อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 630 อยากทำให้พ่อของข้าประหลาดใจ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 630 อยากทำให้พ่อของข้าประหลาดใจ
เซียวหยู่เซวียนสัมผัสเอวของนางอย่างเขินอายเล็กน้อย พูดอ้ำอึ้งไม่ชัดเจน “หากว่าเจ้าไม่รังเกียจ เตียงของข้าให้เจ้ายืมนอนได้”
กู้ชูหน่วนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ล้มเลิกซะเถอะ หากว่าข้านอนที่เตียงของเจ้า พ่อของเจ้าจะไม่ตีจนข้าขาหักหรือไง”
“ไม่ต้องห่วง สองสามวันนี้ท่านพ่อข้ายุ่งมาก เขาไม่มีเวลามาสนใจพวกเราหรอก”
“อ๋อ…..ท่านพ่อของเจ้ายุ่งงานอะไรอยู่เหรอ?”
“ไม่ใช่เพราะกู้ชูหยุนนั่นหรือ หมู่นี้ไม่รู้ว่าเป็นบ้าอะไร มาที่จวนแม่ทัพของพวกเราบ่อยๆ นี่ไม่ใช่หรือไง ตอนเช้าตรู่นางก็มาแล้ว ตอนที่มาก็ยังทำท่าทางน้อยอกน้อยใจ บอกว่าอะไรไม่มีวาสนากับข้า เป็นสามีภรรยากันไม่ได้ ก็หวังว่าพอจะเป็นพี่น้องกันได้ ยังพูดว่าอะไรอีกยกย่องและเลื่อมใสพ่อของข้า ที่พ่อของข้าซื่อสัตย์ภักดีต่อราชสำนัก มีความรักใคร่ต่อราษฎร หวังว่าจะสามารถเป็นบุตรสาวบุญธรรมของพ่อข้าได้”
“อย่างไรเสียก็เป็นคำพูดที่พูดให้ดูดี รายละเอียดข้าก็พูดไม่ถูก ท่าทางบริสุทธิ์ไร้เดียงสานั่น ข้าดูซะจนโมโหมาก บังเอิญพ่อข้าชอบแบบนั้น คิดไม่ถึงว่าจะรับนางเป็นบุตรสาวบุญธรรมจริงๆ ยังจะให้นางมานั่งเล่นที่จวนบ่อยๆอีก”
“เจ้าบอกว่าวันนี้นางมาที่บ้านเจ้าตอนเช้าหรือ?”
“จะไม่ใช่ได้ไงล่ะ พระราชโองการยกเลิกการพระราชทานงานแต่งถ่ายทอดออกมาได้ไม่นาน กู้ชูหยุนแม่ดอกบัวขาวชอบทำตัวไร้เดียงสาก็มาแล้ว”
“นางรู้ได้อย่างไรว่าฮ่องเต้ยกเลิกพระราชโองการพระราชทานงานแต่ง? และยังมาได้เร็วขนาดนี้อีก?”
“ข้าจะรู้ได้ยังไง ผู้หญิงคนนั้นบ้าๆบอๆ ช่างเถอะ ไม่เอ่ยถึงนางแล้ว ไป ข้าพาเจ้าไปดูจวนแม่ทัพของพวกเรา”
กู้ชูหน่วนลูบคาง
คนอื่นไม่รู้ว่ากู้ชูหยุนชอบพอซ่างกวนฉู่ แต่นางจะไม่รู้ได้หรือ?
ฮ่องเต้ยกเลิกพระราชโองการ นางรีบร้อนอะไร? ทำซะจนเหมือนว่าอนาคตนางจะมาที่จวนแม่ทัพไม่ได้แล้วเช่นนั้น
คิดว่าจวนแม่ทัพน่าจะมีสิ่งของที่นางอยากได้แน่
หรือว่า…..
