อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 641 ข้าจำไม่ได้จริงๆ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 641 ข้าจำไม่ได้จริงๆ
“คนเดียว ก็คือเฟิงเอ๋อ”
ฮองเฮาฉู่ไม่เข้าใจเหตุผล ฮ่องเต้ฉู่ก็ไม่เข้าใจเหตุผล
“มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นฝาแฝดหรือไม่ เพียงแค่พวกท่านไม่มีความทรงจำเท่านั้นเพคะ?”
“ทำไมพระชายาหานถึงได้กล่าวเช่นนี้?”
“เพราะว่าพวกเราพบคนผู้หนึ่งที่หน้าตาเหมือนเย่เฟิงทุกประการเพคะ”
กู้ชูหน่วนปรบมือ ฮัวฉีหลัวรีบคุมตัวเลว่อิ่งที่ถูกสะกดจุดไว้เข้ามา
ทันทีที่เลว่อิ่งเข้ามา สีหน้าของฮองเฮาฉู่ก็เปลี่ยนไปอย่างมากทันที ฮองเฮาฉู่พุ่งเข้าไปโดยไม่สนใจภาพลักษณ์
“เย่เฟิง…..เจ้าคือเฟิงเอ๋อ เจ้ายังไม่ตาย?”
เลว่อิ่งไม่คุ้นเคยกับการมีคนมาเข้าใกล้ตั้งแต่ไหนแต่ไร
ทว่าพริบตานั้นที่ฮองเฮาฉู่ถาโถมเข้ามา ไม่รู้ว่าทำไม ในจิตใจของเขาก็มีความรู้สึกประหลาดแวบผ่าน
ความรู้สึกแปลกประหลาดนี้เขาไม่เคยมีมาก่อน
โดยเฉพาะขณะที่ฮองเฮาฉู่ยื่นมืออันสั่นเทาเข้ามา คิดจะสัมผัสใบหน้าของเขา แต่ก็กลัวว่าจะแตกสลายราวกับเป็นการถนอมสมบัติสุดล้ำค่าหายากเช่นนั้น ลังเลอยู่นานก็ไม่กล้าจะแตะต้องเขา น้ำตาที่หางตานั่นไหลร่วงลงมาทีละเม็ดๆเหมือนดั่งว่าวเชือกขาดเช่นนั้น
“ติก……”
น้ำตานั่นหยดลงบนหลังมือของเขา กลับร้อนจนทำให้หลังมือของเขาปวดร้อน
สี่สายตาประสานกัน ราวกับฮองเฮาฉู่มีคำพูดนับพันหมื่นคำต้องการจะพูด แต่ก็พูดไม่ออก
สุดท้ายไม่รู้ว่านางเอาความกล้ามาจากไหน จู่ๆนางก็กอดเอวอันแข็งแรงของเขาไว้ ร้องไห้โฮออกมา
ปากก็พึมพำกับตัวเองว่า “เฟิงเอ๋อ เฟิงเอ๋อของข้า เจ้ากลับมาแล้วจริงๆหรือ? ต่อไปนี้แม่จะไม่ทำเจ้าหายอีกแล้ว แม่จะใช้ชีวิตที่เหลือเพื่อชดเชยให้เจ้า”
ร่างกายของเลว่อิ่งชะงักทันที เหมือนสมองจะไร้การตอบสนองไปเช่นนั้น ปล่อยให้ฮองเฮาฉู่กอดไว้แน่น ข้างหูล้วนเป็นเสียงร่ำไห้ของฮองเฮาฉู่ที่เหมือนอกจะแตกจะขาดใจตายเช่นนั้น
ฮ่องเต้ฉู่เบ้าตาแดง เขาสงบกว่าฮองเฮาฉู่มาก แต่ร่างกายของเขาก็สั่นเทาตลอดเวลา
“เขา……เขาเป็นโอรสของข้าจริงหรือ?”
