน? ฝีมือชั้นต่ำแบบนี้ ก็มีแต่นางที่ทำได้
แววตาเย่จิ่งหานประกายไปด้วยความเย็นชา
ขนาดเขา……ยังเกือบถูกกู้ชูหน่วนหลอกเลย
ตั้งแต่พวกเขาแปดคนออกมา กู้ชูหน่วนก็แอบวางยามาตลอด แต่นางตั้งใจใช้เขาเพื่อดึงดูดความสนใจของพวกเขาแปดคน จึงทำให้พวกเขาติดกับจนได้
ยอดฝีมือระดับสามกลับแพ้ให้กับเจ้าตัวเล็กที่ไม่มีกำลังภายในเลยด้วยซ้ำ น่าอับอายเสียจริง
และที่ทำให้เขาแปลกใจคือ การวางยาของกู้ชูหน่วน รวมไปถึงยาชาระดับไหนกันที่จะทำให้ยอดฝีมือทั้งแปดล้มลงไปได้ในพริบตาเดียว