อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 671 กลัวเขาคิดมาก
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 671 กลัวเขาคิดมาก
“เป็นไปไม่ได้ แม่ของข้าจะเป็นพระชายายู่ได้อย่างไร เป็นถึงพระสนมของกษัตริย์ แล้วจะมาแต่งงานกับเฉิงเซี่ยงตำแหน่งเล็กๆ คนหนึ่งได้อย่างไร”
กู้ชูหน่วนพูดพึมพำ แววตาหย่อนคล้อย ยังคงยึดมั่นฟางเส้นสุดท้ายไว้
นางมีสถานะมากมายขนาดนั้น บางทีสถานะแม่ของนางก็อาจจะเป็นเท็จล่ะ?
“ตอนนั้นยู่เอ๋อร์ฝ่าฝืนกฎของเผ่า แอบคบหากับฮ่องเต้แคว้นเย่ ยังมี….มีเจ้า ยังเอามุกมังกรที่กว่าจะแย่งมาได้ยกให้กับคนอื่น นางยกให้ใคร จนถึงตอนนี้ยังเป็นปริศนา คนในเผ่าบีบบังคับถาม นางก็ไม่ยอมมอบมุกมังกรออกมา ยิ่งไม่ยอมแยกจากเย่หวง เจ้าว่าคนในเผ่า ยังจะสามารถยอมรับนางได้หรือ?”
“ยู่เอ๋อร์โดดเด่นเกินไป ล่วงเกินคนไม่น้อย ไม่มีเผ่าหยกคอยปกป้อง ตอนนั้นเผ่าเทียนเฟิ่นไล่ฆ่านางจนไม่มีทางเลือก ไม่มีที่ไป บวกกับเผ่าหยกที่บีบบังคับ นางจึงจำต้องแกล้งตาย เพื่อปกป้องเจ้า ปกป้องชีวิตของตนเอง จึงจำต้องแต่งงานเข้าไปอยู่ในจวนเฉิงเซี่ยง”
“ในเมื่อเผ่าหยกเกลียดชังพระชายายู่ขนาดนั้น แล้วทำไมถึงให้ข้าเป็นเผ่าหยกของเผ่าหยก?”
“เผ่าหยกมีกฎ มีเพียงผู้สืบสกุลธิดาเทพ ถึงสามารถเป็นหัวหน้าเผ่าได้ ไม่อย่างนั้นคนอื่นไม่มีโอกาส และหัวหน้าเผ่าก็เป็นผู้หญิงมาตลอด แน่นอน…..ที่สำคัญที่สุดก็คือแม่ของเจ้าเป็นผู้สืบสายเลือดธิดาเทพเพียงคนเดียว และแม่ของเจ้าก็มีเจ้าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียว”
กู้ชูหน่วนหัวเราะอย่างประชด หัวเราะด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแปรปรวน พร้อมพูดขึ้นว่า “ดังนั้น ที่ข้าได้เป็นหัวหน้าเผ่า เพียงเพราะสายเลือด? ขอเพียงเป็นลูกสาวของพระชายายู่ ไม่ว่าใครก็สามารถเป็นหัวหน้าเผ่าหรือ? ต่อให้คนคนนั้นเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิต?”
