อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 653 ถูกคนสนิทสังหาร
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 653 ถูกคนสนิทสังหาร
เซียวหยู่ชงชักดาบ คิดจะสังหารกู้ชูหน่วนไปตรงนั้นด้วยความโกรธแค้น
เซียวหยู่โหลวรีบห้ามไว้ “พี่ใหญ่ เรื่องราวยังไม่ได้ทำให้กระจ่าง ไม่แน่ท่านพ่ออาจจะไม่ได้ถูกนางฆ่า ท่านอย่าได้วู่วามเด็ดขาด”
“ให้คนมา เชิญเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพ” เซียวหยู่ชงตะคอกเสียงดัง เพ่งมองไปทางกู้ชูหน่วนอย่างดุดัน “หากท่านเป็นคนฆ่าท่านพ่อของข้า แม้ว่าท่านจะเป็นพระชายาหาน ข้าก็จะไม่ปล่อยท่าน”
ในดวงตาของกู้ชูหน่วนมีแววความเจ็บปวดแวบผ่าน
นางควรคิดถึงผลเช่นนี้ได้ล่วงหน้าแล้ว……
เป็นใครกันแน่ที่คิดจะใส่ร้ายนาง?
ข่าวคราวที่มุกมังกรเม็ดที่เจ็ดอยู่ในหัวใจของแม่ทัพใหญ่เซียวนี้ นอกจากนางและเย่จิ่งหาน ยังมีผู้ใดอีก?
ไม่ช้าเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพก็มาแล้ว และมาทั้งหมดห้าคน
เซียวหยู่ชงให้คนรับใช้เล่าเหตุการณ์มาโดยละเอียด ทั้งจวนแม่ทัพอยู่ในบรรยากาศที่ตึงเครียดเป็นที่สุด
“เรียนคุณชายใหญ่ หมู่นี้นายท่านสุขภาพไม่ดี ลำไส้ก็ไม่ดี คุณหนูให้ข้าน้อยนำซุปโสมมาให้นายท่านดื่ม ใครจะรู้ว่าหลังจากที่ข้าน้อยเข้ามา ก็เห็นนายท่านนอนจมอยู่ในกองเลือด และพระชายาหานก็บีบหัวใจของนายท่านจนแหลกละเอียดแล้ว”
สีหน้าของเซียวหยู่ชงเต็มไปด้วยความโกรธ เซียวหยู่โหลวไม่อยากจะเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นความจริง เซียวหวั่นเอ๋อร์ฟื้นขึ้นมา หอบท้องใหญ่ๆคุกเข่าอยู่หน้าศพของแม่ทัพใหญ่เซียวร้องไห้สะอึกสะอื้น
แต่เซียวหยู่เซวียนไร้สติจิตใจเหม่อลอย เหมือนกับยังไม่ตื่นขึ้นมาจากข่าวร้ายเช่นนั้น
กู้ชูหน่วนกล่าวว่า “ตอนที่ข้ามาท่านแม่ทัพใหญ่เซียวก็เสียชีวิตแล้ว หัวใจของเขาก็ถูกควักแล้ว ข้าเพียงแค่ตรวจสอบหัวใจที่ถูกบีบขยี้จนละเอียดของเขาเท่านั้น”
“ในเมื่อหัวใจของท่านพ่อข้าไม่ได้ถูกท่านควัก และไม่ได้ถูกท่านบีบขยี้ ท่านจะตรวจสอบทำไม ถูกบีบขยี้จนแตกละเอียดหรือไม่ แค่แวบเดียวก็สามารถมองออกได้แล้วไม่ใช่หรือ?”
ปากของกู้ชูหน่วนขยับแล้วขยับอีก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายเรื่องมุกมังกรให้พวกเขาฟังอย่างไร
แม้ว่าจะอธิบาย ก็ไม่แน่ว่าพวกเขาจะเชื่อ
“ทำไมท่านถึงได้ปรากฏตัวอยู่ที่นี่?”
