อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 624 จอมกะล่อน
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 624 จอมกะล่อน
กู้ชูหน่วนมาถึงราชวิทยาลัยฟ้าก็สว่างแล้ว เมื่อเหล่านักเรียนในวิทยาลัยได้เห็นกู้ชูหน่วน แต่ละคนก็วิพากษ์วิจารณ์
“ดูสิ นั่นไม่ใช่กู้ชูหน่วนพระชายาหลวงของเทพสงครามหรือ? นางไม่ได้เรียนที่ราชวิทยาลัยตั้งนานแล้ว วันนี้ทำไมจู่ๆนางถึงมาได้?”
“นางชีวิตดี เป็นพระชายาหลวงของเทพสงคราม หากเป็นคนอื่น คงถูกราชวิทยาลัยไล่ออกไปนานแล้ว”
“ก็ถูก ราชวิทยาลัยเป็นสถานที่อะไร นางอยากมาเรียนก็มา ไม่อยากมาก็ไม่มา”
“ไม่สนหรอกว่านางจะถูกไล่ออกหรือไม่ สำคัญที่สุดคือไปถามก่อนดีกว่าว่าต่อจากนิยายครั้งก่อนเป็นอย่างไร”
ประโยคหนึ่งทำให้คนในราชวิทยาลัยไม่น้อยตระหนักได้
กู้ชูหน่วนเพิ่งจะก้าวเข้าสู่ราชวิทยาลัยก็ถูกรายล้อมอย่างหนาแน่น คนเหล่านี้ไม่มีคนที่ไม่ถามนางว่าจุดจบสุดท้ายของหยางฉู่ลั่วเป็นอย่างไร
นางกล่าวด้วยความโมโหว่า “ตายแล้ว ตายหมดแล้ว พระเอกนางเอกพระรองล้วนตายทั้งหมด”
“ตายหมด จะเป็นไปได้อย่างไรกันล่ะ นางเอกหยางฉู่ลั่วยังไม่ได้แก้แค้นเลยนี่?”
กู้ชูหน่วนผายมือ “ถ้าพวกเจ้าคิดว่าตอนจบไม่ดี ก็ไปเขียนเองสิ”
คนเหล่านั้นยังไล่ถามไม่หยุด กู้ชูหน่วนขยับคิดถอนตัวออกการรุมล้อมของฝูงชน แต่กลับถูกล้อมไว้แน่นจนแม้แต่น้ำหยดเดียวก็ไหลไปไม่ได้ โชคดีที่องครักษ์กลุ่มหนึ่งไม่รู้ว่าออกมาจากที่ไหน ใช้ทั้งวิธีการอ่อนและแข็ง ไล่เหล่านักเรียกออกไป
“ลูกพี่ เป็นท่านจริงๆด้วย ข้ายังคิดว่าข้าตาลายไปแล้วซะอีก หลายวันมานี้ท่านไปไหนมาเหรอ พวกเราคิดถึงท่านจะตายอยู่แล้ว”
“ลูกพี่ ได้เห็นท่านช่างดีจริงๆ หลังจากนี้ท่านคงจะอยู่เล่าเรียนที่ราชวิทยาลัยต่อแล้วสินะ”
สถานที่ไม่ไกล หลิวเยว่อวี่ฮุยวิ่งพุ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้นดีใจ มุมปากล้วนเป็นรอยยิ้มอันสดใส
เห็นพวกเขา คิ้วที่ขมวดกันแน่นของกู้ชูหน่วนจึงได้คลายออกเล็กน้อย
“พวกเจ้าทั้งสอง หมู่นี้ใช้ชีวิตเป็นยังไงบ้าง? ถูกอาจารย์ซ่างกวนลงโทษไม่น้อยสินะ?”
“ตั้งแต่ท่านจากไป อาจารย์ซ่างกวนก็ขอลาเช่นกัน เขาไม่ได้มาสอนอยู่ระยะหนึ่งแล้ว”
กู้ชูหน่วนตกใจ “อาจารย์ซ่างกวนลาหยุดเหรอ? ลาหยุดทำอะไร?”
นางจําได้ เหมือนว่าอาจารย์ซ่างกวนจะไม่ได้มีญาติพี่น้องอะไร และเขาก็ไม่ได้เป็นโรคอะไรด้วยนี่?
