อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 709 ล้มเหลว
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 709 ล้มเหลว
ทันใดนั้นเสี่ยวลู่ก็ดึงดาบคมกริบที่เปล่งประกายออกมาจากเอวของลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างๆคนหนึ่ง ยิ้มเย็นและเดินไปทางรองหัวหน้าเผ่าซือคง
ในดวงตาของนางมีแต่ความชิงชัง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเคียดแค้นแทนประชาชนเผ่าหยกที่บริสุทธิ์ที่ต้องตกระกำลำบากและตายอย่างอนาถหรือเปล่า
“ฉับ……”
หน้าผากของรองหัวหน้าเผ่าซือคงมีเหงื่อเย็นไหลลงมา พยายามจะถ่วงเวลา “กู้ชูหน่วน เจ้าไม่อยากจะรู้จริงๆหรือว่าขั้นต่อไปเลว่อิ่งจะทำอะไร”
เหลือเพียงนิดเดียวเท่านั้น เหลือเวลาแค่นิดเดียวจริงๆ เขาจะสามารถแก้การสกัดจุดได้แล้ว
“เจ้าเอาแต่พูดถึงเลว่อิ่งครั้งแล้วครั้งเล่า เจ้าอยากจะถ่วงเวลาหรือ”
กู้ชูหน่วนกวาดตามองไปรอบๆ แถวนี้ล้วนเป็นคนของนาง อยากจะบุกเข้ามามันไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ว่าเขามันเจ้าเล่ห์มาก อำนาจที่อยู่เบื้องหลังก็ยิ่งใหญ่ กู้ชูหน่วนก็เกรงว่าหากยื้อกันต่อจะไม่ดีต่อนาง สั่งการเสียงเย็นว่า
“ตัดเอ็นแขนขาของเขาเดี๋ยวนี้”
“เจ้าค่ะ”
เสี่ยวลู่ยื่นมือจะไปตัดเอ็นข้อมือของเขาอย่างไม่เกรงใจ ในเวลานี้เอง บริเวณที่ไกลออกมาไปมีเสียงพิณไพเราะดังขึ้น มาพร้อมกับไปสังหารที่มีพลังทำลายล้างสูงจนน่ากลัวดังขึ้น
จุดที่เสียงพิณผ่านไปล้วนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง เสียวลู่ชะงัก และเก็บอาวุธ
เพราะเสียงพิณนั้นมุ่งตรงเข้ามาโจมตีนางคนเดียว
ถ้าหากนางไม่ถอย คงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
คนอื่นอยากจะเข้าไปช่วย ต่างก็ถูกเสียงพิณที่มีระดับเสียงสูงขึ้นเรื่อยๆกระแทกจนต้องถอย
กู้ชูหน่วนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
เสียงพิณนี้……
เป็นเวินเส้าหยี……
เขายังไม่ตายจริงๆ ……
เวินเส้าหยีไม่ตาย นางน่าจะดีใจ เพราะเวินเส้าหยีมีบุญคุณต่อนาง
แต่ถ้าหากเขาคิดจะช่วยรองหัวหน้าเผ่าซือคง เช่นนั้นระหว่างพวกเขาคงไม่มีเรื่องบุญคุณต่อกันแล้ว คงเหลือแต่ความแค้น
กู้ชูหน่วนชักดาบอ่อนออกมาจากเอว คนกับดาบรวมเป็นหนึ่งไม่ถอยหลังแต่กลับพุ่งเข้าไปหา ยกดาบหลายเล่มขึ้นมาโจมตีไปทางพิณ
“ปัง……”
“เคร้ง……”
ดาบอ่อนกับพิณปะทะกัน เกิดเสียงดังบาดหูขึ้น
เวินเส้าหยีที่ควบคุมพิณหิมะนิ่งอึ้ง
ราวกับคิดไม่ถึงว่าวรยุทธของกู้ชูหน่วนจะก้าวหน้าได้รวดเร็วเช่นนี้
ในระยะเวลาสั้นๆได้ก้าวไปถึงขั้นที่สามแล้ว ยังสามารถสู้ได้สูสีกับเสียงสังหารของเขาได้
นี่เป็นเพราะฝีมือเขาถอยหลังเร็วเกินไป
หรือว่ากู้ชูหน่วนก้าวหน้าเร็วเกินไปกันแน่
หลังจากปะทะกันหนึ่งกระบวนท่า กู้ชูหน่วนก็ไม่ได้สู้ต่อ แต่หันหัวดาบไปทางรองหัวหน้าเผ่าซือคงเพื่อตัดเส้นเอ็นข้อมือและขาของเขา
ในใจนางเป็นกังวลว่าหากไม่ทำลายวรยุทธของรองหัวหน้าซือคง หลังจากนี้จะเกิดปัญหาขึ้นอีกมากมาย
แทบจะเป็นเวลาเดียวกัน ลูกน้องของกู้ชูหน่วนขยายค่ายกล ล้อมรอบเวินเส้าหยีเอาไว้
“โครม……”
ที่คาดไม่ถึงคือ ขณะที่กู้ชูหน่วนกำลังจะทำการตัดเส้นเอ็นข้อมือข้อเท้าของรองหัวหน้าเผ่าซือคงนั้น จุดลมปราณที่ถูกสกัดเอาไว้ของเขาก็ถูกแก้ได้ ปล่อยพลังที่แข็งแกร่งออกมา พุ่งทะยานไปจนถึงท้องฟ้า บีบให้กู้ชูหน่วนต้องถอยหลังไปสองก้าว
และในชั่วพริบตาที่ทุกคนต่างก็ถูกบีบให้ถอยออกไป รองหัวหน้าเผ่าซือคงที่เห็นยังดีๆอยู่ กลับ……
กลับไม่เห็นตัวซะแล้ว
ราวกับว่าเขาจะมีวิชากลายร่างหรือไม่ก็วิชาอำพรางตัว หายไปในป่าอย่างไร้ร่องรอย
สวีหู่เอ่ยอย่างโมโหว่า “คนเล่า หายไปไหนแล้ว”
สีหน้าของกู้ชูหน่วนเริ่มไม่พอใจขึ้นเรื่อยๆ
เวทมนตร์
เป็นวิชาเวทมนตร์ของเผ่าเทียนเฟิ่น
เหมือนที่อยู่ในแดนเหนือสุด สามารถทำให้เขาถอยจนถึงทางตันทำให้เขาสามารถตัดสินใจเพื่อจะทำให้สำเร็จ ทำให้หายไปได้อย่างไร้ร่องรอย
“ตาม ต้องหาตัวเขาให้พบเท่านั้น”
ถ้าหากหาตัวเขาไม่พบ ไม่ฆ่าเขา ไม่รู้ว่าเขาจะไปฆ่าคนอีกเท่าไหร่
“ขอรับ……”
คนกลุ่มใหญ่ไปตามหารองหัวหน้าเผ่าซือคง
ที่ไม่ไกลออกไปนักมีเงาร่างสีม่วงวาบผ่านไป หางตาของกู้ชูหน่วนพบว่า เงาร่างสีม่วงนั้นไม่ใช่เย่จิ่งหานแล้วจะเป็นใคร
เขาไม่ได้จากไปไหน
หลบอยู่อย่างเงียบๆตลอด
แล้วตอนนี้เขาจะไปไล่ตามรอหัวหน้าเผ่าซือคงหรือไง
แล้วมองไปทางเวินเส้าหยีที่อยู่ในค่ายกล กู้ชูหน่วนก็รู้สึกโมโหมาก ระบายความกราดเกรี้ยวทั้งหมดไปที่ตัวของเวินเส้าหยี