“เป็นแม่ทัพใหญ่เซียวให้จางเว่ยส่งข่าวด้วยวาจา นัดให้ข้ามาพูดคุยที่ห้องลับในตอนเที่ยง”
“พระชายาหาน ท่านพูดโกหกด้วยหน้าตาใสซื่อจริงๆ จางเว่ยเพิ่งตายไปเมื่อหนึ่งชั่วยามก่อน ตอนนี้ก็ยังตรวจสอบการตายไม่ได้ ท่านจะพูดอย่างไรก็ได้”
จางเว่ยตายแล้ว?
นั่นก็เพราะฆาตกรวางแผนการไว้ล่วงหน้าแล้ว
“แม้จะเป็นเช่นนั้น แม้ว่าท่านพ่อของข้าจะนัดพบท่าน ทำไมเขาจะต้องส่งคนไปนัดท่านให้มาพบที่ห้องลับในตอนกลางวันแสกๆด้วย? ข้าจำได้ว่าท่านพ่อของข้าเกลียดท่านมาโดยตลอด ไม่ได้มีความรู้สึกดีอะไรกับท่าน และห้องลับนี่แม้แต่พวกเราสี่พี่น้องก็ไม่มีทางเข้ามาได้ง่ายๆ แล้วท่านมีสิทธิ์อะไร? แม้ว่าท่านพ่อจะนัดพบท่าน ท่านก็สามารถเข้ามาอย่างเปิดเผยได้ ทำไมต้องปีนกำแพงเข้ามาด้วยเล่า?”
เซียวหยู่ชงพูดจาข่มขู่กดดันคน คำถามหนึ่งเฉียบคมกว่าอีกคำถามหนึ่ง
กู้ชูหน่วนกำหมัดแน่น ทำได้เพียงกล่าวว่า “เรื่องนี้ซับซ้อน ตอนนี้ข้าก็ไม่มีปัญญาจะอธิบายให้กระจ่างได้”
“ไม่มีปัญญาอธิบายให้กระจ่าง หรือพูดให้ชัดเจนไม่ได้?”
เซียวหยู่โหลวพูดเกลี้ยกล่อม “พี่ใหญ่ รอให้เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพตรวจผลออกมาก่อนเถอะ”
การตายของท่านพ่อ สำหรับพวกเขาแล้วเป็นความกระทบกระเทือนอย่างใหญ่หลวง
แต่เขาเชื่อว่ากู้ชูหน่วนไม่ใช่คนเช่นนั้น
ท่านพ่อเกลียดนาง แต่หลังจากนั้นท่านพ่อก็มีความรู้สึกดีต่อกู้ชูหน่วนอย่างไม่มีเหตุผล
บางทีท่านพ่ออาจจะเชิญนางมาจริงๆก็เป็นไปได้
แต่เขาไม่กล้าพูด
พี่ใหญ่เป็นคนอารมณ์ร้อนมาแต่ไหนแต่ไร หลังจากที่พูดแล้วอาจจะคิดว่ากู้ชูหน่วนมีแผนการคิดจะทำร้ายท่านพ่อมานานแล้วก็ได้
ในที่สุดเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพก็ชันสูตรศพเสร็จ แต่ละคนกล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม
“ท่านแม่ทัพใหญ่เซียวถูกพิษในมีดดาวกระจายทำให้เกิดอาหารชาทั้งร่างกาย ไร้เรี่ยวแรงจะตอบโต้ พิษชนิดนี้ร้ายแรงยิ่งนัก เพียงแค่โดนเล็กน้อย ก็จะแพร่กระจายไปทั้งตัว สุดท้ายพิษก็จะกำเริบตาย”
“พวกเราตรวจสอบพิษในมีดดาวกระจายแล้ว พิษชนิดนี้ซับซ้อนมาก พวกเราไม่สามารถศึกษาออกมาในเวลาอันสั้นว่ามีส่วนประกอบอะไรบ้าง”
“แต่ที่สามารถมั่นใจได้คือ แม่ทัพใหญ่เซียวถูกคนลอบโจมตีลับหลัง อีกทั้งคนที่ลอบโจมตีนี้ก็ยังเป็นคนที่แม่ทัพใหญ่เซียวเชื่อใจมากอีกด้วย ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่เผยสีหน้าตกใจขนาดนี้ออกมาก่อนเสียชีวิต”