อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม - บทที่ 712 กลายเป็นคนไร้ประโยชน์
อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 712 กลายเป็นคนไร้ประโยชน์
แล้วมองไปทางเวินเส้าหยีที่โอนเอนแทบจะทรุดลงแล้ว ภาพที่เวินเส้าหยีช่วยเหลือนางอย่างไม่เสียดายชีวิตของตนเองที่ดินแดนเหนือสุดได้ผุดขึ้นมาในสมองอีกครั้ง
กู้ชูหน่วนพยายามจะดึงฝ่ามือของตนเองกลับมา แต่ร่างกายนางไม่อยู่ในการควบคุมเลย
แสงสีม่วงสว่างวาบขึ้น
นางเพิ่มระดับจากชั้นกลางระดับสามไปเป็นชั้นสูงสุดระดับสาม
ส่วนเวินเส้าหยีได้ลดระดับลงจากชั้นสูงสุดระดับสองเป็นชั้นกลางระดับสอง แล้วก็ลดลงไปที่ชั้นต้นระดับสอง สุดท้ายก็ลดลงไปที่ระดับหนึ่ง
ระดับหนึ่ง……
แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น……
ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป เวินเส้าหยีไม่ตายก็แปลกแล้ว
“อ๊า……”
กู้ชูหน่วนร้องเสียงดัง และไม่รู้ว่าเอาพลังมาจากไหน ฝืนบังคับให้ดึงฝ่ามือกลับมาได้
“ฟู่……”
เวินเส้าหยีกระอักเลือดออกมา เรือนร่างราวเทพบุตรล้มลงไปกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง
พลังทั้งหมดในร่างกายเขาเหมือนถูกสูบไปจนแห้งเหือด แค่ชั่วพริบตาก็ดูแก่ลงหลายปี ล้มลงกับพื้นเป็นเวลานานก็ยังไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
สภาพของกู้ชูหน่วนก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเลย นางจับที่จุดตันเถียนของตนเองอย่างเจ็บปวด ที่นั่นยังมีพลังอยู่หลายสายกำลังฉีกกระชากนางไม่หยุด ราวกับต้องการจะฉีกร่างนางเป็นสองเสี่ยง
“นายหญิง……ท่านเป็นอะไรหรือไม่”
“อาหน่วน……”
ผู้อาวุโสหกรีบมาอย่างร้อนใจ เมื่อเห็นร่างสีแดงเพลิงของกู้ชูหน่วน ก็รีบประทับฝ่ามือของตนเองไปที่แผ่นหลังของกู้ชูหน่วนทันที ช่วยนางปรับลมปราณภายใน
“อย่า……”
ทันใดนั้นกู้ชูหน่วนก็ตะโกนขึ้น
แต่ก็สายไปเสียแล้ว
พลังภายในของผู้อาวุโสหกก็พุ่งทะยานไปยังร่างของนางอย่างไม่สามารถควบคุมได้
ผู้อาวุโสหกตกใจ อยากจะดึงมือกลับแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
กู้ชูหน่วนแทบจะสบถคำหยาบออกมา
นี่เขายังไม่สร่างเมาหรือ
เดิมทีร่างกายนางก็แทบจะจนไม่ไหวอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ มอบพลังภายในเพิ่มให้นางอีก อยากจะให้นางจุกจนระเบิดหรือ
