อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 640 พบฮ่องเต้และฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่อีกครั้ง
- Home
- อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม
- บทที่ 640 พบฮ่องเต้และฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่อีกครั้ง
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 640 พบฮ่องเต้และฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่อีกครั้ง
“พี่หน่วน เขาไม่พูดอะไรเลยแล้วจะทำอย่างไรล่ะ? คงจะไม่ปล่อยเขาหรอกนะ”
“เสี่ยวลู่ไม่ได้บอกแล้วหรือว่า จอมมารได้พาฮองเฮาฉู่ออกมาจากเผ่าเทียนเฟิ่นอย่างปลอดภัยแล้ว พวกเราไม่รู้ความสัมพันธ์ของเขากับเย่เฟิง แต่บางทีฮองเฮาฉู่อาจจะรู้”
“เช่นนั้นความหมายของเจ้าคือ พวกเราจะไปหาฮองเฮาฉู่กันเดี๋ยวนี้”
“ถูกต้อง ตอนนี้ฮองเฮาฉู่ก็อยู่ที่แคว้นเย่พอดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปหาพวกเขาที่แคว้นฉู่”
“เช่นนั้นยังรออะไรอีก พวกเรารีบไปกันเถอะ” เซียวหยู่เซวียนแบกเลว่อิ่งที่โดนสะกดจุดขึ้นม้าโดยตรง ร้องเรียกไปทางกู้ชูหน่วนและคนอื่นๆ
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างประจบประแจง “น้องฉีหลัว เจ้าเป็นผู้หญิงตัวเล็กท่าทางอ้อนแอ้น ติดตามข้านอนกลางดินกินกลางทรายมาตลอด ข้าเห็นแล้วสงสารจับใจ ไม่งั้น เจ้ากลับไปรอข้าที่จวนอ๋องหานก่อน ข้าจัดการธุระเสร็จแล้วก็จะกลับไปหาเจ้าที่จวนอ๋องหานทันที”
ฮัวฉีหลัวโบกมืออย่างอาจหาญผ่าเผย “โอ้ย บุตรธิดาในยุทธภพไม่สนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆนี่ ข้าฮัวฉีหลัวก็ไม่ใช่คนที่อ้อนแอ้นเปราะบางขนาดนั้น พี่หน่วน พี่วางใจได้ เพียงแค่มีข้าอยู่ ข้าจะไม่ยอมให้ผู้ใดมาทำร้ายพี่ได้ ผู้ชายคนนี้ก็เลิกคิดว่าจะแตะต้องพี่ได้อีก”
“เจ้าว่าเจ้าไม่ได้กลับไปตั้งนานแล้ว พี่ไป๋ของเจ้าจะต้องเป็นห่วงแน่ๆ ไม่งั้น เจ้ากลับรายงานความปลอดภัยให้นางรู้ก่อน แล้วค่อยกลับมาหาข้าก็ได้”
“พี่ไป๋กับพี่หน่วน ต้องเป็นพี่หน่วนสำคัญกว่าอยู่แล้ว พี่ไป๋นางมีวิธีการหาคนของตัวเอง นางจะหาข้าพบได้ พี่หน่วนไม่ต้องกังวล ก่อนที่พี่ไป๋จะหาเจอ ข้าจะปกป้องพี่เป็นอย่างดี”
กู้ชูหน่วนกล่าวพึมพำแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ข้าต้องขอบใจเจ้าจริงๆ”
นางอยากจะให้ฮัวฉีหลัวแยกออกไปมาก แต่บังเอิญยัยเด็กนี่ก็เหมือนกับแผ่นแปะยาหนังหมาเกาะติดเหมือนปลิงเช่นนั้น เกาะนางแน่น สะบัดยังไงก็ไม่หลุด จึงทำได้เพียงพานางไปต่อด้วยกัน
รีบออกเดินทางมากว่าครึ่งวัน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงเรือนรับรองของแคว้นฉู่แล้ว
เพราะมีป้ายประกาศิตของฮองเฮาฉู่ กู้ชูหน่วนและคนอื่นๆจึงได้เขาคารวะฮ่องเต้และฮองเฮาแห่งแคว้นฉู่ได้อย่างง่ายดาย