คำพูดหนึ่งของกู้ชูหน่วน ตัดขาดความหวังทั้งหมดของพวกเขา
“เขาไม่ใช่เย่เฟิง เพียงแค่หน้าตาเหมือนเย่เฟิงทุกประการเท่านั้นเพคะ”
ร่างกายของฮองเฮาฉู่โซเซ หน้าซีด “เจ้าพูดอะไร?”
ฮองเฮาฉู่ทำใจปล่อยจากเลว่อิ่งไปไม่ได้ นางกล่าวด้วยความมั่นใจว่า “เขาคือเฟิงเอ๋อ แม่ลูกจิตใจเชื่อมโยงกัน เขาก็คือเฟิงเอ๋อของข้า”
“เช่นนั้นท่านลองแยกแยะดูให้ละเอียดอีกทีพ่ะย่ะค่ะ” เซียวหยู่เซวียนกล่าวเตือน
ฮองเฮาฉู่เช็ดน้ำตา ตัดใจปล่อยเลว่อิ่งไม่ลง
จนถึงตอนนี้ นางเพิ่งจะสังเกตเห็นว่า‘เย่เฟิง’ที่อยู่ตรงหน้านี้ดูเหมือนผิดปกติเล็กน้อย
เขาเย็นชาเกินไป ทั่วร่างแผ่กระจายกลิ่นอายเย็นยะเยือกที่คนแปลกหน้าไม่ควรเข้าใกล้ ดวงตาที่ดูแวววาวมีชีวิตชีวาเป็นสีขาวดำแยกกันชัดเจนคู่นั้น หากว่าดูอย่างละเอียด ดวงตานั้นว่างเปล่ามาก เหมือนหุ่นกระบอกตัวหนึ่ง ไม่มีความคิดอะไรเป็นของตัวเอง เป็นเพียงหุ่นกระบอกที่ทำตามคำสั่งเท่านั้น
แม้ว่าเย่เฟิงจะเย็นชา แต่กลิ่นอายบนตัวของเขานั้นอ่อนโยนมาก และไม่ได้ไม่ปฏิเสธให้คนห่างเหินเป็นพันลี้เช่นนี้
ฮองเฮาฉู่ดึงเสื้อบนหลังของเขาออกอย่างสั่นเทา ตรงนั้นว่างเปล่า ไม่มีปานใดๆ และไม่มีดอกเหมยที่กำลังจะผลิบาน
ฮองเฮาฉู่มองไปทางกู้ชูหน่วนด้วยความตกใจ
นาง…..เฟิงเอ๋อของนางมีปาน
ฮองเฮาฉู่รีบดึงมือของเขาขึ้น หลังจากที่เห็นมือของเขาสมบูรณ์แบบไม่มีความเสียหายใด ก็แทบเป็นลมล้มไป ฮ่องเต้ฉู่รีบประคองร่างกายอันอ่อนแอของนางไว้
“ทำไม…….ทำไมถึงเป็นเช่นนี้……”
กู้ชูหน่วนกล่าว “ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงได้ถามฮองเฮาฉู่ว่าขณะที่ท่านให้กำเนิด โดยละเอียดแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นเพคะ?”
“โดยละเอียดแล้ว….วันนั้นพวกเราพบกับโจร และข้าก็ให้กำเนิดยาก คนข้างกายมากมายถูกฆ่า ไม่ง่ายกว่าที่ข้าจะให้กำเนิดเย่เฟิงออกมาได้ จากนั้นเด็กก็ถูกแย่งไปแล้ว”
“แล้วหมอตำแยคนนั้นล่ะเพคะ?”
“ตอนนั้นข้าหมดแรงสลบไปแล้ว จนข้าฟื้นขึ้นมา หมอตำแยก็ไม่มีแล้ว คนรับใช้ข้างกายก็ถูกฆ่าตายจนเกือบหมด”
ฮองเฮาฉู่พยายามนึกย้อนถึงรายละเอียดเล็กน้อยๆว่าเกิดอะไรขึ้นมาอย่างเต็ม แต่นางนึกไม่ออกจริงๆ
นางจำได้เพียงแค่ ลูกของนางเพิ่งจะถือกำเนิด ก็ถูกแย่งชิงไปแล้ว