อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 689 เจ้ากำลังพูดล้อเล่นหรือ
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 689 เจ้ากำลังพูดล้อเล่นหรือ
คำพูดของเขา กู้ชูหน่วนเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
แต่นางไม่มีอารมณ์สนใจความตั้งใจที่แท้จริงของอาจารย์ซ่างกวนแล้ว
หันไปเหลือบมองดูภูเขาอันกว้างใหญ่ที่ไม่มีที่สิ้นสุด กู้ชูหน่วนนั่งลงอย่างเกียจคร้าน จัดการบาดแผลของตนเองไปด้วย รอข่าวดีจากเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ด้วย
นางบาดเจ็บสาหัสทั้งภายในภายนอก ตรงท้องไม่รู้ว่าถูกอะไรบาดเป็นแผลใหญ่ เลือดไหลไม่หยุด เปื้อนชุดเดิมของนางที่แดงอยู่แล้ว
กู้ชูหน่วนถลกเสื้อขึ้น มองดูบาดแผลตรงหน้าท้อง ล้วงเอาขวดยาห้ามเลือดออกมา แล้วโรยบนบาดแผลของตนเอง
บาดแผลขนาดใหญ่ แทบจะเป็นการผ่าเจาะหน้าท้องของนาง ไม่อยากคิดว่าตอนที่นางโรยยาห้ามเลือดลงไปจะเจ็บปวดขนาดไหน
แต่กู้ชูหน่วนกลับไม่ขมวดคิ้วสักนิด เพียงกัดฟันอดทนกลั้นไว้
หากไม่ใช่เพราะมือที่จับบาดแผลสั่นเทา อาจารย์ซ่างกวนยังจะคิดว่านางไม่เจ็บปวด
มองดูนางฉีกเสื้ออย่างชำนาญ พันแผลให้กับตนเอง แล้วมองดูเม็ดเหงื่อบนหน้าผากนางที่ไหลลงอย่างต่อเนื่อง ในใจอาจารย์ซ่างกวนรู้สึกเจ็บปวด เขาขยับริมฝีปาก อยากพูดปลอบ แต่ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี
พระอาทิตย์ตกดิน ลมหนาวพัดผ่านมา กู้ชูหน่วนเอนพิงอยู่ใต้ต้นไม้อายุร่วมร้อยปี มือทั้งคู่ของนางกอดตนเองไว้แน่น ก้มหัวแนบเข่า ความโศกเศร้าเล็ดลอดออกมาจากตัวนาง
ภายในใจซ่างกวนฉู่ ปกติกู้ชูหน่วนนั่นหยิ่งผยองไม่ยอมพ่ายแพ้ ทำอะไรตามอำเภอใจ แค่อ้าปากก็สามารถทำให้คนโกรธจนเจียนตายได้เสมอ
ส่วนตอนนี้……
นางกลับเหมือนแกะน้อยไร้ที่พึ่ง ความโศกเศร้าที่แผ่ออกมาจากร่างของนาง ทำให้อยากที่จะเข้าไปโอบกอดนางไว้แน่นๆ
ริมฝีปากอาจารย์ซ่างกวนยักยิ้มเล็กน้อย ราวกับกำลังปลอบ พร้อมพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเปลี่ยนแปลงความจริงไม่ได้ งั้นก็ทำใจยอมรับ”
อาจารย์ซ่างกวนคิดว่า ไม่ว่าเขาจะปลอบยังไง กู้ชูหน่วนก็ไม่สามารถทำใจได้ง่ายๆ ขนาดนั้น
คนที่รักที่สุด จู่ๆ ก็กลายเป็นพี่ชายตนเอง ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถทนรับได้
แต่เขาคาดไม่ถึง กู้ชูหน่วนสูดหายใจเข้าลึกๆ มองดูพระอาทิตย์ตกดิน พยายามยิ้มแย้ม พร้อมพูดขึ้นว่า “ใช่ ในเมื่อเปลี่ยนแปลงไม่ได้ นอกจากยอมรับแล้วจะทำอย่างไรได้อีก ทิศทางไปเมืองหลวงอยู่ทางไหน หากขึ้นไปบนยอดเหวไม่ได้ เราก็เดินทางไปยังทิศทางหนึ่ง เดินตรงไปเรื่อยๆ ข้าไม่เชื่อว่าจะออกไปจากที่นี่ไม่ได้”
จู่ๆ อาจารย์ซ่างกวนก็ไม่รู้จะพูดว่าอะไรขึ้นมา
นางที่เป็นแบบนี้ ยิ่งทำให้เขาปวดใจ
ทั้งๆ ที่นางสนใจและเสียใจอย่างมาก กลับแกล้งทำเป็นไม่สนใจ
“เจ้าอยากร้องไห้ก็ร้องไห้เถอะ ข้าไม่พูดออกไปหรอก”
“ร้องไห้? ยังมีเรื่องมากมายขนาดนั้นที่รอให้นางไปทำ ข้ามีเวลาร้องไห้ที่ไหน”
กู้ชูหน่วนพยายามลุกขึ้นมา
นางมีเวลาเหลือไม่มากแล้วจริงๆ นางจะเสียเวลาอีกต่อไปไม่ได้แล้ว
ไม่รู้ว่า เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์หาทางออกได้หรือยัง นานขนาดนี้แล้วก็ยังไม่กลับมา
นางส่ายสะบัดหัว พยายามไม่คิดถึงเย่จิ่งหาน
ตอนนี้สิ่งที่ต้องจัดการให้เร็วที่สุด ก็คือตามหาฆาตกรที่ฆ่าแม่ทัพใหญ่เซียวก่อน ตามหามุกมังกร แล้วนำไปให้เผ่าหยก
เหลือเพียงสุดท้ายแค่นั้นแล้ว…….
พี่เฉินเฟย เจ้าต้องอดทนให้ได้นะ
หากเจ้าอดทนรอไม่ไหว นางจะต้องโทษตัวเองไปตลอดชีวิต
“เจ้าบาดเจ็บสาหัสอย่างมาก พักผ่อนอีกสองวันแล้วค่อยออกเดินทาง”
“……”
“ต่อให้เจ้าไม่พักผ่อน ข้าก็ต้องพักผ่อน”
ซ่างกวนฉู่ ชี้ไปที่บาดแผลของตนเอง
เขาบาดเจ็บสาหัสอย่างมาก ไม่สามารถลุกเดินได้
“งั้นเจ้ารออยู่ที่นี่ เราข้าจัดการเรื่องราวเสร็จแล้ว ค่อยมารับเจ้า”
“คุณหนูสาม เจ้ากำลังพูดล้อเล่นหรือ ในป่าเขารกร้างแบบนี้ หากมีสัตว์ร้ายมาทำร้าย ชีวิตข้าจะยังมีชีวิตรอดอยู่ไหม?”