ที่นางต้องการก็คือมุกมังกร
กู้ชูหน่วนถูกความคิดของตัวเองทำเอาตกใจยกใหญ่
ไม่ว่าแผนการของกู้ชูหยุนจะลึกล้ำเพียงใด ก็เป็นเพียงคุณหนูรองที่ออกมาจากอนุภรรยาของจวนเฉิงเซี่ยงเท่านั้น นางจะเอามุกมังกรไปทำอะไร? และจะรู้ได้อย่างไรอีกว่ามุกมังกรอยู่ที่หัวใจของแม่ทัพใหญ่
แต่นางคิดไปมา นอกจากมุกมังกรแล้ว จวนแม่ทัพก็ไม่มีสิ่งของอะไรที่มีค่าให้นางคะนึงหาได้
เพราะตราอาญาสิทธิ์สำหรับนางแล้ว ก็ไม่มีประโยชน์สักนิด
มีเย่จิ่งหานอยู่ ตราอาญาสิทธิ์ของแม่ทัพใหญ่เซียว ก็มีผลไม่มาก
“นี่ ยัยขี้เหร่ วันนี้เจ้าเป็นอะไร ใจลอยตลอด ข้าตะโกนเรียกเจ้าตั้งหลายรอบแล้ว เจ้าก็ไม่ได้ยิน”
“อ๋อ……ไม่มีอะไร เพียงแต่มาที่จวนแม่ทัพ ไม่ไปคารวะท่านแม่ทัพใหญ่สักหน่อย เกรงว่าจะไม่เหมาะสม พ่อเจ้าล่ะ ข้าอยากไปพบท่านพ่อของเจ้า”
เซียวหยู่เซวียนคลำหน้าผากของนาง กล่าวอย่างตกตะลึง “เจ้าไม่ได้เป็นไข้หรอกนะ พ่อของข้ามีท่าทียังไงกับเจ้า เจ้าก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ พบเขาทำไม เดี๋ยวเจอก็โดนด่าอีก”
“ดังนั้น เจ้าจะไม่พาข้าไปแล้วสินะ? ช่างเถอะ ข้าไปหาพี่ของเจ้าให้พาข้าดีกว่า”
“เห้อ….อย่าอย่าอย่า เจ้าอยากไปข้าพาเจ้าไปก็ได้ เพียงแต่เจ้ามาหาท่านพ่อของข้า ไม่มีเรื่องอะไรจริงๆหรือ?”
“จำเป็นต้องมีธุระ จึงจะสามารถพบท่านพ่อของเจ้าได้หรือ?”
เซียวหยู่เซวียนมีความสงสัยอยู่เต็มท้อง
กู้ชูหน่วนเป็นคนยังไง เขาไม่กระจ่างเหรอ
ไม่มีธุระนางมาพบท่านพ่อของเขาสิจึงจะแปลก
แม้จะไม่รู้ว่านางคิดจะทำอะไรกันแน่ แต่เซียวหยู่เซวียนก็นำไปพบแล้ว “ตอนนี้ไม่รู้ว่ากู้ชูหยุนไปแล้วรึยัง ยังไงซะหากว่าท่านพ่อของข้าพูดจาไม่น่าฟังเกินไป เจ้าจากไปซะก็ได้แล้ว อย่าถือสาเขา เขาอายุมากแล้ว หมู่นี่สุขภาพก็ไม่ค่อยดี ข้าก็ทำให้เขาโกรธบ่อยๆไม่ได้”
“ได้ เสี่ยวเซวียนเซวียน ท่านพ่อของเจ้าดีต่อเจ้าหรือไม่?”
“ในโลกนี้จะมีพ่อคนไหนทำไม่ดีต่อลูกตัวเองได้ แม้ว่าท่านพ่อของข้าจะเคร่งครัดไปหน่อย แต่ข้ารู้ เขาก็ทำเพื่อให้ข้าได้ดี อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันครบรอบหกสิบปีของพ่อข้าแล้ว เจ้าไม่รู้หรอกว่าบนตัวของพ่อข้ามีรอยบาดแผลมากน้อยเท่าไหร่ จึจึจึ ข้าดูแล้วก็สงสาร”