“คือ…..ตามกฎของเผ่าหยก เป็นแบบนี้จริง ร้อยพันปีมาก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง”
ผู้อาวุโสหกยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งเบา ความมั่นใจยิ่งอยู่ก็ยิ่งน้อยลง ราวกับรู้สึกผิดต่อกู้ชูหน่วนอย่างมาก
ไม่นาน เขาคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ รีบเงยหน้าขึ้น หายเมาไปแล้วกว่าครึ่ง พร้อมพูดขึ้นว่า “อาหน่วน ถึงแม้ที่เจ้าได้เป็นหัวหน้าเผ่า เพราะกฎของเผ่า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ต่อมาทุกคนล้วนชอบเจ้ามาก และก็รักเจ้ามาก คนในเผ่าต่างเห็นเจ้าเป็นหัวหน้าเผ่าอย่างจริงใจ”
กู้ชูหน่วนเดินโซเซออกมาจากห้อง คำพูดภายหลังของผู้อาวุโสหกฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
ตั้งแต่รู้สิ่งที่เผ่าหยกต้องเผชิญ นางไม่เคยได้นอนหลับอย่างสนิท ไม่มีสักวันที่ไม่คิดหาหนทางถอนคำสาปโลหิตของเผ่าหยก
นอกจากสงสารแล้ว ก็เพราะนางเป็นหัวหน้าเผ่าของเผ่าหยก ดังนั้นนางจะต้องรับผิดชอบภาระนั้น
แต่ตอนนี้ ผู้อาวุโสหกกลับบอกนางว่า นางถูกเลือกให้เป็นหัวหน้าเผ่า เป็นสิ่งที่ถูกกำหนดตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้ว
ที่สำคัญที่สุดก็คือ ไม่ง่ายกว่านางจะได้เจอผู้ชายที่นางรัก กลับกลายเป็นพี่ชายของนาง น่าขำ แดกดันขนาดไหน
เย่จิ่งหานนั่งอยู่บนเก้าอี้ ทั้งร่างกายบ่งบอกว่าใครก็อย่ามาเข้าใกล้ ใบหน้าโหดเหี้ยมขาวซีดจนน่ากลัว
สายตาของเขาเยือกเย็น มือทั้งคู่กำหมัดลั่นดังเอี๊ยด ราวกับกำลังอดกลั้นอะไรอยู่
ทันใดนั้น เขามองเห็นแผ่นหลังที่เงียบเหงาของกู้ชูหน่วน อยากยื่นมือไปประคองร่างที่โซเซของนาง แล้วจู่ๆ มือก็หยุดอยู่กลางอากาศ แววตาฉายแววเจ็บปวด
“พระชายายู่ตายยังไง?”
เสียงแหบแห้งค่อยๆ ดังลอยมาแต่ไกล เหมือนดั่งวิญญาณในยามค่ำคืน
ผู้อาวุโสหกอึ้ง พร้อมรีบพูดตอบว่า “ตอนนั้นนางได้รับบาดเจ็บสาหัสในค่ายกลนรกสิบแปดขุม ถึงแม้จะรอดออกมาได้ แต่….สุดท้ายก็ตาย แต่ก่อนที่นางจะตายได้ยกเจ้าให้กับพวกเรา แล้วก็เล่าเรื่องของเจ้าให้พวกเราฟัง”
ผู้อาวุโสหกพูดเสร็จ ตรงหน้าก็ไม่มีเงาร่างของกู้ชูหน่วนแล้ว
ผู้อาวุโสหกรีบยกเท้าวิ่งตามออกไป ดวงตาร้อนผ่าวคู่นั้น มองเห็นเพียงเงาหลังอันเงียบเหงาของกู้ชูหน่วน
“อาหน่วน เจ้าฟังข้าอธิบาย คนของเผ่าหยกไม่เคยรังเกียจเจ้า และก็ไม่เคยโทษสงสัยในตัวเจ้าเพียงเพราะแม่ของเจ้าหักหลังเผ่าหยก อาหน่วน เจ้ารอข้าก่อน…..”
เย่จิ่งหานกระอักเลือดออกมา พลังเรี่ยวแรงทั้งร่างกายเหมือนถูกดูดออกไปจนหมด เหน็ดเหนื่อยอ่อนแรงเหมือนอย่างคนแก่
“ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไรไหม……ข้าน้อยจะรีบไปตามหมอมา”
เย่จิ่งหานโบกมืออย่างอ่อนแรง ให้พวกเขาออกไปให้หมด แล้วขังตัวเองอยู่ในห้องคนเดียว ไม่ว่าใครจะร้องเรียกยังไงก็ไม่ตอบ
ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียร้อนใจอย่างมาก ทำได้เพียงเฝ้าอยู่ตรงหน้าประตูตลอดเวลา กลัวว่าท่านอ๋องจะคิดสั้น