“อันนี้พวกเราก็ไม่รู้ชัดแจ้งนัก วิทยาลัยบอกเพียงแค่อาจารย์ซ่างกวนอยากจะออกไปผจญภัยใต้หล้าระยะเวลาหนึ่งเป็นการชั่วคราว ไม่ได้บอกอะไร ลูกพี่ ท่านไม่รู้ พวกอาจารย์ในวิทยาลัยล้วนแทบจะเสียสติแล้ว เพราะว่าถูกพวกคุณหนูลูกสาวผู้ดีในวิทยาลัย และองค์หญิงตังตังคาดคั้นถามอยู่ทุกวี่ทุกวันว่าเมื่อไหร่อาจารย์ซ่างกวนจะกลับมา ทำซะจนเหล่าอาจารย์น่าสงสารเชียวล่ะ”
หลิวเยว่ยิ้มอย่างมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น อวี่ฮุยก็ไม่ได้ดีไปกว่าเท่าไหร่ โบกไม้โบกมือกล่าว “ข้าว่า อาจารย์ซ่างกวนไม่ต้องกลับมาจะดีที่สุด พอเขากลับมา ก็จับผิดหาเรื่องลูกพี่ทุกครั้ง แม้แต่พวกเราก็พลอยซวยไปด้วย ตอนนี้เขาไม่มาสอน ท่านไม่รู้หรอกว่าพวกเราสบายมากแค่ไหน”
“ที่สะใจที่สุดคือ พวกลูกคุณหนูพวกนั้นไม่ได้เห็นอาจารย์ซ่างกวน จิตใจเหม่อลอยอยู่ทุกวัน เหมือนโดนทอดทิ้งไปเช่นนั้น เห็นแล้วสะใจจริงๆ จึจึจึ คิดถึงเมื่อก่อนที่อาจารย์ซ่างกวนแสดงท่าทางสง่างามเหล่านั้นต่อหน้าพวกนางแล้ว ข้าก็อยากจะอ้วก”
กู้ชูหน่วนเอ่ยถาม “แล้วกู้ชูหยุนล่ะ?”
“กู้ชูหยุน? นางก็มาเรียนทุกวันนี่”
“มาทุกวัน?”
“ใช่ นางกะเวลาได้แม่นยำมาก ทุกวันพอใกล้จะถึงเวลาเรียนก็เพิ่งจะมาถึง ทันทีที่เลิกเรียนก็ออกจากวิทยาลัยทันที ลูกพี่ ในฐานะที่เป็นผู้ชายที่มีสัมผัสที่หก ข้าบอกความลับท่านอย่างหนึ่ง ที่กู้ชูหยุนมาเรียนที่ราชวิทยาลัยทุกวันก็เพราะอาจารย์ซ่างกวน”
กู้ชูหน่วนตอบแทนพวกเขาด้วยมะเหงกคนละที “เพ้อเจ้อ แม้แต่คนโง่ก็ยังมองออกว่านางสนใจอาจารย์ซ่างกวน”
“เจ็บ…..ท่านยังลงมือหนักเหมือนเมื่อก่อนเลย สมองของข้าถูกเคาะจนโง่แล้ว”
“ถูกแล้ว ลูกพี่ ฮ่องเต้พระราชทานงานแต่งงานให้พี่ใหญ่เซียวและกู้ชูหยุนแล้ว พรุ่งนี้ก็เป็นวันแต่งงานแล้ว ท่านรู้เรื่องนี้แล้วใช่ไหม? พวกเราไม่อยากให้พี่ใหญ่เซียวแต่งงานกับกู้ชูหยุนผู้หญิงคนนั้น”
“วางใจเถอะ พระราชโองการน่าจะถ่ายทอดไปถึงจวนแม่ทัพแล้ว กู้ชูหยุนไม่มีโอกาสแต่งงานกับเซียวหยู่เซวียนแล้ว”
หลิวเยว่อวี่ฮุยตกตะลึงทันที
ผู้คนมากมายในจวนแม่ทัพไปขอร้องฮ่องเต้ ขอให้ฮ่องเต้ทรงโปรดถอนคำสั่งคืน ฮ่องเต้ทรงตั้งใจแน่วแน่ไม่ยอมถอนคืน แล้วทำไมถึงได้ถอนรับสั่งคืนอย่างกะทันหันได้อีกล่ะ
ต้องเป็นลูกพี่แน่ๆ มีเพียงลูกพี่เท่านั้นที่มีความสามารถนี้
ทั้งสองเลื่อมใสกู้ชูหน่วนมากยิ่งขึ้นอย่างอดไม่ได้
เวลานี้องค์หญิงตังตังเห็นกู้ชูหน่วนเข้าพอดี วิ่งเข้ามาด้วยความโกรธ ชี้หน้าด่ากู้ชูหน่วนยกใหญ่ “คนแซ่กู้ เจ้าจงใจใช่หรือไม่?”
กู้ชูหน่วนถูกด่าจนงงไปแล้ว
องค์หญิงน้อยนี้เป็นบ้าอะไรอีก?
ดูเหมือนว่าช่วงนี้นางก็ไม่ได้ไปยั่วโมโหอะไรนางนี่นา?
หลิวเยว่อวี่ฮุยขมวดคิ้วและพูดว่า “องค์หญิง แม้ว่าท่านจะเป็นองค์หญิงแห่งราชวงศ์หนึ่ง เป็นพระราชธิดาในไทเฮา แต่นางก็เป็นพระยาชาหาน พูดถึงศักดิ์ก็เป็นเสด็จอาสะใภ้ของท่าน ท่านทำตัวไม่เคารพต่อพระชายาหานเกินไปแล้วนะ”
“ถุย เสด็จอาสะใภ้อะไรกัน นางคู่ควรด้วยเหรอ?”