เรือนรับรองอยู่ในห้องโถงหลัก ใบหน้าของฮองเฮาฉู่เต็มไปด้วยความยินดี ดึงมือน้อยๆกู้ชูหน่วนแล้วไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบ
บนใบหน้าของเซียวหยู่เซวียนแขวนไว้ด้วยรอยยิ้มจางๆโดยตลอด
เย่เฟิงเป็นเพื่อนสนิทดั่งพี่น้องของเขา เขาตายอย่างน่าอนาถ สำหรับเขาแล้ว เขาก็ห่วงใยฮ่องเต้และฮองเฮาแคว้นฉู่เหมือนดั่งพ่อแม่แท้ๆของเขาเอง
ฮ่องเต้แห่งแคว้นฉู่ไม่ได้สวมชุดคลุมมังกร แต่สวมชุดที่เรียบง่าย แม้จะสวมชุดที่เรียบง่ายทั้งตัว บนตัวของเขาก็ยังคนเปล่งประกายความสูงศักดิ์อันน่าเกรงขามอย่างหาที่เปรียบมิได้ออกมา เป็นความสูงส่งที่ไม่อาจดูหมิ่นได้
ความมีอำนาจน่าเกรงขามชนิดนี้มีเพียงผู้ที่อยู่ในฐานะตำแหน่งสูงมานานแล้วเท่านั้นถึงจะมีได้
ฮ่องเต้ฉู่แสดงความขอบคุณพวกเขาจากก้นบึ้งของหัวใจ กล่าวขอบคุณอย่างจริงใจ “ทั้งสองล้วนเป็นผู้มีพระคุณของพวกข้าสามีภรรยา พวกเจ้าไม่ได้เป็นเพียงเพื่อนของเย่เฟิง แต่เป็นผู้มีพระคุณของเย่เฟิงและหยุนเอ๋อร์ด้วย ความมีน้ำใจของทั้งสอง แม้ว่าข้าจะพยายามทำสุดความสามารถทุกอย่างก็ยากที่จะตอบแทนได้”
เซียวหยู่เซวียนและกู้ชูหน่วนตกใจกันหมด รีบประคองฮ่องเต้แห่งแคว้นฉู่ขึ้นมา
“ฝ่าบาท นี่พระองค์จะทำให้พวกข้าอายุสั้นแล้ว เป็นเหมือนที่พระองค์ตรัส เย่เฟิงเป็นเพื่อนของพวกเรา เพื่อเพื่อน เพื่อบิดามารดาของเพื่อนทำอะไรก็คุ้มค่าแล้วเพคะ”
“ยัยขี้เหร่พูดถูก และ…….ก็เพราะพวกเราไม่ได้ปกป้องเย่เฟิงให้ดี ถ้าวันนั้น…….”
คิดถึงอดีต ดวงตาของเซียวหยู่เซวียนก็มีความเจ็บปวดขึ้นมาทันที
แม้ว่าเรื่องนี้จะผ่านมานานแล้ว แต่เขายังคงโทษตัวเองอยู่
ชั่วชีวิต เขามีเพื่อนเพียงสี่คนคือยัยขี้เหร่และเย่เฟิง รวมทั้งหลิวเยว่อวี่ฮุยเท่านั้น
แต่เขาเห็นเพื่อนสนิทดั่งพี่น้องของเขาตายต่อหน้าต่อตา โดยไม่สามารถช่วยอะไรได้ ความรู้สึกชนิดนี้ช่างทรมานยิ่งนัก
บรรยากาศอบอวลไปด้วยความเศร้าจางๆ
ผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักที่สุดจากการตายของเย่เฟิง คือฮ่องเต้ฉู่และฮองเฮาฉู่โดยไม่ต้องสงสัย
ฮ่องเต้ฉู่ยังสามารถแสร้งทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดได้ แต่ฮองเฮาฉู่ล้างหน้าด้วยน้ำตาทุกคืน ตอนนี้ก็ยกแขนเสื้อขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่หางตาเบาๆอีก
เมื่อฮ่องเต้ฉู่เห็นเช่นนั้น มือใหญ่ๆของเขาโบกขึ้น “คนตายแล้วฟื้นไม่ได้ เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ไม่เอ่ยถึงแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าทั้งสองมาที่เรือนรับรองด้วยความรีบร้อนด้วยเหตุใด?”
กู้ชูหน่วนเอ่ยถามด้วยสีหน้าจริงจังและน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “เป็นเช่นนี้เพคะ ข้าอยากถามหน่อย ตอนนั้นขณะที่ฮองเฮาฉู่ให้กำเนิดนั้น ให้กำเนิดลูกคนเดียวหรือสองคนเพคะ”