กู้ชูหน่วนเอ่ยอย่างยากลำบากว่า “ตาเฒ่า ท่านจงใจมาแกล้งข้าใช่หรือไม่”
“เจ้าเด็กคนนี้ทำไมพูดเช่นนี้ พลังภายในที่ข้าฝึกฝนอย่างยากลำบากมาหลายสิบปีให้เจ้าไปเปล่าๆ นี่ยังเรียกว่าแกล้งอีกหรือ”
“แม้ท่านจะให้ข้า ก็เปลี่ยนเป็นวิธีที่นุ่มนวลกว่านี้ได้หรือไม่”
“ได้ของดีไปยังจะเรื่องมากอีก ดูอย่างเวินเส้าหยีซิจากชั้นสูงสุดระดับหกถูกเจ้าดูดพลังภายในจนแห้งเหือด เหลือแค่ระดับหนึ่ง ช่างน่าเจ็บใจและน่าสงสารซะไม่มี ”
“ท่านจะบ่นอะไรหนักหนา รีบคิดหาวิธีเร็วเข้าเถอะ ร่างกายของข้าจุกจนจะระเบิดแล้ว”
ผู้อาวุโสหกรีบเก็บรอยยิ้มล้อเล่น เอ่ยด้วยเสียงที่จริงจังเล็กน้อยว่า “ข้าจะสอนวิชาควบคุมจิตใจให้เจ้า เจ้าลองดูว่าจะสามารถถอนฝ่ามือได้หรือไม่”
ปากของผู้อาวุโสหกขยับ สอนคาถาของเผ่าหยกให้นาง
กู้ชูหน่วนกลับส่ายหน้าไปมาอย่างเจ็บปวด”ไม่ได้ ข้าสงบจิตใจลงไม่ได้ ข้าทรมานเกินไป ข้าเรียนรู้ไม่ได้ ท่านถอนฝ่ามือเลยไม่ได้หรือ”
“ข้า……ข้าก็ถอนฝ่ามือไม่ได้เช่นกัน”
“ท่านเป็นผู้อาวุโสไม่ใช่หรือ ทำไมเรื่องแค่นี้ก็ทำไม่ได้”
“ใครบอกว่าเป็นผู้อาวุโสแล้วต้องทำเรื่องพวกนี้เป็น ……เมื่อครู่เจ้าถอนฝ่ามืออย่างไร เจ้าลองดูอีกครั้ง”
“ไม่ ……ไม่รู้ว่าเมื่อครู่ถอนอย่างไร เหมือนระเบิดพลังออกมาด้วยอารมณ์ร้อนใจชั่ววูบ จึงถอนฝ่ามือได้”
“เช่นนั้นเจ้าก็ลองปะทุพลังที่แข็งแกร่งออกมาดูอีกสักครั้ง”
กู้ชูหน่วนรู้สึกระอาใจมาก
นางก็อยากจะทำ แต่สิ่งสำคัญคือนางระเบิดมันออกมาไม่ได้
“อ๊า……”
ใบหน้าของกู้ชูหน่วนถูกพลังอัดแน่นจนบิดเบี้ยวขึ้นมา
ในเวลาสั้นๆ นางถึงกับบรรลุไปถึงระดับที่สี่
ชั่วขณะนั้นพวกสวีหู่ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือว่าเสียใจ
พลังของนายหญิงเพิ่มขึ้นมากมายอย่างรวดเร็ว พวกเขาควรจะดีใจ
แต่ว่า……
แต่ว่านายหญิงก็ดูทรมานมาก
โดยเฉพาะได้ดูดพลังภายในมากมายมาจากตัวผู้อาวุโสหก……
ไม่สามารถดูดพลังจากพวกเศษสวะของเผ่าเทียนเฟิ่นได้เลยหรือ
“ข้าจะไปหาผู้อาวุโสเจ็ดเอง”
เสี่ยวลู่ไหวตัวอย่างรวดเร็ว หายไปอย่างไร้ร่องรอยในชั่วพริบตา
เวินเส้าหยีมองกู้ชูหน่วนอย่างอ่อนแรง ในใจมีแต่ความขมขื่น ทั้งเป็นห่วงแทนกู้ชูหน่วน ทั้งรู้สึกเศร้าแทนตนเอง
พลังยุทธทั้งหมดแทบจะหมดสิ้นแล้ว
ถือว่าเขาได้กลายเป็นคนไร้ประโยชน์อย่างสิ้นเชิงแล้ว