“ท่าน……”
กู้ชูหน่วนบอกใบ้ให้หลิวเยว่กับอวี่ฮุยถอยไปด้านข้าง ตัวเองกลับเดินไปเบื้องหน้าขององค์หญิงตังตังช้าๆ ยิ้มเห็นฟันขาวสองแถว ท่าทางแสดงความเป็นมิตรเล็กน้อย
“องค์หญิงน้อยของข้า เรื่องอะไรทำให้เจ้าโกรธถึงเพียงนี้?”
“นิยายห่วยแตกอะไรนั้นที่เจ้าเขียน องค์หญิงติงตังด้านในนั้นแอบบ่งชี้ว่าเป็นข้าใช่หรือไม่? กู้ชูหน่วน ทำไมจิตใจเจ้าถึงร้ายกาจขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะเขียนให้ข้าไม่สมหวังในรัก ทั้งยังถูกชายที่ตัวเองรักที่สุดกินไปทีละคำๆอีก นี่เจ้ากำลังแช่งข้าอยู่นะ”
องค์หญิงตังตังโกรธจนใบหน้าอันเยาว์วัยเปลี่ยนไปแล้ว
แทบอยากจะลงมือต่อยกู้ชูหน่วนแรงๆด้วยตนเองสักรอบหนึ่ง
แต่ความเสียเปรียบที่ผ่านมา ทำให้นางยังรักษาสติอันน้อยนิดไว้ได้อยู่ นางรู้ว่านางไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนเข้าใจได้ในทันที
ตอนนั้นองค์หญิงติงตังที่เขียน แอบบ่งชี้ว่าเป็นนางจริงๆ
ตอนนั้นใครให้นางทำตัวให้คนเกลียดล่ะ
หากว่าตังตังไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ นางก็ลืมไปแล้ว
กู้ชูหน่วนพูดอย่างจริงจังว่า “คำพูดนี้ขององค์หญิงตังตังไม่ถูกต้อง เจ้าคือองค์หญิงตังตัง นางคือองค์หญิงติงตัง จะเอาพวกเจ้าสองคนมาพูดผสมกันได้อย่างไรล่ะ โดยเฉพาะเจ้ายังน่ารัก ตรงไปตรงมา ร่าเริง จิตใจดีขนาดนี้อีก องค์หญิงติงตังนั่นดื้อ ชั่วร้าย หลงตัวเอง เทียบกับเจ้า นางก็เป็นเพียงโคลนสกปรกบนพื้นเท่านั้น”
สีหน้าขององค์หญิงตังตังดูดีขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังโกรธ
“ไทเฮาเป็นผู้ให้กำเนิดข้า นางก็มีไทเฮาเป็นผู้ให้กำเนิด ข้าได้รับความรัก นางก็ได้รับความรัก เสด็จพี่ของข้าเป็นฮ่องเต้ เสด็จพี่ของนางก็เป็นฮ่องเต้”
“เรื่องนี้เป็นเพียงความบังเอิญล้วนๆ ยิ่งกว่านั้น โดยปกติแล้วฮ่องเต้ก็ล้วนเป็นลูกชายคนโตของภรรยาหลวงที่สืบทอดไม่ใช่หรือ? แล้วใครให้เจ้าไม่ใช่องค์หญิงพระองค์โตของภรรยาหลวงล่ะ”
องค์หญิงตังตังรู้สึกว่ามีบางอย่างถูกต้อง และรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง
นางต้องการเอาเรื่องนี้มาจัดการกู้ชูหน่วน แต่คำพูดสองสามคำของนางก็ราวกับว่าจะหลอกล่อเลี่ยงความผิดไปได้อีกแล้ว
ทำให้นางโมโหจนกระทืบเท้าไม่หยุด “ข้าไม่สน ยังไงซะเจ้าก็ต้องเขียนใหม่ เจ้าจะต้องให้องค์หญิงติงตังมีตอบจบที่งดงาม”
“ได้ได้ได้ เขียนใหม่ ในพระนครมีนักเล่านิยายมากมาย เจ้าให้พวกเขาแก้ใหม่ก็ได้แล้ว”
“ไม่ได้ เจ้าจะต้องเป็นคนแก้”
“ข้าปรับแก้ก็ไม่ใช่จะไม่ได้ เพียงแต่……”
“เพียงแต่อะไร?”
“เพียงแต่จนถึงวันนี้เสด็จอาของเจ้ายังไม่มีทายาท ช่วงนี้คิดอยากจะได้บุตรมาตลอด หากว่าข้าช่วยเจ้าเขียน เสด็จอาของเจ้าจะต้องโกรธเป็นแน่ โทษที่ข้าไม่จดจ่อ ไม่เช่นนั้น เจ้าไปพูดกับเขาเองละกัน หากว่าเขาตกลง ข้าก็ไม่มีปัญหาเด็ดขาด?”
องค์หญิงตังตังอึ้งไปแล้ว
นี่นางตั้งใจสินะ?
ทั้งๆที่รู้ว่านางกลัวเสด็จอาที่สุด ยังจะเอาเสด็จอาออกมาอีก